ในปีที่ผ่านมา ไม่มีข่าวใด จะสร้างความฮือฮา เท่าการมาเปิดตัวของ Honda Civic Type R รุ่นใหม่ ที่ออกมาเผยโแมขายไทย ในจำนวนจำกัด เคาะราคา 3.99 ล้านบาทเป็นค่าตัว

แม้ว่า นาทีนี้ รถจะขายหมดแลเ้ว และยังไม่มีที่ท่ารุ่นใหม่จะมาทำตลาดหรือไม่ แต่ประการใด หาก ที่หลายคนไม่เคยทราบมาก่อน คือ จุดเริ่มต้นของ Civic Type R คือ รถบ้านพร้อมซิ่ง ที่เกิดจากแฟนคลับ

ย้อยไป ในปี 1997 ช่วงนั้น ทางฮอนด้า ตั้งใจมำรถสปอร์ตคูเป้ ออกมาขาย ในนาม Honda Intregra รถสปอร์ตคูเป้ขับหน้าที่ตามพี่ใหญ่อย่าง Honda NSX ออกมา ทั้งคู่ ถือรหัส Type R อันเป็นสัญลักษณ์แสดงว่าพร้อมซิ่งจากโรงงาน

Honda Civic Type R EK 9

จริงๆ ฮอนด้า ไม่เคยคิด ทำ Honda Civic Type R มาก่อน แต่ทั้งในบริษัท รวมถึงแฟนๆ ฮอนด้า ต่างคิดเหมือนกันว่า ทางฮอนด้า ควรจะจับเอารถขายดีของแบรนด์ Honda Civic มาทำรหัส Type R

Honda Civic Type R FL5

จนถึงขนาดว่า ทางฮอนด้า ได้รับโทรศัพท์ จากทางแฟนๆ ยิ่งตรง ถึงในบริษัทว่า “ผมอยากได้ Type R ใน​ซีวิค บ้าง” นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้น รถ Civic Type R

Honda Civic Type R รุ่นแรก คือ รถ รหัส EK9 มันเป็นรุ่นที่อัพเกรด มาจาก รุ่น SiR ใช้เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร N/A ให้กำลัง 182 แรงม้า พร้อมเกียร์ธรรมดา 5 สปีด รถปรับปรุงไล่เบาเป็นพิเศษ จนมีน้ำหนักเพียง 1,070 กก.เท่านั้น ด้วยการลดตัวรถ เหลือเพียง 3 ประตู

ติดตั้งเฟืองท้ายพิเศษ LSD ช่วยกระจายน้ำหนักไปยัง ล้ออีกด้าน ระบบเบรก เพิ่มขนาดจานให้มีประสิทธิภาพในการระบายความร้อน และภายในที่มีโทรสปอร์ต โดยเฉพาะเบาะ Recaro และ หัวเกียร์ ไทเทเนียม

Honda Civic Type R FL5

ราคาขายในญี่ปุ่นในยุคนั้น อยู่ที่ 1,998,000 เยน เท่านั้น แต่ Honda Civic Type R ในปัจจุบัน มีราคาสูงถึง 4,990,000 เยน หรือ มันแพงกว่าสามเท่าตัว จากต้นตำหรับ ตำนาน

ตามคู่แข่งเลยจากยุโรป เลยแพง

สาเหตุที่ราคารถ Honda Civic Type R แพงขึ้นตามลำดับ ส่วนหนึ่งมาจากการเปลี่ยนเป้าหมายของฮอนด้า ในตลอดหลายปีทีผ่านมานั่นเอง

Honda Civic Type R FL5

ในช่วงแรก Civic Type R เป็นรถที่ออกแบบมาเพื่อคนในญี่ปุ่นเท่านั้น เป็นของดีเลือดบูชิโด สำหรับ ขาซิ่งขาแรงชาวญี่ปุ่น จนในรุ่นต่อมา ทางฮอนด้าจึงตัดสินใจในการทำตลาดประเทศยุโรป เป็นการเปิดตลาดใหม่ เครื่องยนต์ K20A ทุกตัว จะผลิตในโรงงานที่ญี่ปุ่น

ก่อนส่งลงเรือ่องไปยังอังกฤษ เพื่อประกอบเข้ากับรถที่นั่น แล้วแยกเป็นเวอร์ชั่นญี่ปุ่น ส่งกลับบ้านเกิด และ เวอร์ชั่นยุโรปสำหรับขายในดินแดนมอเตอร์สปอร์ต โดย มันมีการปรับชุดเกียร์ ลดการใช้รอบจัด เพื่อเป็นไปตามเรื่องการปล่อยไอเสีย ที่เพิ่งเริ่มต้นในช่วงนั้น

ทำให้ Civic Type R เป็นที่รู้จักในยุโรปมากขึ้น ในฐานะ รถยนต์ตัวแรงของฮอนด้า ในราคาที่คนยุโรป ทั่วไปก็สามารถซื้อคบหาได้สบายๆ และมีสมรรถนะมที่ด สาเหตุสำคัญ​มาจากก ตำนานฮอนด้าใน Formula 1 ยังตราตรึงคนในยุคนั้น และ คนยุโรปชอบมอเตอร์สปอร์ต รถรุ่นนี้จึงเหมาะสม กับการทำตลาสดที่นี่นอกยุโรป ในฐานะ ไอคอนนิกคาร์ ที่หาซื้อได้ง่าย

แน่นอนว่า เมื่อเข้าสู่ตลาดยุโรปจริงจัง รถรุ่นนี้จึงถูกเปรียบเทียบกับบรรดารถสปอร์ตมากมายที่วางขายในยุโรป ทำให้ ฮอนด้าต้องพัฒนาตัวรถอย่างต่อเนื่อง ตลอดเวลาเพื่อทัดทานคู่แข่ง มีทั้ง การปรับมาเป้นทรงซีดานในเจนที่สาม และ กลับมาเป็นสามประตูอีกครั้ง เนื่องจากคนยุโรปไม่นิยม จนต้องทำเวอร์ชั่นแยกออกมาในรุ่นที่ 3

แต่ สิ่งที่ทำให้ Honda Civic Type R ก้าวกระโดดอย่างแท้จริง คือการมาของรุ่นที่ 4 ทางฮอนด้ามีเป้าหมายใหม่ที่สำคัญ ทุกคนรู้ว่า สนาม Nurburgring เป็นมากกว่าแค่สนามที่เก่าแก่ ที่นี่มีโค้งเยอะมากมาย และ มันเหมาะสำหรับการเป็นสนามทดสอบระดับโลกด้วย

ในช่วง้วลาหนึ่ง ผู้ผลิตรถยนต์มากมาย พยายามเล่นเกมเคลมว่า ตัวเองเร็วที่สุดในสนาม และมันก็ยังเป็นเช่นนั้นในวันนี้

Honda Civic Type R FL5

ทางฮอนด้า จึงตั้งเป้าว่า จะพัฒนา ให้ Civic Type R กลายเป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้า Production ที่เร็วที่สุดในสนามนรกสีเขียว แห่งนี้ จึงเปลี่ยนวิธีการพัมนา จากเดิมนำรถบ้านมาพัฒนาต่อยอดปรับแต่งให้มันพร้อมซิ่ง เปลี่ยนเป้นการพัฒนา โดยใช้พื้นฐานที่เป็น Type R ขนานแท้ ติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ ให้พลัง 310 แรงม้า มีความเร็วสูงสุด 270 ก.ม./ช.ม. ยังคงโดดเด่นด้วยการให้เกียร์ธรรมดา 6 สปีด

ทำให้ตอนเปิดตัวราคาขายในญี่ปุ่นสูงถึง 4.28 ล้านเยน กระโดดมาจากรุ่นก่อนในเจน 3 ประมาณ ล้านกว่าเยน และ ราคาก็เพิ่มสูงขึ้นในแต่ละรุ่น มาจนถึงรุ่นปัจุจบัน แต่นั่นก็หมายความถึง รถที่คุณครอบครอง มีดีกรีเร็วสุดในสนามระดับโลก (รุ่นปัจุจับน ทำเวลา ต่อรอบ 7 นาที 44.881 วินาที ในการวิ่งโชว์สมรรถนะของฮอนด้า)

แต่แฟนก็อยากให้ กลับสู่รากเหง้า

แม้ว่าในไทย Honda Civic Type R จะขายในราคา 3.99 ล้านบาท และหมดลงอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับในญี่ปุ่นที่ทางฮอนด้า ได้รับคำสั่งื้อจากลูกค้าจำนวนมาก ในญี่ปุ่นมียอดสั่งเข้ามา 20,000 คัน และกำลังอยู่ในระหว่างการทยอยส่งมอบ อย่างต่อเนื่อง

แต่ลูกค้า ก็เรอ่มมีเสียงสะท้อนว่า ราคาของมันเริ่มแพงไป ทั้งที่การพัฒนาตัวรถ ก็ยังใช้เครื่องยนต์ชุดเดิ่ม มีการปรับเซท ช่วงล่าง โครงสร้างใหม่ แม้ว่าจะอยู่ในจุดที่รับได้ สำหรับคนที่ต้องการมี รหัสแรงติดไว้ในบ้านสักคัน

หากการขับ ซีวิค ราคา 4 ล้านบาท บางคนก็รู้สึกว่า ราคามัน ออกจะมากไปหน่อย ขยับอีกนิด ได้รถสมรรถนะสฦูงกว่า แบรนด์ดีกว่า ลูกค้าจำนวนหนึ่งมองว่า อาจถึงเวลาที่ฮอนด้า ต้องหันมามองหลัง ทำกลับสู่รากเหง้าความจริง

Civic Type R ในวันนี้ อาจจะยังเป็นรถในฝันของหลายคน ที่อยากได้ไว้สักครั้งในชีวิต ทั้งที่ความจริงในอดีต มันเป็นรถที่ใครๆ ก็สามารถซื้อได้ ถ้าคุณมีใจพร้อมซิ่ง

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่