ทุกวันนี้รถยนต์ดีๆสักคัน ไม่เพียงแค่รูปสวยขับดี มันต้องชาญฉลาด ระยะหลังเราเห็นรถยนต์ติดตั้งระบบช่วยขับขี่ต่างๆมามากมาย มันช่วยลดความตึงเครียดในการขับขี่ได้ดี แต่คนจำนวนมากยังไม่เห็นความสำคัญของระบบเหล่านี้มากมายเท่าไรนัก
ระบบเตือนการหลุดเลน หรือ Lane Keeping Assisted และอื่นๆ อีกมากที่พยายามเรียกให้ชื่อมันแตกต่างกัน แต่ทำงานเหมือนกัน เป็นระบบที่เรามักจะเห็นในรถยนต์ยุคใหม่หลายรุ่น ตั้งแต่รถยนต์ธรรมดาทั่วไปราคาไม่กี่แสนบาทไปจนถึงหลายล้านบาท มันอาจจะดูเป็นระบบที่ไม่ได้มีความสำคัญอะไรมาก แต่ข้อมูลใหม่ ชี้ว่า ระบบที่ช่วยในการคุมรถให้อยุ่ในเลน สามารถลดอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้ถึง 85,000 ครั้งต่อปี
งานศึกษาวิจัยชิ้นใหม่จาก IIHS ระบุว่า ระบบเตือนการหลุดเลนและช่วยประคองรถในเลน สามารถลดอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นได้มากถึงร้อยละ 11 ซึ่งยังผลให้มันลดจำนวนผู้บาดเจ็บจากอุบัติภัยบนถนนได้ถึงร้อยละ 21 และ ลดการเสียชีวิตจากการขับขี่ยานพาหนะได้ร้อยละ 86 เมื่อเทียบกับรถที่ไม่ได้ติดตั้งระบบดังกล่าวมา
Kraftstoffverbrauch kombiniert: 4,8 l/100 km, CO2-Emissionen kombiniert: 127 g/km // Fuel consumption combined: 4.8 l/100 km; Combined CO2 emissions: 127 g/km
และเมื่อเทียบกับระบบช่วยเหลือในการขับขี่ทางด้านความปลอดภัยในระว่างขับรถหรือที่เรียกว่า Active Safety อื่นๆ ถือว่า เป็นระบบที่เรียบง่าย แต่ให้ความปลอดภัยมากขึ้นในระดับที่สูงมาก
โดยระบบช่วยเหลือในระหว่างการขับขี่ ที่ทำหน้าที่เพิ่มความปลอดภัยได้ดีอีกระบบ คือ ระบบ Blind Spot Monitoring สามารถลดมุมอับสายตา โดยเฉพาะการชนที่เกิดจากการเปลี่ยนเลนกระทันหันของผู้ขับขี่ ซึ่งสามารถลดการชนได้ร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับรถยนต์ที่ไม่ติดตั้งระบบ
อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะมีระบบต่างๆ มาให้โลกยุคใหม่ และบริษัทรถยนต์พยายามยัดมาให้คุณได้ใช้ แต่จากรายงานของ IIHS ซึ่งศึกษาในอเมริกา ก็พบเรื่องที่น่าตกใจ เพราะผู้ขับขี่รถส่วนใหญ่ มักจะปิดระบบแจ้งเตือนมุมอับรถ
โดยจากการทำการสำรวจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ในอเมริกากว่า 9 แบรนด์ดัง พบว่า เจ้าของรถยนต์ส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 51 ปิดระบบดังกล่าวไม่ใช้งาน และที่น่าสนใจมากกว่า คือ ระบบที่ทางผู้ผลิตให้ส่งเสียงเตือน จะถูกปิดมากกว่า ระบบที่ไม่ส่งเสียงเตือน
และทาง IIHS เห็นว่า ถึงผู้ขับขี่จะปิดระบบเพราะความน่ารำคาญในการทำงานยิบย่อยของมัน แต่ส่วนหนึ่งก็มาจากผู้ผลิต ทำให้มันปิดง่ายเกินไป เมื่อเทียบกับ Volvo ผู้ผลิตรถยนต์ยอดปลอดภัยชั้นนำ แม้ว่าลูกค้าจะต้องการปิดระบบก็ต้องตั้งใจในการเจ้าไปหาแมนูที่ซ่อนในระบบความบันเทิงภายในรถ
ด้าน IIHS กล่าวรายงานสรุปผลการวิจัยชิ้นนี้ว่า แม้ว่าระบบความปลอดภัยชั้นนำต่างๆมากมาย จะมีความปลอดภัยมากในการขัขี่ และมีราคาที่คิดมุลค่ารวมกับตัวรถมาแล้วด้วยในตอนที่ลูกค้าซื้อ และมันชี้ว่าลูกค้าได้รถที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น แต่หากระบบเหล่านี้ไม่ถูกเปิดใช้งาน มันก็ไร้ค่า และคำถามสำคัญคือว่า จะซื้อรถที่ติดตั้งระบบเหล่านี้มาทำไม ถ้าไม่ใช่หรือไม่คิดจะใช้
ชอบกดไลค์ใช่กดแชร์ ขอบคุณทุกกำลังใจสำหรับพวกเรา ridebuster.com
