ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา การมาของ Great Wall Motor ได้รับความสนใจอย่างมาก ส่วนสำคัญมาจากการนำเสนอ รถยนต์อเนกประสงค์น่าใช้ ในนาม Haval H6 Hybrid ที่ออกมา ตอบตลาดคนไทย อยากมีรถอเนกประสงค์ ฟังชั่นครบราคาถูก

การเปิดตัวรถ Haval H6 HEV สร้างมิติใหม่ในการนำเสนอรถยนต์อเนกประสงค์ในตลาดบ้านเร าด้วยการเป็นเจ้าแรกของกลุ่มไฮบริด ทั้งยังพกความคุ้มค่าอีกมากมาย

Haval H6 HEV

การมาของราชาครอสโอเวอร์ อย่าง Honda CR-V ทำให้ Haval ดูจะอยู่นิ่งไม่ได้ ต้องปรับตัวตามให้ทันยุคสมัย และ สามารถเป็นทางเลือกแก่ ลูกค้า ที่มองหาความคุ้มค่าในตลาดอยู่

เปลี่ยนหน้า พร้อม มีวิชา ขาตั้งเตะ

อย่างแรกที่ทาง Haval ตัดสินใจ นำเสนอในรถยนต์รุ่นนี้ นั่นก็หนีไม่พ้น การนำเสนอ หน้าตาใหม่ให้กับ เจ้าอเนกประสงค์คันนี้

เดิมที หน้าตากระจังหน้าสีเงินขนาดใหญ่ พร้อมไฟหน้าที่ดูโฉบเฉี่ยว ทำเอาหลายคน รู้สึกตะหงิดๆ ใจ เวลาจะกดสั่งจองรถ

Haval H6 HEV

ปัจจุบัน เทรนด์ รถอเนกประสงค์ ต้องมีโครเมี่ยมเยอะๆ ไม่ใช่ที่นิยมอีกต่อไป เมื่อโลกเปลี่ยน ฮาวาล ก็รีบปรับตัวให้ทันสมัย ด้วยการนำเสนอ งานออกแบบใหม่ นั่นคือใบหน้า Star Matrix Grill ที่เคยเปิดตัวในรุ่น PHEV มาก่อนหน้านี้ ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา

มันถูกนำมาใส่ลงในรุ่นไฮบริดแล้วในวันนี้ ,​ หน้าตาใหม่นี้ ทำให้ตัวรถค่อนข้างจะดูทันสมัยมากขึ้น มีความแปลก แอบมีกลิ่นอายของรถจากยุโรปอยู่ไม่น้อย จนเรียกว่า หน้าตา ละม้ายคล้ายกันอย่างที่คุณจะไม่สามารถปฏิเสธได้เลย

หน้าตาที่แปลกใหม่ รายละเอียดอื่นๆ ทางภายนอกก็ดูจะเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะล้ออัลลอย ที่มาพร้อมยาง Good year Effiecient Grip Performance SUV ไปจนถึงงานออกแบบอื่นๆ แม้กระทั่งสี ก็ยังเหมือนเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง

อีกจุด ที่ทาง GWM บอกว่า อ่ะ เพิ่มให้หน่อย ก็คือในส่วน Kick Sensor ที่ฝาท้ายไฟฟ้า งวดนี้ สามารถเปิดใช้งานได้ เพียงเตะเข้าไปใต้รถ เพิ้มความสะดวกสบายมากมากมายกว่าเดิม

หรือรวมๆ ภายนอก อาจจะกล่าวได้ว่า จับออพชั่น PHEV ลงมาอยู่ในรุ่น HEV พูดแบบนั้นก็ไม่ผิดเท่าไรนัก

จริงๆ ผมแอบรู้สึกว่า ทาง ฮาวาล น่าจะเพิ่มสีภายนอกใหม่ที่มันอินเทรนด์ดูบ้าง อาจทำให้รถน่าใช้ขึ้นกว่านี้

ภายใน…ปรับ ซอฟแวร์ !!

จากภายนอกมาดูภายในห้องโดยสาร พูดตามตรงคือ ..ไม่ได้ปรับอะไร..เลย!!

บางคนอ่านถึงตรงนี้ อาจจะคลิกเมสาท์ปิดทันที คิดในใจ ผู้เขียน มันจะมาพูดทำไม เสียเวลาทำมาหากิน

Haval H6 HEV 2023

สาเหตุที่ ทาง Haval ไม่ปรับเจ้ารถยนต์คันนี้ ก็เนื่องมาจากว่า ทางแบรนด์ยังมองว่า แนวทางการออกแบบภายในห้องโดยสารรถคันนี้ ยังโอเค ทันยุคทันสมัย

ที่จริง ผมชอบหลายอย่างในเจ้า H6 มาตั้งแต่สัมผัสครั้ง ไม่ว่าจะหน้าจอคนขับ มาจนถึง จอความบันเทิง ที่ใหญ่ใช้งานง่า ยแม้ว่าจะติดว่าผมไม่ชอบอะำไรที่มันซับซ้อน จะตั้งค่าอะไร ต้องจิ้มเข้าไปในจอเกือบหมด

