ท่ามกลางการแข่งขันในตลาดรถยนต์ครอสโอเวอร์ขนาดเล็ก Nissan ได้ส่งหักหอกหน้าใหม่ Nissan kick e-Power 2022 เข้ากระชับพื้นที่ทำตลาด
การเปิดตัวอย่างเป็นทางการใน 2 ปีที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสโควิด ทำให้รถรุ่นนี้ต้องสะดุดไปบ้าง ทั้งจากคู่แข่งที่ออกมามากหน้าหลายตา รวมถึงแนวทางการทำตลาดที่ไม่ชัดเจน
2 ปีผ่านมา นิสสัน เห้นว่า นี่คือฤกษ์งามยามดี ที่จะต้อง ส่งรถยนต์ Nissan kick e-Power ฉบับปรับปรุงใหม่ เข้าทำตลาด การเปลี่ยนรแปลงครั้งนี้ มีความน่าสนใจมากมาย และวันนี้เราได้ สัมผัสมันในเบื้องต้น เป้นน้ำจิ้มย่อมๆ ก่อน จะมีโอกาส หารถมาลงถนนจริง เพื่อพิสูจน์กัน
การวิศวกรรมที่เปลี่ยนไป
อะไร ทำให้ นิสสัน ตัดสินใจปรับรถรุ่นนี้เร็วขึ้น ส่วนสำคัญ มาจากการพัมนาระบบขับเคลื่อน E-Power เข้าสู่เวอร์ชั่น 2 หรือ เจนเนอร์เรชั้น ที่ 2 เปิดตัว มาเมื่อปีกลาย ในรถยนต์ Nissan Note E-Power รุ่นใหม่ ที่เพิ่งจะมีการปรับปรุงอย่างเป็นทางการ ไปหมาดๆ
จุดหลัก อยู่ที่อุปกรณ์แปลงกระแสไฟฟ้าหรือ Inverter ทางนิสสัน พัฒนาให้มันมีขนาดเล็กลงกว่าเดิม 40% น้ำหนักลดลง 30%
Nissan kick e-Power AutechNissan kick e-Power Autech
ไม่เพียงแค่นี้ ทางทีมพัฒนาระบบ ยังจัดการปรับปรุงให้มันสามารถ จะตอบสนองในการใช้งาน โดย เปลี่ยนแบตเตอร์รี่จากขนาด 1.57 Kwh ไปเป็น 2.06 Kwh หรือ มีขนาดใหญ่กว่าเดิม ภายใน แบ่งเป็น 4 โมดูล รวมทั้ง สิ้น 96 เซลล์
ทไม่เพียงแค่นี้ รถคันนี้ยังได้มอเตอร์ตัวใหม่ รหัส EM 47 ที่ตอบสนองแรงขึ้น เพิ่มพลังสูงสุด จาก 129 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 260 นิวตันเมตร ในรุ่นเดิม ขยับมาเป็น สูงสุด 136 แรงม้า แรงบิด 280 นิวตันเมตร และมีรายงานว่ายกเลิกการล็แคความเร็วสูงสุด 160 ก.ม./ช.ม.ด้วย เพื่อให้ลูกค้าขับสนุกสนานมากขึ้น
รวมถึง ยกเลิกการเรียกระบบ One Pedal เดิม แล้วเปลี่ยนเป็น e-Pedal Step มีการปรับปรุงส่วนสำคัญ ในเรื่องของการขับขี่ ยังคงสามารถขับรถด้วยเท้าเดียวได้เหมือนเดิม แตกต่างตรงที่ เมื่อถึงความเร็วต่ำ รถ จะไม่ถึงขั้นหยุดนิ่งจนจอกสนอทให้เหมือนเดิม แต่จะเป็นการไหลไปข้างหน้าช้าๆ หรือ Walking speed หากจะหยุดรถ ผู้ขับขี่จะต้อง ทำการเหยียบเบรกเอง เท่านั้น
Nissan kick e-Power AutechNissan kick e-Power Autech
ส่วนหน้าที่เครื่องยนต์ปั่นไฟฟ้ายังเป็น 1.2 ลิตร 3 สูบ เหมือนเดิม ยังไม่เปลี่ยนแปลงใดๆ
ในแง่ช่วงล่างทาง นิสสันกล่าวว่า ไม่ได้ปรับปรุงอะไรเพิ่มเติมจากรุ่น นิสสันกล่าวเพียงว่า มีการเปลี่ยนยางจากเดิม ใช้ค่าย DunLop มาเป็นค่ายยุโรป Continental แทน ในรุ่น Eco Contact ทำให้ ยางมีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ครั้งแรกกับตัว Autech
นอกจากการวิสวกรรม ที่เหล่าไปชุดใหญ่ เต็มกราฟแล้ว ทางด้านตัวรถ เพิ่มรุ่นย่อยใหม่ Autech เข้ามาเป็นครั้งแรก ในประเทศไทย และเป็นแบรนด์ชุดแต่งแท้จากญี่ปุ่น ที่ทำออกมาอย่างลงตัว
