นับเป็นรถที่คนไทยทั้งประเทศอยากให้เข้ามาขายเสียทีกับ Nissan Serena เจนที่ 6 ต้องรอดูท่าทีของ Nissan จะรับฟังเสียงคนไทยมาน้อยแค่ไหน

แต่สำหรับที่ญี่ปุ่นหลังเปิดตัวมาตั้งแต่ปีกลายและทำตลาดแบบปล่อยทีระลอกตั้งแต่รุ่นขับหน้าและขับสี่เบนซิน 2 ลิตร และล่าสุดกับก็อกสามที่จะเปิดตัวญี่ปุ่นในวันที่ 20 เมษายน กับ เวอร์ชัน e-Power เปลี่ยนน้ำมันเป็นไฟฟ้าด้วยเครื่องยนต์ใหม่ เบนซิน รหัส HR14Dde 1.4 ลิตร 98 แรงม้า แรงบิด 123 นิวตันเมตร ในภาคเครื่องยนต์จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หน้ารุ่น EM 57 Synchronous Motor ให้พลังรวมเป็น 163 แรงม้า แรงบิด 315 นิวตันเมตร และแบตเตอรี่แบบ Lithium-ion คู่กับเกียร์อัตโนมัติ Single Speed Gear Reduction ขับเคลื่อนสองล้อหน้า ประหยัดสุด 18.4-20.6 กม./ลิตร ตามมาตรฐาน WLTC

โดยเครื่องยนต์ใหม่นี้เอาขุมพลังเดิม 1.2 ลิตร HR12DE มาขยายความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชักยาวขึ้นเป็น 78.0 x 100.0 มม.และมาพร้อมกับ e-Pedal ซึ่งใช้คันเร่งในการกดเร่งแซงและชะลอความเร็วในชุดเดียวกัน

หน้าตาทันสมัยขึ้นกระจังหน้ารูปตัววีพร้อมโลโก้ Nissan กันชนหน้ารับเข้ากับกระจังหน้าอย่างลงตัว ไฟหน้า LED สามดวงแนวตั้ง ปักชื่อ Serena บนขอบไฟหน้า รับกับชุดกันชนหน้าพร้อมไฟตัดหมอกหน้าดวงเล็กแบบ LED คิ้วด้านท้ายด้วยกันสองชุดเริ่มจากคิ้วเล็กปะชื่อ Serena และคิ้วใหญ่กรอบป้ายทะเบียน ติดตั้งกันชนหลังแผงทับทิมแนวตั้งและสปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่ และไฟท้าย LED แนวตั้ง ที่ครอบทับฝาท้ายส่วนบนกระจกท้ายเสา C กับ D แบบตัววี เสา A มีกระจกขนาดเล็กแบบเดียวกับเจนที่แล้ว และล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว

 ภายในยังคงเป็นแบบสามแถว 7 และ 8 ที่นั่ง เบาะนั่งตอนที่สองสามารถเลื่อนได้ แผงคอนโซลหน้าดีไซน์ที่ต่างจากเจนที่แล้ว กับมาตรวัดขนาดใหญ่พร้อมจอ MID ขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมจอ Touch Screen ขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว รองรับระบบความบันเทิง Infotainment ประตูสไลด์ เปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า เครื่องปรับอากาศปรับอุณหภูมิแยกซ้าย-ขวาและปุ่มเกียร์อัตโนมัติในตัว

พร้อมระบบ ProPILOT 2.0 หรือระบบช่วยขับกึ่งอัตโนมัติ ระบบช่วยบังคับเลี้ยวเพื่อหลีกเลี่ยงการชน” ควบคุมการบังคับเลี้ยวของผู้ขับขี่เมื่อหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางด้านหน้า ProPILOT Parking สามารถบันทึกตำแหน่งที่จอดรถเมื่อจอดรถแล้ว และ Propilot Remote Parking ช่วยให้รถสามารถเข้าและออกได้ด้วยรีโมทคอนโทรล สามารถเข้าและออกจากพื้นที่จอดรถที่แคบๆแบบสบายๆ

และนับตั้งแต่เปิดจองล่วงหน้าตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมามียอดจองค้างถึง 20,410 คัน รุ่นที่จองมากสุดเป็นรุ่น e-Power มากกว่าครึ่ง รองลงมาเป็นรุ่น Luxion 15 % และสีที่ได้รับความนิยมนั่นก็คือ สีขาว Prism White  รองลงมาคือสีดำ Diamond Black และสีทูโทนขาวหลังคาดำ Prism White/Super Black โดยรุ่น e-Power มี 4 เกรดตั้งแต่รุ่น X, XV, Luxion และ AUTECH ในราคาเริ่มต้น 3,198,800 – 4,798,200 Yen หรือราว 835,000- 1,245,000 บาท โดยราคานี้ไม่รวมภาษีนำเข้าของไทย

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่