ในบรรดารถยนต์อเนกประสงค์จากกระบะที่ได้รับความนิยม มายาวนาน ผมเชื่อมั่นว่า Toyota Fortuner เป็นหนึ่งในรถที่ขายดีรุ่นหนึ่งในวันนี้ หากกระแสจากลูกค้าดูเหมือนว่าพวกมันจะขาดบางออพชั่น รวมถึงรุ่นย่อยที่ตอบโจทย์ความต้องการชองลูกค้าได้
หนึ่งในนั้น คือ การมีรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อในเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร ซึ่งหลายคนต่างมองว่ามันเป็นไปได้ และการเปิดตัวขุมพลังขับเคลื่อนดังกล่าวในกระบะ Toyota Hilux Revo ก็ทำให้สาวกใจชื้นว่าไม่นานรถรุ่นนี้ จะต้องมาทำตลาดในอเนกประสงค์อย่างไม่ต้องสงสัย
การเปลี่ยนแปลง Toyota Fortuner เมื่อปีกลาย นอกจากการเพิ่มระบบดิสก์เบรก 4 ล้อ เข้ามาตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้นแล้ว การเพิ่มรุ่นย่อยใหม่เข้ามา Toyota Fortuner 2.4 4X4 ถือเป็นอีกตัวเลือกที่ทำเอาเสียงเกรียวกราวจากลูกค้าไม่น้อย
ประเด็นหลักสำคัญของการเพิ่มรุ่นย่อยดังกล่าว ก็มาจากลูกค้าหลายรายที่มองว่าอยากได้รถขับเคลื่อนสี่ล้อ แต่ไม่มีงบประมาณมากพอสำหรับการจะไปเล่นรถแบบนี้ในเครื่องยนต์ 2.8 ลิตร รวมถึงบางคนยังชีวิตแบบกึ่งเมือง คือ มีรถไว้ขับเข้าเมืองบ้างเป็นบางวัน หรือใช้งานทุกวัน และในวันหยุดก็อยากจะไปเที่ยวแบบสมบุกสมบัน ถึงกึ๋นกัน เข้าถึงธรรมชาติ
ความใจปล้ำของ Toyota ทำให้เราได้เห็น เจ้า Toyota Fortuner ใหม่ รุ่นเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร ที่ติดตั้งมาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเข้ามาทำตลาดในวันนี้ โดยหัวใจหลักสำคัญคือการทำให้มันแตะต้องได้ง่ายสำหรับลูกค้า โดยเฉพาะราคาขายที่แตกต่างจากรุ่นเครื่องยนต์ 2.8 ลิตร ถึง 164,000 บาท เป็นค่าตัว
รายละเอียดภายนอก เห้นหน้าค่าตาก็บอกเลยว่าไม่แตกต่างจากเดิมในรายละเอียดกับรุ่นก่อนหน้นานี้มากนัก ขับรถข้างกัน คุณไม่มีทางแยกออกระหว่างรุ่นเครื่องยนต์ 2.4 และ รุ่นเครื่องยนต์ 2.8 เพราะมันใช้ การออกแบบทั้งหมด รวมถึงชุดล้อขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 265/60/R18 จากโรงงาน ดูรายละเอียดเหมือนกันราวกับแกะ
ไฟหน้า Toyota Fortuner มาพร้อมชุดไฟหน้าแบบ Bi Beam LED ไฟหน้าเจ้าปัญหาดังกล่าว ดูเหมือนจะมีการปรับแก้ไขแล้วในรุ่นใหม่ จนบางครั้งขับกลางคืน เรารู้สึกว่าการส่องสว่างลดลง เนื่องจากไฟถูกกดต่ำไม่ให้รบกวนสายตาเพื่อนร่วมทาง แต่ก็ต้องแลกมาด้วยวิสัยทัศน์ที่จำกัดกว่าเดิม
ด้านในห้องโดยสาร Toyota Fortuner 2.4 4X4 เน้นใช้รายละเอียดของรุ่น 2.4 ลิตร ไม่ว่าจะเบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า ทางฝั่งคนขับและคนนั่งที่มาพร้อมสีน้ำตาล แทนที่จะเป็นสีครีมชามัวร์แบบ รุ่น 2.8 ลิตร นอกนั้นรายละเอียดแทบจะเหมือนเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร ไม่ว่าจะระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัส สามารถเล่น DVD ได้ มาพร้อมลำโพงในห้องโดยสารสูงสุด 6 จุด
ถ้าพูดกันตามความจริงเลย Toyota Fortuner 2.4 4X4 เป็นเพียงร่างทรงขับ 4 ในออพชั่นรุ่นเล็กเท่านั้น เครื่องยนต์ 2.4 ลิตร ถึงบางคนจะครหาว่ากำลังน้อยกว่าเครื่องยนต์ 2.8 ลิตร หากก็พอเพียงในการลุยระดับหนึ่งด้วยกำลังสูงสุด 150 แรงม้า สูงสุดที่ 3,400 รอบต่อนาที และทำแรงบิด 400 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,000 รอบต่อนาที