ในตัว Autech เป็นการเพิ่มความสปอร์ต ตอบการใช้งานมากขึ้น ไม่ว่าจะงานออกแบบภายนอก ได้ ชุดแต่งรอบคัน มีการให้ไฟหน้า และไฟตัดหมอก ที่ดีกว่าเฉพาะรุ่น ชุดแต่งสีเงิน รอบคันช่วยทำให้รถมีความสดใส น่าใช้งาน ติดตั้งมาพร้อม ชายกันชนหน้า , สเกิร์ตข้าง ,ชายหลัง รวมถึง สปอร์ยเลอร์หลัง ด้วย รุ่นนี้และ VL จะได้ กรอบไฟท้สยวางยาว เพิ่มความน่าใช้งานมากขึ้น
ไม่เพียงเท่านี้ ยังได้ล้ออัลลอย ลายเฉพาะขนาด 17 นิ้ว ช่วยในการตอบสนองการใช้งาน
ส่วนภายใน ได้เบาะนั่งสีน้ำเงิน พิเศษ เฉพาะรุ่น ครบเครื่องด้วยงานออกแบบที่ดูพิเศษมากกว่ารุ่น VL ธรรมดาทั่วไป ด้วย
ภายในที่ปรับปรุงเพิ่ม
ถ้าจะถามว่า นอกจากวิศวกรรมที่กล่าวไปยกใหญ่แล้ว มีอะไรปรับปรุงอีก ต้องตอบตามตรงว่า ภายในครับ
ทางนิสสัน กล่าวกับ เราว่า ทีมนิสสัน ทุมเทงานหนักในการปรับภายใน โดยหลักๆ เป็นช่วงคอนโซลกลาง มีการปรับมาใช้คันเกียร์ หรือ Shifter จาก Nissan Ariya รูปแบบจะเป็นการเลื่อนขึ้นลง และ กด P เพื่อ จอดแทนการดึงเลื่อนแบบเดิม
คอนโซลกลาง ช่วงคอนโซลคันเกียร์ จัดวางปุ่มการขับขี่ เพื่อให้ สะดวก ต่อการใช้งานมากขึ้น
ส่วนที่เท้าแขน ปรับให้มีขนาดใหญ่และนุ่ม เพื่อตอบสนองต่อการใช้งานมากขึ้น รวมถง ช่องวางแก้วน้ำ สามารถใส่แก้ว เยติ หรือ กาแฟร้อนได้สบายมาก
น่าเสียดาย ที่เมื่อเราไต่ถามว่า ฮีทเตอร์ และ เท้าแขนหลังมายัง คำตอบ คือยัง นะ … ยังไม่ให้มาในรุ่นนี้
การทดลองขับ
วันนี้ ที่ได้มาสัมผัส เป็นการขับขี่ในสนามปทุมธานี สปีดเวย์ โดย ถูกตั้งไว้เป็นแต่ละสเตชั่น เพื่อลอการขับขี่ในรูปแบบต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นแนวขับเรซซิ่งเสียมากกว่า ในภาพรวม
Nissan kicks e-Power 2022 นอกจากปรับปรุง ไปตามที่ผมบอกไปแล้วในข้างต้น ยังปรับโหมดการขับขี่ เล็กน้อย ยังคงมี 3 โหมด เหมือยเดิมครับ ไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะ ECO, Normal แต่ เปลี่ยนจากโหมด Smart มาเป็น โหมดสปอร์ตแทน ทำให้รถดูเร้าใจมากขึ้น
Nissan kick e-Power 2022Nissan kick e-Power 2022
ระบบ E- Pedal step จะใช้ได้ในโหมด Eco และ Sport เหมือนเคย
โดย นอกจาก 2 โหมด ที่เรากล่าวไปแล้ว งวดนี้ ทางนิสสัน ยังเพิ่ม Charged Mode มาให้ใช้ด้วย โหมดนี้ ใช้วิธีการดึงแช่โหมด EV เครื่องยนต์จะติดทำงาน จากนั้น คุณสามารถใช้ไฟฟ้ายาวๆ เหมาะกับการหนีเที่ยวยามดึก และ ยามขับท่ามกลางการจราติดขัดหนักๆ ในเมืองกรุง
ในช่วงแรก ทางนิสสัน ต้องการแสดงศักยภาพรถ ทางด้านความคล่องตัว ที่ออกมาดีอยุ่แล้วตั้งแต่รุ่นเดิม รุ่นนี้ดีขึ้น ส่วนสำคัญมาจากกยางที่เปลี่ยนใหม่ ไม่ว่า จะหวด เข้าโค้ง จะเอี้ยดอ้าดด!!! แค่ไหน ก็เอาอยู่มั่นใจมาก
