Home » MG HS Hybrid+ แรงสุด 224 แรงม้าเตรียมขายออสเตรเลีย กันยายนนี้
รถใหม่ รถใหม่ต่างประเทศ

MG HS Hybrid+ แรงสุด 224 แรงม้าเตรียมขายออสเตรเลีย กันยายนนี้

MG HS เจเนอเรชันที่ 2 ทำตลาดทั่วโลกมาได้สักระยะทั้งในอังกฤษ ยุโรปและล่าสุดที่ออสเตรเลียโดยช่วงแรกขายเพียงขุมพลังเทอร์โบ

และจากการโชว์ตัว MG HS Hybrid+ ที่เมืองเมลเบิร์นที่ผ่านมาทำให้ MG ออสเตรเลียตัดสินใจเตรียมที่จะขายในปีนี้รวมถึงเวอร์ชัน PHEV

หน้าตาไม่ต่างจากเวอร์ชันเทอร์โบด้วยไฟหน้า LED ทรงสปอร์ตด้านหน้าด้วยช่องระบายอากาศทรงรังผึ้งขนาดใหญ่ พร้อมโลโก้ MG ติดบนกระจังหน้า

ไฟหน้า LED ทรงสปอร์ตด้านข้างกลมกลืนด้วยเส้นสายลงตัว พร้อมกรอบกระจกโครเมียม ราวหลังคาทรงบิวท์อิน หลังคาพาโนรามิกซันรูฟ ไฟท้าย LED แนวยาวครอบทับด้วยเส้นแนว สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 LED กันชนหลังโดดเด่นเสริมสปอร์ตด้วยดิฟิวเซอร์สีดและท่อไอเสียคู่ และล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว

แผงคอนโซลหน้าติดตั้งจอคู่รวบรวมการทำงานของแสดงผลอัจฉริยะ Full Virtual Dashboard 12.3 นิ้วและจอสัมผัสระบบความบันเทิงขนาด 12.3 นิ้ว คมชัดแบบ HD สามารถเลื่อนจอไปยังตรงกลางหรือเข้าหาฝั่งคนขับ รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple Car Play และ Android Auto มาพร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียง พร้อมลำโพง 8 จุด ช่องเสียบ USB 4 จุดหน้า-หลัง ที่ชาร์จมือถือไร้สาย Wireless Charging ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i–SMART ช่วยยกระดับคุณค่าและประสบการณ์การขับขี่ของผู้ใช้รถ รวมถึงการเชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์ให้ง่ายยิ่งขึ้น

เบาะนั่งทรงสปอร์ตหุ้มหนังปรับด้วยระบบไฟฟ้าฝั่งคนขับ 6 ทิศทางพร้อมดันหลังและบันทึกความจำตำแหน่งเบาะ คนนั่งปรับได้ไฟฟ้า 4 ทิศทาง พร้อมอุ่นเบาะ 3 ระดับ เบาะหลังพับได้แบบ 60/40 มีพื้นที่สัมภาระตอนพับเบาะมากถึง 1,484 ลิตร แต่ถ้าไม่พับเบาะมีพื้นที่ 507 ลิตร

ขุมพลังเป็นแบบฟูลไฮบริดอาจเอาพื้นฐานเครื่องยนต์เทอร์โบ ขนาด 1.5 ลิตร พัฒนากำลังสูงขึ้นกว่าเดิมถึง 170 แรงม้าแรงบิดเพิ่มขึ้นเป็น 275 นิวตันเมตร จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าและขนาดความจุแบตเตอรี่ 1.83 kWh เมื่อทำงานร่วมกันได้แรงม้ารวมสูงสุด 224 แรงม้า โดยเคลมความประหยัดถึง 19.2 กิโลเมตรต่อลิตร

คู่กับเกียร์อัตโนมัติ Three-speed พร้อมการขับขี่ที่สามารถเลือกโหมดได้สามโหมด Eco, Standard และ Sport สามารถวิ่งในโหมดไฟฟ้าเพียวๆคาด 80 กิโลเมตร และยังมีโหมดการขับขี่พิเศษ Hybrid+ เลือกได้แบบอัตโนมัติทั้ง EV, Series, Series and Charge, Drive and Charge และ Parallel

ชาร์จในระหว่างขับขี่กลับเข้าแบตเตอรี่ (Regenerative) หรือ KERS (Kinetic Energy Recovery System) สามารถสามารถเลือกระดับการชาร์จพลังงานกลับได้ถึง 3 ระดับพร้อมเทคโนโลยีช่วยขับขี่อัจฉริยะ Advanced Driver Assistance System (ADAS) ครบครันโดย เตรียมเปิดตัวออสเตรเลียช่วงเดือนกันยายนนี้

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.