การซื้อรถยนต์สักคันเป้นเรื่องยากและหลายคนมักจะสงสัยว่ารถยต์ทีเ่ราใช้ จะใช้ได้นานแค่ไหนกัน แม้ว่าอายุการใช้งานรถทั่วไปจะมีรายงานว่าสามารถใช้ได้ 7-10 ปี แล้วแต่สภาพการขับขี หากในรายงานวิจัยชิ้นใหม่ชี้ ในบรรดารถยนตืที่คนอเมริกาใช้งานยาวถึง 15 ปี ส่วนใหญ่เป็นรถยนต์จากผู้ผลิตประเทศญี่ปุ่น 

การวิศึกาาครั้งนี้มาจากเว็บไซต์ iseecar.com   ที่เปิดเผยผลการศึกษารถยนต์ทั้งใหม่และเก่าตั้งแต่ปี 1981-2002 กว่า  650,000 คัน ทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา แล้วพบว่า รถยนต์ส่วนใหญ่ที่ผู้ตอบคำถามร่วมในการศึกษา ใช้งานรถยนต์ยาวนานถึงอย่างน้อย 15 ปี ส่วนใหญ่แล้วเป็นรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่น 

โดยเฉพาะ รถยนต์ยี่ห้อ Toyota   ถือเป็นแบรนด์รถยนต์ที่ทนถึกที่สุด มีรถยนต์รุ่นต่างๆ มากมายหลายรุ่นที่ระบุว่า ผู้ใช้จะใช้งานยาวๆ อาทิ   Toyota Highlander , Toyota Tundra, Toyota Prius , Toyota Sienna, Toyota Rav 4   ทั้งหมดติด 5 อันดับ รถยนต์ที่ใช้นานที่สด 15 ปี ส่วน   Honda   ติดเข้ามาในอันดับที่ 6  ด้วยรถยนต์   Honda Odyssey  

จากการศึกษาข้อมูลโดยละเอียด รถยนต์   Toyota Highlander   ยังคงใช้โดยเจ้าของเดิมถึงร้อยละ  18.3  หรืิิสูงกว่า 2.7 เท่า ของเฉลี่ยการใช้รถทั่วไป ขณะที่คนใช้รถ   Toyota Sienna  ยังคงใช้โดยเจ้าของเดิมกว่าร้อยละ 17.1 สูงกว่าค่าเฉลี่ยในการใช้รถทั่วไป 2.5 เท่า 

New-Toyota-C-HR-1

ทางด้านนาย  ฟง ลี่   CEO   ของเว็บไซต์   iseecar.com   เผยว่า ในขณะที่รถยนต์ถูกคาดหวังว่าใจะใช้ได้ยาวนาน 10 ปี เจ้าของรถยนต์บางคนเก็บรถยนต์ไว้นานกว่านั้น  และการพยายามทางด้านคุณภาพทำให้รถมีคุณภาพคงทนมากว่าระยะเวลาดังกล่าว”

“ผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่นได้รับชื่อเสียงทางด้านคุณภาพและความทนทานวางใจในการใช้งาน ตลอดหลายปี ดังนั้นจึงไม่แปลกใจที่มันจะมีช่วงเวลายาวนานถึง 15 ปีในการใช้งาน” 

ทั้งนี ้นอกจากรถยนต์ของ  Toyota   ที่ครองอันดับต้นๆในอเมริกา เมื่อมองรถยนต์ที่มีวางจำหน่ายในประเทศไทยด้วย รถ   Honda  CR-V   เป็นรถอเนกประสงค์ที่ติดเข้ามาในเรื่องความทนทานด้วยอายุกาารใช้งาน 15 ปี จากเจ้าของเดิม  11.9 %   หรือ คิดเป็นการใช้รถมากกว่า 1.7 เท่า จากค่าปกติ 

Subaru-Forester-Koa-krajom (4)

Toyota Camry   ก็ยังเป็นรถที่ผู้ใช้เดิม ใช้งานนานถึง 15 ปี เช่นกัน คิดเป็นอัตราเจ้าของเดิมยังใช้อยู่  11.5% หรือ ใช้รถนานกว่า 1.7 เท่า ซึ่งอัตราเดียวกันเทียบเท่ากับรถยนต์   Subaru  Forester   

 

ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com



แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่