หากเปรียบเทียบกัน จะพบวา เครื่องยนต์ 2.8 ลิจร มีกำลังมากกว่า 27 แรงม้า และทำแรงบิดมากกว่า 50 นิวตันเมตร และมีรอบแรงบิดสูงสุดยาวกว่าเล็กน้อย ทั้งคู่มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และมีระบบควบคุมป้องกันล้อหมุนฟรีแบบพิเศษ A-TRC เหมือนกัน
จะว่าไปแล้ว เจ้า Toyota Fortuner รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ เครื่อง 2.4 ลิตร แทบจะไม่มีออพชั่นอะไรต่างจากรุ่นใหญ่ เว้นขนาดเครื่องยนต์ และเบาะนั่งสีน้ำตาย ที่อาจจะดูสูงวัยไปหน่อยสำหรับวัยรุ่น
สำหรับผมเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร รหัส 2GD-FTV ถือว่ามีกำลังเครื่องยนต์ที่ค่อนข้างน่าพอใจเป็นทุนเดิมมันมีแรงบิดดี จนสามารถขับได้ดีเทียบเท่ารถเครื่องขนาดใหญ่ในยุคก่อน ขณะเดียวกัน ด้วยกระบอกสูบ 2.4 ลิตร ทำให้มันประหยัดน้ำมันกว่า
การขับขี่ในเมืองตามภาษารถเครื่องยนต์ขนาดใหญ่อาจฟังดูน่าหวั่นใจบ้าง แต่เจ้า Toyota Fortuner ไม่ทำให้เรารู้สึกกังวล ส่วนหนึ่งด้วยการตืดตั้งระบบ idling Stop เข้ามาตอบโจทย์ เป็นสิ่งหนึ่งที่ผมให้เครดิตกับรถยนต์กระบะและอเนกประสงค์จากกระบะของ Toyota มากกว่าเจ้าอื่น
แต่ในการทดสอบทดลองขับในเมืองตั้งแต่รับรถมา เพื่อความเท่าเทียมกับรถรุ่นอื่น ผมจึงปิดระบบนี้เอาไว้ แล้วขับใช้งานตามสภาวการณ์จริง กว่า 193 กิโลเมตรในการใช้งาน ผมพบว่า เจ้า Toyota Fortuner 2.4 4WD ซดน้ำมันแทบไม่ต่างจากรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ อัตราประหยัด 10 กิโลเมตร/ลิตร ถือว่ารับได้กับเจ้าบึกขนาดใหญ่คันนี้ ในภาวะขับจริงติดจริง ตามรูปแบบการจราจรเมืองกรุงในวันนี้
ไหนๆ ก็ได้รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อมาแล้ว งานนี้ก็คงจะต้องขอเอามาลองลุยกันสักหน่อย รถยังใหม่มาก ผมเลยไม่ลุยโหดเลยเลือกทุ่งแสลงหลวงเป็นปลายทางวันนี้
การเดินทาง ประกอบด้วย คน 2 คน พร้อมสัมภาระ ผมขับจากกรุงเทพตามเส้นทาง บ่ายหน้า สู่จังหวัดเพชรบูรณ์ ตลอดเส้นทางใช้ความเร็วไม่เกิน 120 ก.ม./ช.ม. ตามภาวการณ์ขับขี่จริงของคนปกติทั่วไป
ในช่วงการเดินทางแบบนี้ ด้วยทัศนวิสัยที่กว้างประกอบกับระบบช่วงล่างแบบปีกนกอิสระ 2 ชั้นทางด้านหน้า พร้อมเหล็กกันโคลง และด้านหลังโฟร์ลิงค์พร้อมเหล็กกันโคลง ทำให้ระบบช่วงล่างค่อนข้างนิ่งขับสบาย จะมีติก็อาการยวบตัวบ้างยามกระโดดคอสะพานหรือเข้าโค้ง อาจไม่ถูกจริงกับคนที่ชอบใช้ความเร็วในยามเดินทาง ซึ่งอาการนี้จะหายไป ถ้าคุณกำเงินสักหน่อยไปเปลี่ยนโช๊คอัพดีๆ สักชุด รับรองว่าหายขาดเป็นปลิดทิ้งอย่างแน่นอน
ขับมาได้สักพักใหญ่ก่อนเข้าช่วงเขาของเพชรบูรณ์ผมตัดสินใจแวะเติมน้ำมัน วัดระยะทางนอกเมือง วัดอัตราประหยัด ผมขับจากกรุงเทพมหานคร มาไกลถึง 264.3 กิโลเมตร เติมน้ำมันไป 24.8 ลิตร หรือ ตีเฉลี่ยแล้ว ขับด้วยความเร็วขนาดนี้ จะกินประมาณ 10.65 กิโลเมตร ต่อลิตร โดยประมาณ
จะลุยที่เพชรบูรณ์หน้านี้ต้องไปไหน ผมนึกในใจเอาง่ายๆ ไปสบายๆ ก็ทุ่งแสลงหลวงแล้วกัน การเดินทางไปทุ่งแสลงหลวง ผมใช้เส้นทางตัดผ่านเขาค้อแล้วตรงผ่าไปยังเส้นทางตามที่ Google Map นำทางให้
