หาก Roll-Royce Ghost ราคา 30 กว่าล้านบาท ที่กำลังเป็นประเด็นบนโลกออนไลน์ ถือว่าแพง เจ้า Rolls-Royce Droptail ที่พึ่งถูกเปิดตัวมาหมาดๆคันนี้แพงกว่านั้นหลายเท่า เพราะแค่ราคาเปิดตัวแบบไม่รวมภาษี ก็เฉยด 900 ล้านบาท เข้าไปแล้ว

Rolls-Royce Droptail คันนี้ ถูกสร้างขึ้นโดยแผนกพิเศษของแบรนด์ Coachbuild Division ที่ถูกตั้งแยกออกมาเพื่อทำรถยนต์รุ่นพิเศษให้กับลูกค้าสุดเอ็กซ์คลูซีฟเท่านั้นโดยเฉพาะ และในความเป็นจริงแล้ว ตัวรถรุ่นนี้ ก็จะถูกผลิตขึ้นเพียง 4 คันบนโลกเท่านั้น และตัวรถคันแรกที่ถือกำเนิดขึ้นก่อนใคร ก็มีชื่อเรียกเท่ๆว่า Rolls-Royce ‘La Rose Noire’ Droptail

แน่นอน ด้วยชื่อที่บ่งบอกไว้อย่างชัดเจน เฉดสีของตัวรถที่เห็นเป็นสีแดงเหลือบดำอย่างมีมิตินั้น ก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากดอกไม้ที่ใครๆก็รู้จักอย่างดอกกุหลาบ ซึ่งจุดสำคัญก็คือ มันไม่ใช่ดอกกุหลาบทั่วๆไป แต่เป็นดอกกุหลาบพันธ์ Black Baccara ที่มีสีดำอมม่วงจนถึงดำอันเป็นเอกลักษณ์ และสามารถตีความหมายในเชิงการบ่งบอกถึง “รักแท้ และ ความลึกลับ” ไปพร้อมๆกันได้อย่างลงตัว

นอกจากเฉดสีที่เพียงเล่าที่มาก็รู้เลยว่าแพง ! โครงสร้างตัวถังของมัน ยังไม่เหมือนกับรถยนต์ Roll-Royce คันอื่นๆที่ Coachbuild Division ทำขึ้นมาก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็น Sweptail หรือ Bobtail เพราะในขขณะที่พี่ๆของมัน ใช้โครงสร้างพื้นฐานจากรถยนต์ของแบรนด์ที่มีอยู่แล้วอย่าง Cullinan, Ghost, และ Phantom

แต่เจ้าราชรถน้องใหม่คันนี้ กลับใช้โครงสร้างตัวถังแบบโมโนค็อกที่ออกแบบใหม่เพื่อมันโดยเฉพาะ และยังใช้วัสดุในการสร้างที่ผสมผสานด้วยวัสดุหลายแบบด้วยกันไม่ว่าจะเป็นเหล็ก, อลูมิเนียม, หรือแม้กระทั่งคาร์บอนไฟเบอร์

แต่ทั้งนี้ในส่วนของเครื่องยนต์ ก็ยังคงเป็นบล็อค V12 ขนาด 6.75 ลิตร พ่วงเทอร์โบคู่ ลูกเดิมกับเหล่าพี่น้อง ที่ให้กำลังสูงสุด 593 แรงม้า (HP) และแรงบิดสูงสุด 840 นิวตันเมตร ซึ่งแม้ตัวรถจะดูเหมือนไม่สามารถทำความเร็วได้มากนัก แต่ด้วยขุมกำลังบล็อคใหญ่และแรงระดับนี้ ก็ทำให้มันสามารถเรียกอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายในเวลาเพียง 5 วินาที และมีความเร็วสูงสุดที่ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ส่วนงานดีไซน์อื่นๆของตัวรถที่เห็นได้จากภายนอก ก็คงต้องเริ่มจากชุดกระจังหน้าขนาดใหญ่ ที่อาจจะไม่ได้ใหญ่มากนักเมื่อเทียบกับรถรุ่นอื่นๆของแบรนด์ แต่ก็ยังคงมีงานดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์พร้อมหุ่นนางฟ้าสยายปีกทางด้านบน, ชุดโคมไฟหน้า LED แบบใหม่ ที่ค่อนข้างแบนแต่กว้าง พร้อมแถบไฟ DRL, หลังคา งานคาบอนไฟเบอร์ พร้อมระบบพับเก็บไฟฟ้า

