ฮอนด้า แอคคอร์ด รถคู่บุญ ค่ายรถยนต์ผู้นำตลาดรถนางมายาวนาน ขายทั่วดลกมาจนถึงวันนี้ก็นับเป็นรุ่นที่ 10 แล้ว การอยู่มานานตั้งแต่รุ่นปู่ยันรุ่นหลาย ทำให้มันต้องการแนวทางการพัฒนาใหม่ ยิ่งในวันนี้รถเก๋งต้องหาของดี มาสู้รถอเนกประสงค์ที่กำลังได้รับความนิยม

ตั้งแต่เปิดตัวมา  Honda  Accord  ถูกพูดถึงในหลายเรื่อง โดยเฉพาะมันเลี่ยงที่จะถูกเปรียบเทียบกับคู่แข่งขาประจำอย่าง  Toyota Camry   ไม่ได้ ด้วยรถที่อกมาในช่วงระยะเวลาไล่เลี่ยกัน ทำเอาศึกซีดานกลางกลับมาร้อนฉ่า ตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา

ตัวรถรุ่นใหม่ ถูกพัฒนาภายใต้ 3 แนวคิด สำคัญ คือ เหนือระดับ , จับใจ และท้ายสุด คล่องตัว ทั้งหมดนี้ นับเป็นโจทย์ที่พูดฟังแล้วง่าย แต่กว่าจะออกมาเป็นรถในวันนี้ช่างยากเย็นเสียยิ่งกว่ากระไร

หลายคนเห็น ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ ตัวเป็นๆ มาตั้งแต่งานแสดงรถยนต์ มอเตอร์โชว์ เมื่อต้นจนปิดปี ก็ยังได้ยินกระแสวิจารณ์งานออกแบบรถคันนี้

สำหรับผมมองการออกแบบรถรุ่นนี้ กลับรู้สึกชอบในความกล้าของทีมงานออกแบบฮอนด้า พยายามสร้างสิ่งใหม่ที่แตกต่างในรถซีดานกลาง ไม่ใช่แค่สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ตอบตลาด มันก็แค่รถอีกรุ่นทีผ่านมาแล้วผ่านไป

Review Honda Accord 1.5 Vtec Turbo

ถ้ามองให้ดีโครงสร้างตัวรถรุ่นใหม่ไมได้ออกมาตามสูตรตายตัวสร้างซีดาน ทางทีมออกแบบ เหมือนต้องการจับตลาดทางยุโรปมากขึ้น พวกเขาออกแบบให้มันดูมีความสง่ามากขึ้น ลบเส้นสายรายละเอียดดังเดิมออกไป ช่วงห้องเครื่องยนต์ออกแบบให้ยาวมากเป็นพิเศษ พร้อมขยับห้องโดยสารเยื้องไปทางด้านหลังมากขึ้น  ตัวห้องสัมภาระท้ายถูกยุบรวมประยุกต์เข้ากับส่วนหลังห้องโดยสาร เป็นรถตูดสั้น แลดูเผิน อาจคิดว่ามันเป็น 5 ประตู คล้ายๆ  Honda  CrossTour   รุ่นใหญ่ที่เคยทำตลาดอเมริกามาก่อนหน้านี้

เรื่องการตบแต่งหลายคนรู้สึกว่ามันประหลาด ด้วยความขัดกันระหว่าง ความสปอร์ตกับความหรูหรา ยังไม่เข้ากัน ราวกับก๋วยเตี๋ยวปรุงรส แล้วยังอร่อยไม่เสร็จ ทางด้านหน้า ทีมงานฮอนด้าออกแบบมาพร้อมกระจังหน้าโครเมี่ยมขนาดใหญ่ พาดยาวตามความกว้างรับกับไฟหน้า   LED   ในโคมให้ ไฟ  Day Time Running Light  มาให้ แต่เมื่อมองตรงกันชนหน้า หลายคนเกาหัว ทำไม ไม่ให้ไฟตัดมอกมาด้วย ทั้งที่เป็นของจำเป็นในระหว่างการขับขี่

