ประเทศสหรัฐอเมริกาขึ้นชื่อว่าเป็นตลาดรถกระบะขนาดใหญ่ (Full-Size) ครองอันดับหนึ่งของโลก ส่วนเมืองไทยนั้นก็เป็นอันดับหนึ่งของโลกในประเภทรถกระบะขนาด 1 ตันเช่นเดียวกัน โดยเมื่อเร็วๆ นี้ผู้แทนจำหน่ายรถมิตซูบิชิในอเมริกาต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “อยากได้รถกระบะมาขาย” แม้ว่าทางบริษัทแม่จะมีเพียง Mitsubishi L200 หรือ Triton ที่ผลิตจากโรงงานในประเทศไทยเป็นรถกระบะแค่รุ่นเดียว ถึงอย่างนั้นดีลเลอร์ก็ยังมีความหวังที่จะนำมันไปขายในตลาดเมืองลุงแซมอยู่
หากย้อนกลับไปหลายสิบปีก่อนกลุ่มรถยนต์ที่ทำยอดขายแบบอู้ฟู่เป็นกอบเป็นกำ ก็คงหนีไม่พ้นรถเก๋ง 4 ประตู รวมถึงรถคูเป้ 2 ประตูที่ช่วงนั้นขายได้แบบว่าโชว์รูมแน่นไปด้วยลูกค้า ทว่าปัจจุบันโลกได้เปลี่ยนไปมากจนทำให้มิตซูบิชิเองต้องปรับตัวมารุกตลาดรถเอสยูวีเต็มตัว แต่ถึงอย่างนั้นดีลเลอร์เองก็คิดว่าเพียงรถอเนกประสงค์นั้นอาจจะครอบคลุมลูกค้าได้ไม่หมด พวกเขาจึงมีความคิดว่าหากนำเข้า Mitsubishi L200 (Triton) มาขายในลูกค้าเมืองมะกันก็คงเป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อย
อย่างไรก็ตามแม้พวกเขาจะสามารถนำ L200 ที่ประกอบขึ้นในไทยมาขายที่สหรัฐฯ ได้ ทว่าปัญหาอันเป็นกำแพงสูงจนต้องยอมถอยก็คือเรื่องภาษีสูงลิ่ว หรือคนที่นั่นเรียกว่าภาษีไก่ “Chicken Tax” แต่ในเรื่องร้ายก็ยังพอมีด้านดีอยู่บ้าง เพราะตอนนี้มิตซุฯ ได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับ นิสสัน-เรโนลต์ ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ว่าจะนำเจ้า L200 มาขึ้นไลน์ประกอบใกล้กับสหรัฐฯ มากขึ้น จนปัญหาเรื่องภาษีนำเข้าไม่ใช่เรื่องใหญ่อีกต่อไป
แม้ว่าจะนำรถกระบะมาขายในสหรัฐฯ ได้ ก็ยังต้องเจอปัญหาสำคัญอีกหนึ่งอย่างคือ L200 มีขนาดเล็กกว่า Chevrolet Colorado Ford Ranger รวมถึงกระบะฟูลไซส์อย่าง Ford F-150 แบบเห็นได้ชัด ทว่าทางดีลเอลร์ก็ยังเชื่อมั่นว่านี่คือโอกาสที่จะสามารถเพิ่มยอดขายโดยรวมให้ดียิ่งขึ้นกว่าปัจจุบัน เพราะตอนนี้มิตซูบิชิที่สหรัฐฯ มีจำนวนรถรุ่นใหม่ขายอยู่เพียงไม่กี่รุ่นเท่านั้น