อีกอย่างก็คงเป็นสี Rose Gold ของการตบแต่งภายในห้องโดยสาร ที่หลายคนแอบแปลกใจที่ทางแบรนดืนี้เอามาตบแต่ง

ถึงจะพูดว่าเหมือนเดิม ทาง ฮาวาล ก็ชี้แจงว่า มีการเปลี่ยนแปลงในหลายจุดของรถคันนี้ โดยเฉพาะครั้งนี้ปรับในซอฟท์แวร์ระบบ ให้เหมาะสมมากขึ้น ประกอบด้วย

  • อัพเดทให้ จอแสดงผล Multi- Media มีความสเถียรขึ้น
  • อัพเดท การแสดงผลของระบบกล้องรอบทิศทาง
  • อัปเดทพื้นหลังจอ ให้สามารถ เปลี่ยนพื้นหลัง เหมาะกะบโหมดกลางวัน-กลางคืน

และในภายหลังจากนี้ จะมีการอัพเดท ระบบ Apple Car Play เป็นแบบไร้สาย เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งานมากขึ้น

ส่วนจุดเด่นของ Haval H6 ทุกรุ่นที่เหมือนกัน ก็คือ มันมีพื้นที่ในการโดยสารค่อนข้างใหญj และพื้นที่สัมภาระ ค่อนข้างใหญ่พอสมควร

สมรรถนะลงตัวขึ้น สมบูรณ์แบบกว่าเดิม

ทางด้านสมรรถนะการขับขี่ ใต้เรือนร่างรถคันนี้ ยังคงรายละเอียดเดิมไว้ทุกประการ โดยเฉพาะ ระบบขับเคลื่อน เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ พร้อมระบบไฮบริด DHT ให้การตอบสนองดีที่สุดในตลาด ด้วยกำลังขับสูงสุด 243 แรงม้า ทำแรงบิดสูงสุด 530 นิวตันเมตร จัดจ้านเกินใคร สำหรับสายสมรรถนะ คงชอบไม่น้อย

ในรุ่นเดิม แม้ว่ารถคันนี้จะมีกำลังขับเยอะพอสมควร แต่ ด้วยความวิศวกรชาวจัน มองว่าเป็นรถครอบครัว จึงเซทให้นุ่มนวลในการเดินทาง เป็นรถที่นั่งสบายแต่ พอมาขึ้นขับ รู้สึกว่า ในช่วงความเร็วสูงกลับไม่ค่อยมั่นใจเท่าไร

แถม ชุดเกียร์ มีการจังหวะ ทดมอเตอร์ 2 จังหวะ กลับทดจังหวะ High ไว้เสียสูง ช่วงย่านความเร็ว 150 ก.ม./ช.ม.​ขึ้นไป ทำให้ใช้จังหวะทดได้สั้น เพียงนิดเดียว ก่อนตัน ที่ความเร็วสูงสุด 185 ก.ม./ช.ม.​

ในรุ่นนี้ แม้ว่า ในการพรีเซนท์ตัวรถ จะไม่ได้พูดถึงเรื่องสมรรถนะในการขับขี่เลย ด้วยเหตุว่า รายละเอียด มันเหมือนกันทุกอย่าง จึงไม่จับมาเป็นประเด็นพูดถึงให้มากความ

แต่หลังจากลองสัมผัส , ทาง Haval กลับ แอบ ปรับระบบกันสะเทือนทางด้านหลังใหม่ เป็นระบบกันสะเทือน ที่ดูตึงขึ้นเฟิร์มขึ้น ลดความนิ่มนวลในการโดยสารลงอย่างชัดเจน

คุณอย่าแปลกใจที่เห็น Haval H6 พุ่มด้วยความเร็วอย่างมั่นใจ กล้ารูดผ่านหลุ่มถนนปะ อย่างไม่เกรงกลัว ด้วยช่วงล่างใหม่นี้เซทให้มีความเฟิร์ม เน้นตอบสนอง ยืด-ยุบไว ลดการโคลงตัวเวลาเปลี่ยนเลนเร็วๆ ด้วย

ทาง GWM เผยว่า ทีมวิศวกร ได้นำฟีดแบ็ค ตั้งแต่เราลองขับ H6 ครั้งแรก มาพิจารณา และคิดว่า ทีแรกจะใช้ช่วงล่างใหม่ จาก Haval H6 PHEV ที่เปิดตัวไป แต่ด้วยน้ำหนักตัวรถ ที่ต่างกันจึงมีการปรับจูนช่วงล่างจากรุ่นเดิมใหม่ เล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้บอกว่าทำอะไรไปบ้าง เทียบกับรุ่นเดิม

ในความเข้าใจผม น่าจะมีการเปลี่ยนชุดโช๊คอัพใหม่ ทั้งหมด และ น่าจะรวมถึงเพิ่มขนาดกันโคลงหลังให้ใหญ่ขึ้น ลดการโคลงตัว เวลาขับด้วยความเร็ว ส่งผลให้รถขับมั่นใจมากกว่าเดิม