Review Honda Accord 1.5 Vtec Turbo

สำหรับผมมองว่า ไฟหน้ายุคใหม่ มีประสิทธิภาพในการส่องสว่างมากพออยู่แล้วในระดับที่จะทะลุทะลวงสายหมอกได้ ถ้าถามว่าควรมีไหม ใช่! มันควรมี กลับกันถามว่าไม่มีก็ได้ใช่ไหม ผมมองว่าได้ อันนี้อาจจะเป็นเรื่องของความต้องการของแต่ละคนในมุมมองที่แตกต่างกันมากกว่า

ก้าวเท้ามาหน้ารถ มองเผินคุณจะไม่เห็นรายละเอียดที่ทางฮอนด้าใส่ใจในรถคันนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกันชนหน้า ดูจากด้านหน้า จะเห็นการให้รายละเอียดความกว้าง ทีมออกแบบเรียกแนวคิดนี้ ว่า   “Wide Stance”  ตัวกันชนออกแบบให้ช่วงกลางตัวรถมีช่องรับลมขนาดใหญ่ ไประบายความร้อนหม้อน้ำ และอินเตอร์คูลเลอร์ลดความร้อนอากาศที่มาจากเทอร์โบชาร์จ

Review Honda Accord 1.5 Vtec Turbo

ถ้ามองให้ดีจะพบสิ่งละอันพันน้อยในเรื่องความสปอร์ต ทางฮอนด้า ใส่มาติดปลายนวมครบเครื่อง ด้วยเคี้ยวตักลมที่ปลายกันชนหน้าทั้ง 2 ช่วยให้รถรีดอากาศดีขึ้น ดูหรูและมีประสิทธิภาพอย่างรถสปอร์ตชั้นนำ ช่วงฝากระโปรงหน้า หันมาใช้วัสดุอลูมิเนียมลดน้ำหนัก คล้ายที่นิยมในรถสปอร์ต ออกแบบให้มีความโป่งขึ้นเล็กน้อย กระจังหน้าจึงงุ้มลงนิดหน่อย ด้านข้างสอดเส้นสายงานออกแบบดูมีความทรงพลังที่ซุ้มล้อหน้า

เส้นไหล่ลากยาวตั้งแต่ประตูหน้ามาตจรยังช่วงฝาท้าย ทางด้านข้างด้านล่างเล่นเส้นสายเล็กน้อย บางคนบ่นว่าทำไม มันดูเหมือนรถดูบุบเวลามองสะท้อนแสง ติดตั้งล้ออัลลอยทูโทนเทาๆ ขนาด 17 นิ้ว ให้ยาวขนาด 225/50/R17   ทั้ง 4 ล้อ  พร้อมกระจกมองข้างมีกล้องทางฝั่งซ้าย ใช้งานเวลาเปลี่ยนเลน ลดมุมอับสายตา บนหลังคาหันมาใช้การประกอบหลังคาทันสมัยหลักการเดียวกับรถยนต์หรูชั้นนำ จะสังเกตได้ว่ามันไม่มีขอบยางทางด้านบน ระหว่างชิ้นส่วนทางด้านข้างและชิ้นส่วนหลังคา

Review Honda Accord 1.5 Vtec Turbo

Review Honda Accord 1.5 Vtec Turbo

ด้านหลัง, งานออกแบบแลขัดกับทางด้านหน้าสักหน่อย รถคันนี้ไม่ได้มาพร้อมบั้นท้ายดูหรูหรา มันกลับดูสปอร์ตมากกว่า อาทิ ฝากระโปรงท้าย แอบขึ้นรูปสปอรยเลอร์มาให้ในชิ้นงาน ไฟท้าย LED   หลัง มองให้ดี มันเป็นเสน่ห์ปนความสปอร์ต ลักษณะไฟท้ายเดียวกับ   Honda  NSX   ตูดยังออกแบบให้สั้นกุด ทำให้มันควบคุมง่ายลดแรงเหวี่ยงขณะเข้าโค้ง

