แฟนพันธุ์แท้รถปิกอัพหลายคน นิยมจับเอากระบะ 4 ประตู ทั้งตัวเตี้ยและยกสูงมาตกแต่งต่อจำนวนมาก จึงทำให้ผู้ผลิตเล็งเห็นช่องในการส่ง ‘กระบะพร้อมซิ่ง’ ลงมาขาย

ไม่ว่าคุณจะขับรถไปแห่งหนตำบลใดของประเทศไทย ยานพาหนะยอดฮิตเบอร์ 1 ของชาวสยามเมืองยิ้ม คงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากรถกระบะ ทั้งในแบบตอนเดี่ยว ตอนครึ่ง 4 ประตู ไม่ว่าตัวเตี้ยหรือยกสูง ซึ่งผู้ซื้อแต่ละคนมีจุดประสงค์ในการใช้รถต่างกันออกไป หนึ่งในนั้นคือสายแรงกับสายสวยงาม ที่คลั่งใคล้การแต่งรถปิกอัพคู่ใจของพวกเขาเป็นอย่างมาก

วันนี้เราอยากจะนำเสนอเรื่องราวของ ‘กระบะพร้อมซิ่ง’ ชื่อเรียกการทำตลาดของบรรดาค่ายรถน้อยใหญ่ในเมืองไทย ที่ช่วงไม่กี่เดือนมานี้พวกเขาเปิดตัวรถกระบะตัวเตี้ย 4 ประตู ที่ใครเห็นก็รู้แล้วว่าคนซื้อรถเหล่านี้จะต้องเอาไปทำอะไรต่อ

เดิมทีกระแสการตกแต่งกระบะซิ่งมีมานานตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่เพิ่งมาเริ่มฮิตเป็นกระแสวิ่งกันโฉบไปมาทั่วบ้านทั่วเมืองก็แค่ช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา ในยุคที่ผู้คนมีฐานะทางการเงินมากขึ้นเรื่อยๆ จากสภาพเศรษฐกิจที่เติบโต ซึ่งกลุ่มลูกค้าใหญ่ของกระบะแต่งซิ่งนั้น จะเป็นคนต่างจังหวัดที่เริ่มมีฐานะ รวมถึงเหล่าพนักงานโรงงานที่เข้าไปทำงานยังแหล่งงานสำคัญต่างๆ แถบจังหวัดในภาคกลางไปจนถึงภาคตะวันออก

ด้วยความที่ค่านิยมของคนต่างจังหวัดมองว่ารถกระบะตอบโจทย์ทุกการใช้ชีวิต ทั้งนั่งได้ 4-5 คน แถมยังขนข้าวของไปขายได้จำนวนมากกว่ารถเก๋งในระดับราคาเดียวกัน กอปรกับความชอบเครื่องดีเซลที่ถูกปลูกฝังรุ่นสู่รุ่น ว่าเป็นขุมพลังที่ประหยัดน้ำมัน แรง และทนทานซ่อมง่ายกว่าเครื่องเบนซิน เหล่านี้ล้วนเป็นเหตุผลสำคัญทั้งสิ้น

‘กระบะพร้อมซิ่ง’ เกิดขึ้นมาได้อย่างไรในยุคปัจจุบัน?

ปัจจุบันเวลาเราเห็นบรรดาเซลล์ที่หันมาเล่นเฟสบุ๊คโพสต์ภาพการรับรถของลูกค้า หรือตอนที่เสนอโปรโมชั่นให้กับคนซื้อที่จะเข้ามา ภาพของชุดแต่งออกจากศูนย์ที่รถบางคันแต่งเต็มออกจากโชว์รูม โดยหากเป็นกระบะตัวเตี้ยก็จะมาในแนวซิ่ง ใส่ล้อขอบ 18 ลายยอดฮิต มีสติกเกอร์คาดลาย ซึ่งเหล่านี้เป็นสิ่งกระตุ้นต่อมความอยากต่อกลุ่มเป้าหมายที่ชอบได้เป็นอย่างดี

เมื่อบริษัทรถได้ลงเก็บข้อมูลในตลาด ก็พบว่าลูกค้าส่วนใหญ่มักนำรถเอาไปตกแต่งถอดล้อเดิมออกทันทีในวันแรกที่ถอยป้ายแดง ซึ่งลูกค้าหลายคนก็มีเสียงแนะนำว่าทำไมบริษัทไม่ทำรถรุ่นออฟชั่นไม่ต้องเยอะมาก แต่ลดราคาให้เบาลง เพื่อยอดการผ่อนต่อเดือนของลูกค้าจะได้ไม่สูงมาก ใครที่ทราบว่ามีรถรุ่นพิเศษเหล่านี้ก็จะเข้ามาจับจองเป็นเจ้าของมากขึ้น

