หลังเปิดเผยเรื่องการย้ายฐานการผลิตของแบรนด์ Isuzu เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา จนผู้บบริหารไทยต้องวุ่นวาย แก้ข่าวกันยกใหญ่ ว่า “ไม่ใช่ความจริง” ฝั่งรัฐบาลอินโดนีเซีย ก็ยังดูไม่เข็ดกับการปล่อยข่าวแบบนี้ เพราะล่าสุด มีรายงานอีกแล้วว่า Mazda เอง ก็อาจจะเป็นแบรนด์ ที่ไปตั้งฐานการผลิตที่อินโดนีเซียด้วย

ฐานการผลิตใหม่ของมาสด้าในอินโดนีเซียนี้ จะเริ่มการผลิตในอนาคต โดยมีเป้าหมายในการเป็นฐานฯเพื่อส่งออกรถจากอินโดนีเซีย ไปยังประเทศปลายทางโพ้นทะเล ออสเตรเลีย โดยทางรัฐมนตรีกระทรงอุตสาหกรรมของ อินโดนีเซีย ยืนยัน เรื่องดังกล่าวและทางมาสด้า ก็ออกมายืนยันว่าจะเข้าไปลงทุนในอินโดนีเซียในปี 2024

Agus Gumiwang Kartasasmita รัฐมนตรี กระทรงอุตสาหกรรม ของ อินโดนีเซีย กล่าวผ่านแถลงการณ์ หลังพบผู้บริหารของมาสด้า ที่กรุงโตเกียวว่า ความร่วมมือของเรากับมาสด้า หลังจากพูดคุยเจรจากันแล้ว จะเริ่มขึ้นในราวๆปี 2024

ปัจุจบัน ทางมาสด้า ออสเตรเลีย ต้องนำเข้ารถหลายรุ่นจากโรงงานประเทศไทย และมีเพียง Mazda CX-5 เท่านั้นที่นำเข้าตรงจากประเทศญี่ปุ่น

ทางด้าน รัฐมนตรี อินโดนีเซีย เปิดเผยต่อว่า การเชิญ มาสด้า มาลงทุนในประเทศอินโดนีเซียนั้น เราตั้งใจในประเทศเร าเป็นฐานการผลิตสำคัญ​ป้อนในภูมิภาคนี้(อาเซียน) รวมถึง ส่งออกไปยัง ออสเตรเลีย

ทั้งนี้ จากรายงานของสื่อออสเตรเลีย ระบุว่า โฆษกของทางมาสด้า ยืนยัน ว่าท่านรัฐมนตรี มีการเข้าพบกับนาย ทานากะ CEO ของมาสด้าจริง เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ที่ผ่านมา แต่ยังไม่อาจจะเปิดเผยรายละเอียดในการพูดคุยได้

อินโดนีเซีย กลายเป็นจุดสนใจของหลายค่ายรถ เมื่อทางภาครัฐได้พยายามขับเคลื่อน ให้เป็นฐานในการส่งออกไปยังประเทศออสเตรเลีย โดยในปี 2019 ทั้ง 2 ประเทศ บรรลุ ข้อตกลงเขตเสรีการค้าระหว่างกัน ทำให้ อินโดนีเซีย สามารถส่งออกรถไปยังออสเตรเลียได้ โดยลดต้นทุนในการผลิต รวมถึงการขนส่งได้

อย่างไรก็ดี เป็นที่ทราบกันว่า มาสด้า และ อีซูซุ ร่วมมือกัน ในตลาดรถกระบะ ในฐานคู่แฝด ของ Isuzu D-Max และ Mazda BT-50 ทั้งสอง จึงอาจเป็นไปได้ว่า โรงงานมาสด้าที่อินโดนีเซีย จะผลิตรถป้อนให้อีซูซุด้วย แต่ข่าวดังกล่าวไม่ได้รับการยืนยัน

ทั้งนี้ มีรายงานในทางลับ ว่า โรงงานของมาสด้าที่อินโดนีเซีย อาจจะผลิตรถรุ่น Mazda CX-50 ใหม่ ที่ยังไม่เปิดตัว และจะเป็นฐานป้อนให้กับในภูมิภาคนี้ และ อาจจะเป็นไปได้ว่ามันจะผลิต Mazda MX-30 รถยนต์ไฟฟ้าด้วย ตามการวิเคราะห์ ของทางสื่อออสเตรเลีย

ที่มา Drive

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่
Tags: