นับเป็นรถอีกรุ่นที่อยากให้มาขายในไทยหลังจากเคยนำเข้ามาขายครั้งหนึ่งสำหรับ Hyundai KONA เวอร์ชันไฟฟ้าล้วนที่มาในร่างเจเนอเรชันที่สอง

ทุกอย่างเหมือนเวอร์ชันเครื่องยนต์แต่ต่างที่ กระจังหน้าทรงทึบที่มีช่องชาร์จนอกนั้นคงเดิมทั้ง ชุดแถบไฟ LED คาดยาวใต้ฝากระโปรงหน้ายาวไปถึงแก้มกันชนหน้าทั้งสองข้าง ถัดลงมาจะเป็นชุดไฟหน้า LED แนวตั้ง พร้อมชุดกันชนหน้าออกแบบช่องระบายอากาศตามตัวต้นแบบทรงทึบ พร้อมซุ้มล้อสีดำคาดเข้ม เส้นสายด้านข้างยังคล้ายๆกับรุ่น Kona เจนที่แล้ว ด้านท้ายที่เป็นไฟท้าย LED แนวยาวที่เป็นไฟเบรกไปถึงแก้มด้านท้ายสองข้าง พร้อมไฟเลี้ยวและไฟถอย LED แนวตั้งคล้ายด้านหน้า กันชนหลังออกแบบได้อย่างลงตัว ล้ออัลลอยมีให้เลือกหลายขนาดตั้งแต่ขนาด 17 นิ้วและ 19 นิ้วลาย pixel

ภายในสบายด้วยเบาะนั่ง 5 ที่นั่งพร้อมเบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้าติดตั้งอุ่นเบาะและระบายอากาศ เบาะหลังที่ปรับพับได้เพิ่มพื้นที่ในการบรรทุกของและโครงสร้างเบาะหลังโอบกระชับมากขึ้นและแผ่นรองนั่งที่ขนาดพอดี เบาะหลังพับได้เพิ่มพื้นที่การขนของถึง 1,241 ลิตร (ไม่พับเบาะ 407 ลิตร) ชุดหน้าจอขนาดใหญ่ 12.3 นิ้วประกอบด้วยชุดมาตรวัดดิจิตอลจอสัมผัสแสดงระบบความบันเทิง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้าน พร้อมลำโพง Bose 8 จุด ถัดลงมาเป็นช่องแอร์แนวยาวสองช่อง ไฟสร้างบรรยากาศ ambient light 64 สี คันเกียร์ทันสมัยแบบ Shift-by-Wire จอแสดงข้อมูลการขับขี่ Head Up Display และที่ขาร์จมือถือไร้สาย

ขุมพลังอีวีล้วนมีด้วยกัน 2 ทางเลือกเริ่มที่รุ่น Standard Range มีความจุแบตเตอรี่ 48.6 kWh มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวให้กำลังมากถึง 156 แรงม้า แรงบิด 255 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จ 370 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP ส่วนรุ่นท็อป Extended Range และ Premium Extended Range มีความจุแบตเตอรี่ 64.8 kWh ให้กำลัง 218 แรงม้า แรงบิด 255 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จ 505 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP และ 444 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP ในรุ่น Premium Extended Range ทั้งหมดจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Single Speed Reduction Gear

พร้อมการชาร์จกระแสตรง DC รองรับการชาร์จสูงสุด 100 kW  จาก 10-80 % ใช้เวลาเพียง 45 นาที และชารจ์กระแสสลับ AC รองรับการขาร์จ 10.4 kW นอกจากนี้ยังมีระบบ One Pedal ที่ใช้คันเร่งและเบรกที่แป้นเดียว และ Vehicle-to-Load (V2L) สามารถใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆได้จากรถคันเดียว และระบบป้องกันการชาร์จค้างที่ทำงานที่อุณหภูมิต่ำถึง -30°C (-22°F) พร้อมช่วงล่างอิสระ 4 ล้อและความปลอดภัยครบครันสไตล์ Hyundai Smart Sense ที่ออสเตรเลียำหน่ายด้วยกันถึงสามรุ่นในราคาเริ่มต้น $54,000- $68,000 เป็นราคาไม่รวมค่า on-road หรือราว 1,274,000-1,604,000 บาท

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่