ถ้าพูดถึงอุปกรณ์ต่างๆในรถยนต์ เราต้องยอมรับว่า หลายสิ่งหลายอย่างที่ดูเป็นมาตรฐานในวันนี้ความจริงล้วนมีความสำคัญอย่างมาก และหนึ่งในนั้นที่หลายคนชอบตั้งคำถาม ก็คือหมอนรองศีรษะที่ติดอยู่กับเบาะนั่งทุกตำแหน่งภายในรถ

หมอนรองศีรษะ หรือ  Head Restraint เป็นอุปกรณ์มาตรฐานของผู้ผลิตรถยนต์ในสมัยนี้ มันเกิดขึ้นจากการเสริมสร้างความปลอดภัยในการขับขี่มากขึ้น ในการปกป้องผู้ขับขี่และผู้โดยสารยามเกิดอุบัติเหตุ ไม่ให้ได้รับบาดเจ็บบริเสณช่วงคอ ซึ่งอาจจะทำให้ถึงแก่ชีวิตได้
เรื่องราวของหมอนรองคอในรถยนต์ เริ่มต้นขึ้นในยุคปี 1921 เมื่อนายเบนจามิน แคทส์ (Benjamin Katz)  จดสิทธิบัตรอุปกรณ์พนักพิงศีรษะสำหรับรถยนต์ เนื่องจากในเวลนั้นเบาะนั่งรถยนต์ยังเป็นแบบ   Bench Seat   คือ มีเพียงพนักพิงหลังและที่รองรองนั่งเท่านั้น และมีการจดสิทธิบัตรเพิ่มเติมในการผลิตอุปกรณ์ดังล่าวในปี 1930 ก่อนทีบริษัทผลิตชิ้นส่วนที่อังกฤษ ที่ชื่อว่า  Karobe   จะผลิตออกวางจำหน่ายในปี  1973

ช่วงแรกไม่มีใครให้ความสนใจเจ้าหมอนรองคอมากนัก และคิดว่ามันเป็นอุปกรณ์ที่ระเกะระกะในการขับขี่ จนกระทั่งในยุคปี 1960 เมื่อสำนักงานทางด้านความปลอดภัยทางถนนของสหรัฐหรือ  NHTSA   ออกมากำหนดมาตรฐานความปลอดภัย ใน   Regulation  – Motor Vehicle Safety standard 202 ระบุให้ผู้ผลิตรถยนต์จำเป็นจะต้องติดตั้งหมอนรองคอเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่
ตามข้อกำหนดที่ทางหน่วยงานสหรัฐได้วางเอาไว้ ระบุว่า เมื่อรถคันได้ก็ตามสามารถเร่งได้ถึง 8 จี ต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์รองศีรษะที่ทำมุมกับลำตัว 45 องศา และสามารถปรับยืดได้ถึง 700 มิลลิเมตร เพื่อสามารถรองรับสรีระที่แตกต่างกัน

 

การใช้งานหมอนรองคอ

หลายคนอาจจะผ่านตาหรือเห็นหมอนรองศรีษะประจำรถตัวเองมาบ้า งแต่ไม่เคยใช้งานมันอย่างจริงจัง เนื่องจากไม่ได้ใส่ใจหรือทราบถึงประโยชน์ของมัน มาก่อน

วิธีการใช้งานหมอนรองคอนั้นง่ายมาก ก่อนอื่นให้คุณนั่งลงบนเบาะ เพื่อตรวจสอบตำแหน่งหมอนรองคอว่าอยู่ในตำแหน่งกลางศีรษะหรือไม่ ถ้าคุณพบว่าหมอนรองศีรษะอยู่กลางหัวพอดี ก็ไม่ต้องปรับอะไร แต่ถ้าคุณรู้สึกว่า หัวศรีษะคุณสูงกว่าเบาะนั่ง ก็ให้ทำการยกหมอนรองศีรษะขึ้นมา และทดลองนั่งใหม่ ในรถบางรุ่น สามารถปรับให้เยื้องหน้าได้ด้วย แต่ก็ไม่ควรจะปรับให้ดันศีรษะมากไป เนื่องจากอาจจะทำให้บาดเจ็บได้ ถ้าเกิดการชนในระหว่างการขับขี่

แล้วมันมีประโยชน์อย่างไร

ปัจจุบันน้อยคนจะตระหนักถึงความสำคัญของหมอนรองศีรษะ  ทั้งที่จริงมันมีความสำคัญมากอย่างยิ่งยวดจนคุณคาดไม่ถึงเลยทีเดียว

การทำงานของพนักงานพิงศีรษะ อาจจะไม่มีอะไรมากกว่าการรองรับศีรษะ เมื่อเกิดการกระแทก แต่พนักพิงศีรษะเหล่านี้กลับให้ความปลอดภัยอย่างไม่น่าเชื่อในการขับขี่ ด้วยการตอบสนองทางด้านความปลอดภัย โดยเฉพาะในกรณีรถโดนชนท้าย ศีรษะของเราจะพุ่งไปข้างหน้าจากแรงกระแทกจากกรชน เหมือนหมดแรง หัวเราจะกลับมากระแทกเบาะ หากไม่มีหมอนรองศีรษะ หัว เราอาจจะมีแรงเคลื่อนไปด้านหลัง ทำให้มีโอกาสได้รับการบาดเจ็บที่ต้นคอ หากเกิดการชนท้าย

ปัจจุบันหมอนรองศีรษะมีหลายแบบ บางแบบให้ปรับเอง บางแบบอาจจะเป็นตายตัวกับชุดเบาะนั่งของเรา และบ้างอาจจะทำงานอย่างอัตโนมัติ แต่ไม่ว่าคุณขับรถอะไร วันนี้ อย่าลืมใส่ใจปรับหมอนรองคอ ทุกครั้งที่ขับขี่ แม้ว่ามันอาจจะดูไม่สำคัญแต่เชื่อหรือไม่ เจ้าอุปกรณ์เล็กๆ ชิ้นนี้ ช่วยให้คุณอาจจะไม่ต้องเสียเงินหาหมอหากโดนชนท้าย

เรื่องโดย ณัฐยศชูบรรจง
ติดตามได้ทางแฟนเพจ   Bonn Review

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่