ข้อดีการขับรถเครื่องดีเซลขึ้นเขา คือ พวกมันมีแรงบิดเยอะ ทำให้การขึ้นทางลาดชันนั้นค่อนข้างง่าย ถึงกำลังจะด้อยกว่าเครื่องยนต์ 2.8 แต่การสู้เนินเขาค้อแบบสบายๆ ไปไม่เหนื่อย ก็พิสูจน์แล้วว่า มันมีความสามารถในการขับขี่ด้อยกว่าเพียงเล็กน้อย จนแทบไม่รู้สึกด้วยซ้ำไป
และเมื่อพูดถึงการลุย วันต่อมา ผมจับเจ้า Toyota Fortuner 2.4 4X4 เข้าไปสำรวจป่าทุ่งสะวันน่าในทุ่งแสลงหลวง ในแบบเส้นทางไม่ลุยโหด ก็สามารถฝ่าฟันผ่านไปได้อย่างสบายมากไร้ปัญหา ด้วยความสามารถระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่มีระบบ A-TRC หากล้อเกิดฟรีด้านใดด้านหนึ่ง จากที่เคยทดสอบในสนามทดสอบ Toyota ระบบจะทำการเบรกเฉพาะล้อด้านนั้น เพื่อให้มีกำลังแรงบิดไปยังล้ออีกด้าน คล้ายกับการกระจายแรงบิดของ E Diff เพียงแต่ใช้การควบคุมการทรงตัวเข้าช่วยในการฝ่าอุปสรรค
ถึแม้ว่าจะไม่ลุยโหดมากครั้งนี้ แต่ถ้าถามผมว่า มันมีโอกาสที่จะสามารถขับด้วยความสามารถที่เท่ากันกับรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ 2.8 ลิตร หรือไม่ ผมว่า ตอบได้เลยว่าเท่ากันอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะสิ่งเดียวที่ต่างคือเครื่องยนต์ที่มีกำลังน้อยกว่า จามันไม่ใช่สาระสำคัญ เมื่อคุณลุยเว้นแต่ ในเส้นทางประเภทดินโคลน ที่อาจจะต้องตะกุยมากเป็นพิเศษ
ผมยื่นกุญแจคืนน้องทีมงาน Toyota แล้วคิดว่า Toyota คิดถูกแล้วที่ตัดสินใจทำรถรุ่นนี้ออกมาขาย ราคาต่างกันกับเครื่อง 2.8 ลิตร 160,000 บาท เชื่อว่าน่าจะทำให้หลายคนคิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเครื่องยนต์เล็กสายลุย มีเพียง Mitsubishi Pajero Sport เท่านั้น ที่ครองตลาดอยู่ ส่วน Ford ถ้าอยากลุยก็ต้อง 3.2 ลิตร เท่านั้น เหมือน Isuzu ที่ต้องเล่น 3.0 ลิตรเท่านั้น
ถ้าผมมองรถลุยในราคาไม่แพงเกินไปมาก ต้องการให้นั่งได้ 5 คน สบายๆ และ 7 คน เมื่อต้องการ ผมว่า Toyota Fortuner 2.4 ขับเคลื่อนสี่ล้อ เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย ราคาก็ไม่ได้แพงกว่าขับเคบื่อนสองล้อมาก แต่ความสามารถมากกว่าอีกหลายเท่า
สรุปการทดสอบ Toyota Fortuner 2.4 4X4
ราคาจำหน่าย 1,499,000 บาท
อัตราประหยัดน้ำมัน
| ในเมือง | 10.00 ก.ม./ลิตร |
| นอกเมือง | 10.65 ก.ม./ลิตร |
| Bonn Test Mode | 12.55 ก.ม./ลิตร |
*นอกเมืองขับด้วยความเร็วคงที่ไม่เกิน 120 ก.ม./ช.ม. , ในเมืองใช้งานตามสภาวะการจราจรจริง เติมด้วยน้ำมันดีเซลปกติ
เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง นักทดสอบรถยนต์ และ คอลัมนิสต์ เว็บไซต์ Ridebuster.com ติดตามผลงานการเขียน และข้อมูลที่น่าสนใจได้ทาง Facebook
ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com
[ngg_images source=”galleries” container_ids=”640″ display_type=”photocrati-nextgen_basic_thumbnails” override_thumbnail_settings=”1″ thumbnail_width=”200″ thumbnail_height=”160″ thumbnail_crop=”1″ images_per_page=”20″ number_of_columns=”3″ ajax_pagination=”1″ show_all_in_lightbox=”0″ use_imagebrowser_effect=”0″ show_slideshow_link=”0″ slideshow_link_text=”[Show slideshow]” order_by=”sortorder” order_direction=”ASC” returns=”included” maximum_entity_count=”500″]
