ข่าวล่าสุดของขุมพลังไฮเทค Mazda Skyactiv X ทำให้รู้ว่า ตอนนี้ที่ยุโรปขุมเครื่องยนต์ดังกล่าวขายกินส่วนแบ่งได้มากถึง 40% กลับกันในตลาดญี่ปุ่นมีเพียง 10% เท่านั้น

หลังมาสด้ามุ่งมั่นพัฒนาเครื่องยนต์ไฮเทคแบบใหม่ ที่ผสมผสานความประหยัดน้ำมันจากคาแรกเตอร์ของเครื่องดีเซล บวกกับการตอบสนองด้านแรงม้าและสมรรถนะโดยรวมตามแบบขุมพลังเบนซิน บัดนี้ความจริงทำให้เห็นว่า Mazda Skyactiv X สามารถทำยอดขายได้น่าประทับใจที่ยุโรป

ขุมพลัง Skyactiv X ถูกนำมาใช้ในเชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรกในโลก กับรถโมเดล Mazda 3, Mazda CX-30 ซึ่งรุกตลาดยุโรปด้วยสถานะเป็นรุ่นเครื่องท็อปตัวแพงสุด โดยราคาจำหน่ายของ Mazda 3 Hatchback เครื่อง Skyactiv G 2.0 ลิตร อยู่ที่ 23,790 ยูโร (ราว 806,000 บาท) ส่วนเครื่อง Skyactiv X พิกัดเท่ากัน ตั้งราคาไว้ 26,290 ยูโร (ราว 891,000 บาท) ต่างกันเพียง 85,000 เท่านั้น

แต่ดูเหมือนจะเป็นข่าวดีของมาสด้าที่ลูกค้าให้การยอมรับขุมพลัง Skyactiv X ที่ยุโรปแบบอุ่นหนาฝาคั่ง เพราะค่ายรถเมืองฮิโรชิม่าขายรถที่ติดตั้งขุมพลังไฮเทคดังกล่าวได้จำนวนถึง 40% จากยอดขายทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม ตลาดญี่ปุ่นที่เพิ่งแนะนำเครื่อง Skyactiv X ไปเมื่อปลายปีที่แล้วบน Mazda 3 กับเมื่อต้นปีที่ผ่านมาอย่าง CX-30 เมื่อดูจากยอดขายทั้งหมดพบว่า ลูกค้าชาวญี่ปุ่นตัดสินใจเลือกหัวใจดวงใหม่ในจำนวนน้อยกว่า 10% เนื่องจากปัจจัยราคาส่วนต่างระหว่างเครื่องปกติมีความแพงเกินไป ในขณะที่ชาวยุโรปจ่ายแพงกว่า 85,000 บาท แต่ชาวญี่ปุ่นกลับต้องควักกระเป๋ามากเกือบ 200,000 บาท เพื่อเครื่องสุดไฮเทค

นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมตลาดยุโรปจึงขายรถที่ใส่เครื่อง Skyactiv X ได้มากมายขนาดนั้น เพราะในเรื่องปัจจัยราคาก็ยังเป็นสิ่งสำคัญลำดับต้น ๆ ที่ผู้คนนึกถึงเสมอเมื่อต้องซื้อรถคันใหม่

ติดตามข่าวสารและบทความดี ๆ จากพวกเราทีมงาน Ridebuster.com

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่