ตัวถังด้านข้างเน้นเส้นสายที่สวยงาม นุ่มนนวลและลื่นไหลตั้งแต่หัวจรดท้ายที่มาพร้อมกับเส้นสายแบบท้ายตก ซึ่งทางค่ายไม่เคยทำมาก่อน และที่พิเศษกว่านั้นก็คือชุดไฟท้ายที่ค่อนข้างโฉบเฉี่ยวผิดภาพลักษณ์แบรนด์ แถมยังมีสปอยเลอร์หลังใส่มาให้อีก และมันก็เป็นสิ่งที่เราเห็นไม่บ่อยกันเท่าไหร่นัก สำหรับรถยนต์จากแบรนด์นี้

ภายในห้องโดยสาร เน้นการตกแต่งด้วยโทนสีแดงรับกับภายนอก ทั้งเบาะนั่งหุ้มหนังอย่างดี (ดีสุดๆ) และลูกเล่นปุ่มกดต่างๆ ช่องแอร์ พวงมาลัย ทุกอย่างล้วนเป็นงานทำมือ และยังมีนาฬิกาข้อมือจาก Audemars Piguet รุ่นพิเศษ สั่งทำมาเฉพาะเพื่อตัวรถรุ่นนี้ใส่มาให้ที่คอนโซลหน้าอีก

และหากเท่านั้นยังไม่พอ รถคันนี้ยังมีอีกจุดทำให้มันกลายเป็นรถที่น่าสนใจสุดๆไม่แพ้งานออกแบบรูปทรงตัวรถ ก็คือ “งานศิลปะ” ที่อยู่ด้านหลังของตัวรถ, คอนโซลหน้า, และแผงหลังห้องโดยสาร ซึ่งถูกสร้างขึ้นจากไม้วีเนียร์ขนาดไม่เท่ากันกว่า 1,603 ชิ้น นำมาทำสีเล่นมิติกับแสงเงา และนำมาต่อกันจนเป็นแผงหลัง ให้อารมณ์ประดุจดังมีกลีบกุหลายโปรยอยู่ตลอดเวลา เรียกได้ว่าน่าจะยั่วน้ำลายมหาเศรษฐีนักสะสมได้ดีเลยทีเดียว และทาง Roll-Royce ก็ระบุว่าพวกเขาต้องใช้เวลาในการสร้างมันถึงเกือบ 2 ปี เลยทีเดียว ถึงจะได้งานที่ออกมาสมบูรณ์ตามมาตรฐานของแบรนด์เช่นนี้

ในความเป็นจริงแล้ว ตัวรถคันนี้ยังมีรายละเอียดยิบย่อยที่บ่งบอกถึงความพิเศษของมันอีกมาก ไม่เว้นแม้กระทั่งของแถมติดรถ อย่างเช่น ชุดเครื่องดื่มแชมเปญ สีเดียวกับตัวรถ (คือไม่ได้มีแค่แก้ว กับขวดแชมเปญ แต่มาทั้งแท่นวาง และเคสสำหรับพกพาไปปิกนิคกันเลย) ก็ยังมีมาให้ด้วย

และถึงแม้ทางค่ายจะไม่ได้มีการเปิดเผยราคาที่แน่ชัด แต่จากการประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญแล้ว เชื่อว่าเจ้า Rolls-Royce ‘La Rose Noire’ คันนี้ จะต้องมีราคาไม่น้อยกว่า 25 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือ ราวๆ 880 ล้านบาท ซึ่งนี่เป็นราคาที่ยังไม่รวมภาษีนำเข้าในประเทศไทย

ดังนั้นหากเจ้าของรถคันนี้คือคนไทย มันจะต้องมีราคาหลายพันล้านบาทแน่นอน อย่าไปจ่อท้ายเข้าเชียวล่ะ…

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่