การเซทช่วงล่าง เป็นเพียงส่วนหนึ่งในรถคันนี้เท่านั้น ,​หลังจากขับธรรมดาๆ มานาน ก็ลองซิ่งดูบ้าง ระบบขับเคลื่อนดูมีการปรับปรุงในแง่การตอบสนองของชุดเกียร์ อยู่ 2-3 ประการ

อย่างแรก , ปรับการตอบสนองของขาคันเร่ง ให้ดูไวขึ้นกว่าเดิมอีกเล็กน้อย หากเทียบกับในเวอร์ชั่นก่อน
ข้อต่อมากปรับการใช้ ชุดเฟืองทดมอเตอร์ high เร็วขึ้น จากที่ทำงานในช่วงความเร็ว 150 ขึ้นไป ตอนนี้ที่ความเร็ว 130 กลางก็เริ่มทำงานแล้ว แต่ยังคงมีปัญหาเดิม คือจะมีอาการพลังเครื่องวูบนิดๆ ในจังหวะเปลี่ยนการตอบสนอง

แต่ภาพรวมของเครื่องยนต์ กำลัง 243 แรงม้า พลังขับบวกรวมได้ 530 นิวตันเมตร มันค่อนข้าวจะให้ความเร้าใจพอสมควร ส่วนที่ดี คือ มันใช้การขับร่วมกัน ของมอเตอร์และเครื่องยนต์ ทำให้ไม่รู้สึกว่าพลังหมด การทำงานสอดผสาานกัน ทำให้รถมีสมรรถนะในการขับขี่เร้าใจตลอด ทุกครั้งที่กดคันเร่งลงไป

ปรับซอฟแวร์ ที่เกี่ยวกับการขับขี่อีกหน่อย

แต่ถึง จะมีการปรับอะไรเล็กน้อย แบบเงียบให้กับลูกค้าทาง Haval ก็เผย ว่าในแง่การขับขี่ มีการปรับระบบซอฟท์แวร์ที่เกี่ยวข้องหลายจุด ด่วยกันได้แก่

  • อัพเดทการแสดงผลระบบกล้อง 360 องศา
  • อัพเดทโหมดขับขี่ให้จดจำ และสามารถเลือกได้จากพวงมาลัย (ไม่ต้องเข้ามาใช้จอกลาง)
  • อัพเดท เสียงเพลง และ การโทรศัพท์ ไม่เบาลง ในระหว่างเปิดไฟเลี้ยว
  • ระบบ Emergency Lane Keeping จดจำ การตั้งค่า เปิด-ปิด จากผู้ใช้ และ ไม่เปิดขึ้นมาทำงานเอง เหมือนก่อน

นอกจากนี้ในอนาคต ทาง GWM มีแผน การอัพเดทระบบให้แจ้งเตือนไปเมื่อไฟฟ้า ในแบตเตอร์รี่ อยู่ในระดับต่ำ (แบตเตอร์รี่ไฮบริด และ แบตเตอร์รี่ 12 V) ผ่าน GWM Application เพื่อให้ ลูกค้าสามารถทำการสตาร์ทรถระยะไกล และสั่งให้รถทำการชาร์จไฟ และ รักษาระดับแบตเตอร์รี่ ผ่านฟังชั่น Idle Charging (เหมาะสำหรับรถจอดนาน กรณี ไปต่างประเทศ หรือ ทำงานต่างจังหวัด)

Haval H6 HEV รวมๆ คุ้มค่าขึ้น สมรรถนะแอบดีขึ้นเช่นกัน

หลังจากขับเจ้า Haval H6 HEV 2023 คันนี้ ผมว่า มันน่าสนใจขึ้นเยอะ ทั้งในแง่ของการปรับออพชั่นให้ครบเครื่องคุ้มค่ามากขึ้นกว่าเดิมที่ผ่านมา

หน้าตาใหม่กับ คิก เซนเซอร์ อาจจะเป็นเพียงบางส่วนของรถยนต์อเนกประสงค์คันนี้ที่ต้องการเน้นความลงตัวในการใช้งานมากขึ้น

หาก ราคาที่เพิ่มกว่าอีก 100,000 บาท (รุ่นใหม่ ราคาอยู่ที่ 1,349,000 บาท) ทางแบรนด์ ก็มุ่งนำเสนอ สมรรถนะที่มีการแอบปรับแอบจูน ให้น่าใช้มากขึ้น

จนผมยังแซงว ถ้าแค่หน้าใหม่ และ คิด เซนเซอร์ ต้องเพิ่มอีก 100,000 บาท ดูจะสูงไปสักหน่อย แต่หลังจากลองแล้ว บอกเลยว่ามันไม่ได้มีแค่นั้น มันมีมากกว่านั้น เพียงแค่เขาไม่ได้เปิดเผยกับเราทั้งหมด

ถ้าไม่ติดว่า Haval H6 HEV นี่คือรถยนต์จาก แบรนด์จีน .. ทั้งหมดที่ให้มาเรียกว่าคุ้มค่า ครบราคา กว่าที่เราคิดเสียอีกครับ

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่