สำคัญที่สุดความคล่องตัวก็มาจากขนาดตัวรถ และพละกำลังมอเตอร์ที่เพิ่มขึ้น ทำให้ รถเร่งแรง ตอบสนองดี รวมถึง การปรับปรุง น้ำหนัก อินเวอร์เตอร์ ทำให้รู้สึกถึงความเบาของทางด้านหน้า บังคับเลี้ยวคล่องตัว
แบตเตอร์รี่ชุดกลางที่ใหญ่ขึ้น ทำให้มีน้ำหนักศูนย์ถ่วงมากขึ้นนิดหน่อย คุณรู้สึกได้แทบจะทันทีที่ลองขับ เมื่อกวัดพวงมาลัยฉวัดเฉีวยน ในแบบสลาลอม
Nissan kick e-Power 2022Nissan kick e-Power 2022
มาถึง จังหวะ ต้องเร่งทำความเร็ว กดเต็มบาทา รถคันนิดเดียว แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร มาในรอบต่ำทำให้มันพุ่งทะยานเร่งแรง กว่ารถเดียวกันในคลาสรุ่นอื่นๆ พอสมควร
ที่จริง ถ้าเทียบผมว่ ามันเร่งมันส์ กว่า คู่แข่งอย่าง Honda HR-V ด้วยขนาดตัวเล็กกว่า และแรงบิดมากกว่า อารมณ์ เหมือน คุณเป็นวัยรุ่นวัยห้ามเหยียบเป็นมา ขณะที่ ฝั่งค่าย H เขาจะแรงแบบสุภาพ อยากเล้่นก็มาดิค้าบบบ อะไรแบบนั้น
สิ่งที่ผมจับได้ ในรุ่นใหม่ คงเป็นสมดุลตัวรถที่ทำออกมาดีขึ้น รุ่นก่อนว่าดีแล้ว รุ่นนี้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด
ส่วนที่เรายังไม่ได้ทดสอบในครั้งนี้ คือ ความประหยัดน้ำมัน ซึ่งเป็นประเด็น ที่ทางนิสสัน แจงว่า ได้พัฒนาจากการรับฟังเสียงของลูกค้า
Nissan kick e-Power 2022Nissan kick e-Power 2022
อันที่จริง , นิสสันคิกใหม่ ที่มีแบตเตอร์รี่ใหญ่ขึ้น สามารถลดการสตาร์ทเครื่องยนต์ในความเร็วต่ำได้ค่อนข้างมากกว่าเดิมพอควร ทำให้ ในเมืองยิ่งทวีความประหยัดมากขึ้นไปอีก มีอัตราประหยัดสูงสุด 26.3 ก.ม./ลิตร
แต่เมื่อ ต้องการขับขี่เดินทาง มันมักจะไม่ประหยัดอย่างที่คิด นิสสัน เผยกับเรา ว่ามีการปรับจูนจังหวะในการทำงานใหม่แล้ว โดยเมื่อดูจาก Eco Sticker แล้ว ก็ดูจะไม่ประหยัดกว่าเดิมสักเท่าไรนัก
ตามข้อมูล มันมีอัตราประหยัดขึ้น จาก 4.5 ลิตร /100 ก.ม. เป็น 4.4 ลิตร /100 ก.ม. ในรุ่่นใหม่ แต่ในภาวะจริง จะทำได้ดีแค่ไหน คงต้องรอจนกว่า จะขับจริง
Nissan kick e-Power 2022 สัมผัสแรกคุ้มมาก .. ดีกว่าเดิม
หลังจากลงมาจาก Nissan kicks e-Power 2022 ยอมรับเลยว่า รี่คือรถอเนกประสงค์ไฮบริดที่คุ้มค่า น่าเป็นเจ้าของมากในวันนี้ ส่วนสำคัญ อยู่ที่การตอบสนองรถที่ดีขึ้น ในราคาที่ถูกลงกว่าเดิม มีสมรรนถะรวมๆ คือดีขึ้น เหมือน เด็กที่สอบได้จากคะแนน 7/10 ไปเป็น 8.5 /10
มี 2-3 อย่าง ที่นิสสัน ยังต้องกลับไปทำการบ้าน นั่นคือ
- เรื่องออพชั่นภายใน ที่ยังคงเซ็งกับ การขาดบางอย่างที่ควรจะให้มา
- การใช้งานนอกเมือง ที่ยังไม่ประหยัดมาก ประเด็นหนึ่ง น่าจะมาจากเครื่องยนต์นั่นแหละ ที่มีขนาดเหมาะกับคนเมือง แต่ไม่ใช่กับการใช้งานเดินทางไกลนัก
แต่ทั้ง 2 ข้อในัวนนี้เรามองว่า มองข้ามได้ด้วยราคาที่ถูกกว่าเดิมนับแสนบาท ยิ่งรุ่นเริ่มต้นนะ ท้าชนกับอีโค่คาร์เครื่องเทอร์ดบด้วยซ้ำไป ครับ
เรื่องและขับทดสอบโดย ณัฐยศ ชูบรรจง
บทความนี้เป็นบทความรีวิว จงใช้วิจารณญาณในการอ่าน อย่างถี่ถ้วน