ผลลัพธ์คือบริษัทรถทั้งค่ายใหญ่ค่ายเล็กในปัจจุบันเริ่มส่งกระบะพร้อมซิ่งลงมากันเรื่อยๆ เริ่มด้วย Toyota Revo Z Edition ที่เปิดตัวมา 3 รุ่นย่อย เป็นตัวถังกระบะ 4 ประตูตัวเตี้ยทั้งหมด ชูจุดเด่นมีรุ่นเครื่องดีเซล 2.4 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด กับล้อกระทะเหล็กสีดำ ที่พร้อมจะถอดออกทันทีเมื่อถึงร้านตกแต่งของสายกระบะซิ่ง

กระบะพร้อมซิ่ง

ดูเหมือนโตโยต้าจะสามารถเพิ่มยอดขายของ Revo ได้พอสมควร เพราะจากที่ผู้เขียนสังเกตุตามย่านนิยมอุตสาหกรรม พบว่ามีกระบะรีโวรุ่น Z Edition ใส่ล้อ 18 นิ้ว โหลดเตี้ยวิ่งกันหนาตาขึ้น เพราะด้วยราคา 682,000 บาท ในรุ่น Z Edition 4X2 2.4J Plus กับราคา 732,000 บาท ในรุ่น Z Edition 4X2 2.4J Plus AT ลูกค้าไม่ต้องจ่ายหนักเกินไปแถมยังเอาเงินที่เหลือไปแต่งรถต่อตามสไตล์ที่ตนชอบได้อีกต่างหาก

อีกค่ายที่พยายามเดินเกมต่อจากโตโยต้าก็คือเชฟโรเลต แม้ว่าเชฟวี่จะไม่ได้ออกปิกอัพรุ่นพร้อมซิ่งมาเหมือนคู่แข่ง แต่พวกเขาได้มีความพยายามในการสื่อสารกับลูกค้ากลุ่มนี้ ด้วยการออกเคมเปญเร้าใจให้แก่ Chevrolet Colorado C-Cab รุ่น LS กับ LT กระบะ 4 ประตูตัวเตี้ย ไปในทิศทางว่าพร้อมจะให้ลูกค้านำไปแต่งซิ่งเสริมหล่อไปทันที

กระบะพร้อมซิ่ง
กระบะพร้อมซิ่ง

หากย้อนกลับไปหลายปีก่อน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ากระบะเชฟวี่เคยเป็นที่นิยมสำหรับคอปิกอัพสายแรง สมัยที่ยังใช้เครื่องยนต์ดีเซลแบบเดียวกับอีซูซุ ซึ่งสำนักกระบะซิ่งหลายเจ้าได้นำโคโรลาโดมาเสริมหล่อทั้งภายนอกภายใน ตลอดจนเครื่องยนต์ให้แรงชนิดที่ว่ากดคันเร่งที่ควันดำท่วมกลบท้าย

ทว่าในปัจจบันเทรนกระบะซิ่งกลับไปอยู่กับ Isuzu D-Max มากกว่าแต่ก่อน เชฟวี่จึงต้องพยายามทำอะไรสักอย่างเพื่อดึงลูกค้าที่เคยชื่นชอบเจ้าโด้ให้กลับมามอง หนทางการนำเสนอกระบะพร้อมซิ่งของเชฟฯ จึงเกิดขึ้นแบบเงียบๆ เพียงไม่กี่เดือนมานี้เอง

ในอีกไม่ช้าเราจะได้เห็นกระบะพร้อมซิ่ง 4 ประตู ตัวเตี้ยจากค่ายฟอร์ดอีกหนึ่งคัน โดยเท่าที่ทราบมาจะใช้เครื่องดีเซลเทอร์โบ 2.2 ลิตร เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ให้พวงมาลัยไฟฟ้า และทำราคาไม่เกิน 7 แสนบาทเพื่อดึงยอดสู้กับคู่แข่งทั้งโตโยต้า และเชฟโรเลต

สมรภูมิกระบะพร้อมซิ่งจะคงดำเนินต่อไปแบบเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เพราะทุกค่ายรู้แล้วว่าคอปิกอัพกลุ่มนี้มีจำนวนไม่น้อยที่อยากจ่ายเงินสบายกระเป๋า แต่ก็อยากได้รถที่เอาไปแต่งต่อแบบไม่ต้องเจ็บมากนัก

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่