ถ้าในหมู่คนเล่นรถแรงจะรู้จักกับแบรนด์ Polestar ซึ่งเป็นซับแบรนด์เครือ Volvo เพิ่มพลังรถแดนสวีเดนให้เร้าใจกว่าครั้งไหนๆ

แต่ตอนนี้เปลี่ยนสถานะมาเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าระดับเรือธงและหลังาจากเปิดตัวเอสยูวีรุ่นใหญ่อย่าง Polestar 3 คราวนี้ก็มาถึงรุ่นใหม่ Polestar 4 ที่ย่อส่วนตัวถังให้เล็กลงในร่างคอมแพ็คเอสยูวีคูเป้ เด่นด้วยโลโก้ดาวเหนือบนขอบฝากระโปรงหน้า ในชุดกระจังหน้าปิดทึบประกบกับไฟหน้า LED ทรงใบมีดคู่ ลงตัวด้วยชุดกันชนหน้าพร้อมช่องระบายอากาศเสริมสเกิร์ตในตัว

เก๋ด้วยที่เปิดประตูดีไซน์ซ่อนรูปเรียบเนียนกับกระจกไร้กรอบแบบโอเปร่า กระจกมองข้างดีไซน์เอกลักษณ์ หลังคารถที่ลาดลงและไฟท้าย LED ดีไซน์ U คว่ำ แนวยาว จุดที่สร้างความแตกต่างและเป็นครั้งแรกของค่ายก็คืแ ไม่มีกระจกหลังบานใหญ่มาให้มาในแนวปิดทึบเลย ล้ออัลลอยมีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 20-22 นิ้ว โดยตัวรถสร้างจากพื้นฐาน Sustainable Experience Architecture (SEA)

ภายในดูดีทันสมัยด้วยจอมาตรวัดดิจิตอลขนาดใหญ่ 10.2 นิ้ว มีจอสัมผัสขนาดใหญ่ 15.4 นิ้ว เชื่อมต่อระบบความบันเทิงและการสื่อสาร รองรับ Android Automotive OS เช่น Google Maps, Google Assistant Google Play Store รองรับ Apple CarPlay พร้อมลำโพง Harmon Kardon 12 จุด กำลังขับ 1,400 วัตต์ และยังอัปเกรดเพิ่มลำโพง 4 จุดฝังที่พนักพิงศรีษะด้านหน้าแต่ละข้าง รวมทั้งหมด 16 จุด

มีจอแสดงข้อมูลเหนือคอนโซลหน้า Head-Up Display ขนาด 14.7 นิ้ว ที่เปิดประตูภายในดีไซน์เก๋ เบาะนั่งหุ้มด้วยวัสดุหนังนิ่ม Nappa ผ้าไมโครเท็กซ์ Bio-attributed MicroTech และหนังที่ทำจากหนังสัตว์ที่ผ่านมาตรฐานหลักสวัสดิภาพสัตว์หรือ Animal welfare เข็มขัดนิรภัยสีเหลืองทุกเส้น เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมระบบฟอกอากาศ Air particle filter สร้างบรรยากาศอันอบอุ่นด้วยไฟ Ambient lighting มีที่ชาร์จมือถือไร้สาย และหลังคารถแบบพาโนรามิกซันรูฟ

ขุมพลังขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าล้วนแบบมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อนสี่ล้อ กับความจุแบต 102 kWh เป็นแบตเตอรี่ประเภทลิเทียมไอออน ให้กำลังสูงสุด 544 แรงม้า แรงบิด 686 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้งทำได้ 560 กม. ตามาตรฐาน WLTP อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ทำได้ 3.8 วินาที ยังมีรุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง ด้วย มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ความจุแบต 102 kWh ให้กำลัง 272 แรงม้า แรงบิด 343 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้งทำได้ 600 กม. ตามาตรฐาน WLTP

การชาร์จทั้งสองรุ่นมทั้งแบบกระแสตรงหรือชาร์จเร็ว DC รองรับการชาร์จสูงสุด 200 kW และชาร์จแบบกระแสสลับหรือขาร์จช้า AC รองรับการชาร์จสูงสุด 22 kW คู่กับเกียร์อัตโนมัติ Single Speed

Polestar 4 จะผลิตที่จีนตั้งแต่พฤศจิกายนนี้ และจะขายที่อเมริกาในช่วงปี 2024 โดยค่าตัวที่ขายในที่นั่นเริ่ม $60,000 หรือราว 2,065,000 บาท

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่