หลังจาก Mercedes-Benz C-Class 2018 รุ่นปรับโฉมเปิดตัวอย่างเป็นทางการ คำถามที่หลายคนซักถามก็คือ มีรุ่นไหนจำหน่ายบ้าง ข้าวของติดรถเป็นอย่างไร และราคาเปิดมาเท่าไหร่ โดยเราจะชี้แจงให้ทราบกัน

เจ้าซีดานหรู Mercedes-Benz C-Class 2018 รุ่นประกอบในประเทศที่ผลิตปีนี้ ได้รับการออกแบบดีไซน์ใหม่หมดทั้งภายนอกและภายใน โดยจะเน้นที่รูปลักษณ์ด้านหน้า ไฟหน้า และไฟท้าย รวมถึง การติดตั้งระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อันมีประสิทธิภาพเทียบเท่ารถรุ่น S-Class โดยการเปิดตัว The new C-Class รุ่นประกอบในประเทศในวันนี้ ทางเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้นำเสนอรถยนต์รุ่น The C 220 d ทั้งหมด 3 รุ่นย่อยด้วยกัน

Mercedes-Benz C-Class 2018

Mercedes-Benz C 220 d Avantgarde – 2,349,000 บาท

อย่าคิดว่าเบนซ์ตัวเริ่มต้นแล้วคนจะไม่สนใจ เพราะ C-Class C 220 d Avantgarde มาพร้อมกระจังหน้าสีเงินเสริมโครเมี่ยม พร้อมตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ สร้างสไตล์หรูสปอร์ตได้ผสมกลมกลืน และส่วนล้ออัลลอยเป็นแบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 18 นิ้ว กับยางรันแฟลตไซส์ 225/45 R18 (ล้อหน้า) 245/40 R18 (ล้อหลัง) ต่อด้วยความหล่อกับไฟหน้าแบบ LED High Performance ส่วนไฟท้ายแอลอีดีก็มีลายเส้นไฟลักษณะตัว C กลับด้าน โดดเด่นทุกเวลาตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น

C-Class C 220 d Avantgarde จะมาพร้อมกับพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น พร้อมปุ่มควบคุมแบบ Touch Control ด้านเบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง ARTICO ขณะเดียวกันเดียวกันเบาะหลังก็พับแบบ 1/3 หรือ 2/3 ที่สำคัญคือมีปุ่มสตาร์ทกับไฟเรืองแสงรอบห้องโดยสารปรับได้ 64 เฉดสี มาให้ครบทุกรุ่นย่อย

ประเด็นระบบสาระบันเทิง C-Class ทุกระดับมอบระบบสาระบันเทิง MB Audio 20 อันมาพร้อมจอขนาด 10.25 นิ้ว คุมด้วยปุ่มตรงกลางระหว่างเบาะคู่หน้า แถมยังเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน เพื่อใช้ระบบ Apple CarPlay กับ Android Auto ได้ทุกรุ่น

แง่ของขุมพลังในทุกรุ่นย่อยจะใช้เป็นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 4 สูบ ให้กำลัง 194 แรงม้า ที่ 3,800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,800 รอบต่อนาที ส่งกำลังสู่ล้อหลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด 9G Tronic แล้วสามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 6.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม. 

ปิดท้ายด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐานแบบจัดเต็ม อาทิ ถุงลมนิรภัยรอบคัน 9 ตำแหน่ง ระบบควบคุมการทรงตัว ระบบ Adaptive Brake ระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ เซ็นเซอร์ช่วยจอดรอบคัน กล้องมองหลัง และระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ

Mercedes-Benz C 220 d Exclusive – 2,690,000 บาท

รถระดับกลางอย่าง C 220 d Exclusive เน้นตกแต่งความหรูหราเป็นหลักเพียงรุ่นย่อยเดียว เพราะด้านหน้าต่างไปจารุ่นย่อยอื่น จะเป็นกระจังหน้าแบบคลาสสิค พร้อมตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์อยู่เหนือฝากระโปรงหน้า และล้ออัลลอยแบบ multi-spoke ขนาด 18 นิ้ว พร้อมกันนี้ยังได้รับไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED อันมีฟีเจอร์ไฟสูงแบบ ULTRA RANGE สาดส่องไฟได้ไกล 650 เมตร และฉายแสงหลบรถวิ่งส่วนหรือคนเดินถนนได้อีกต่างหาก

ภายในของรุ่น Exclusive จะใช้เบาะหนังแบบ Artico เหมือนรุ่น Avantgarde โดยจะมีให้เลือกทั้งสีดำกับสีเบส แล้วเสริมด้วยกุญแจ Keyless-Go พร้อมระบบสาระบันเทิงที่เพิ่มระบบนำทางเข้ามา ทั้งนี้เบาะฝั่งคนขับปรับไฟฟ้าแถมระบบจดจำตำแหน่ง ต่างจากรุ่นเริ่มต้นที่ปรับไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว

Mercedes-Benz C-Class 2018

Mercedes-Benz C 220 d AMG Dynamic – 2,890,000 บาท

มาถึงระดับตกแต่งสูงสุดของ C-Class โฉมไทยปี 2018 โดย C 220 d AMG Dynamic จะติดตั้งกระจังหน้าแบบ diamond grille สีเงิน พร้อมตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และ ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 19 นิ้ว ลายเดียวกับ C-Coupe 43 AMG จากนั้นตกแต่งด้วยสีดำ โดยมีกันชนหน้า-หลังและสเกิร์ตข้างเป็นดีไซน์สปอร์ตแบบ AMG Bodystyling

ก้าวเข้าสู่ห้องโดยสารจะพบว่ารุ่น AMG Dynamic หุ้มเบาะด้วยหนังแบบสปอร์ตสีแดงหรือดำ ทริมตกแต่งใช้วัสดุสีเงินลายคาร์บอนไฟเบอร์รอบภายในรถ แต่ที่จัดเด็ดเฉพาะคันจริงๆ ก็คือ ระบบ All-Digital instrument display ที่ทำให้หน้าจอเรือนไมล์แบบดิจิทัลมีขนาดใหญ่ถึง 12.3 นิ้ว และยังสามารถปรับรูปแบบการแสดงผลได้ 3 รูปแบบ คือ Classic, Progressive และ Sport พร้อมกันนี้รุ่นท็อปสุดยังให้หลังคาพาโนรามิกเพียงหนึ่งเดียว

ปิดท้ายด้วยเรื่องความปลอดภัย C-Class AMG Dynamic มีอุปกรณ์มาตรฐานเหมือนกับรุ่นย่อยอื่น แต่จะเหนือกว่าเพราะได้ระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า (Distance Pilot DISTRONIC) กับกล้องมองภาพรอบคัน

สำหรับใครที่สนใจอยากจับจองเป็นเจ้าของ Mercedes-Benz C-Class 2018 ก็ให้แวะเวียนเข้าไปเยี่ยมชมสอบถามได้ที่โชว์รูมอย่างเป็นทางการได้ทุกแห่ง เราคาดว่ารถโมเดลนี้จะได้การตอบรับที่ดีไม่แพ้รถระดับเดียวกัน

ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่