ในใจผมตอนกลับมาพบกับ   Honda  Accord   อีกครั้งกลับรู้สึกว่า   Honda  Accord   ใหม่ เปลี่ยนภาพลักษณ์ความหรูให้ดูสปอร์ตมากขึ้น เน้นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มองหาเก๋งสักคันตอบพวกเขา

รับกุญแจ   Keyless   มา รายละเอียดตัวกุญแจเหมือนรุ่นก่อน ยกเว้นเพิ่มระบบ Remote Engine Start   สามารถสั่งให้เครื่องยนต์ทำงานเปิดแอร์รอคุณได้จากระยะไกล ฟังชั่นนี้ดีเหมาะกับเมืองไทยเลยทีเดียว

การเปิดประตู ก็เฉกเช่นฮอนด้าสมัยนี้ ดึงเปิดรูดปิด เข้าใจง่าย วันนี้ได้รถสีซิลเวอร์มาลองขับ ภายในห้องโดยสารเราจึงเป็นสีดำ ได้อารมณ์สปอร์ตมากขึ้นไปอีก หลังจากตอนทดสอบกลุ่มได้รถสีเทาภายในห้องโดยสารกลายเป็นสีเบจขาว บางคนบอกว่าหรูดี ส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบมันเท่าไรนัก

Review Honda Accord 1.5 Vtec Turbo

ตรงหน้าคนขับให้พวงมาลัย 3 ก้าน พร้อมปุ่มควบคุมต่างๆ ให้ใช้งานง่ายถนัดมือ ทั้ง ระบบ  Cruise Control  , ควบคุมเครืองเสียง ตลอดจน ควบคุมจอเรือนไมล์ฝั่งซ้ายเป็น   TFT    ขนาด 7 นิ้ว สามารถบอกข้อมูลได้หลายอย่าง ถ้าเลือกเป็นเรือนไมล์บอกรอบเครื่องยนต์ปกติทั่วไป จะรู้สึกว่ามันเรียบไปนิดไม่มีอะไหลหวือหวา เป็นลูกเล่นเหมือนในซีวิค เข้ามาแล้วดูลังการมากกว่า

ผมเชื่อว่าส่วนหนึ่งมาจากความต้องการฮอนด้า คงกังวลเรื่องความโลว์เทคของกลุ่มเป้าหมาย ส่วนใหญ่เป็นวัยกลางคน จนถึงคนวัยใกล้เกษียณ ทำลูกเล่นแพรวพราวกลัวจะเซทไม่เป็นใช้งานลำบาก เมนูต่างๆ ของจอเรือนไมล์จึงเซทง่าย ใช้งานได้ดี ในยามจอปกติ จะมีรอบเครื่องยนต์กับไมล์ความเร็ว ตั้งอยู่บนพื้นสีดำ ด้านข้างขวาบอกระดับน้ำมันเชื้อเพลิง ด้านซ้ายบอกระดับความร้อนหม้อน้ำ ครบเครื่องสิ่งต้องใช้

Review Honda Accord 1.5 Vtec Turbo

ในโหมดปกติ สิ่งที่ผมว่าขาดไปจนทำให้อรรถรสการขับขี่ ฮอนด้า แอคคอร์ด เทอร์โบ จางลงไป คงเป็นตัววัดบูสต์กำลังอัดจากเทอร์โบ คุณสามารถพบมันได้ในยามกดโหมดสปอร์ต รายละเอียดเรือนไมล์จะเปลี่ยนไปมีลูกเล่นมากขึ้น

หลังพวงมาลัยมี  Paddle Shift   มาให้บริหารนิ้วยามทำความเร็ว และตรงคอนโซลกลางเป็นรายละเอียดโหมดสปอร์ต หรือจะขับประหยัด รวมถึงเบรกมือไฟฟ้า พร้อม   Brake Hold   ด้วย

ทางด้านความสบายในห้องโดยสารก็เรียกว่า มีในระดับหนึ่งเท่านั้น เริ่มจากเบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า สามารถบันทึกท่านั่งได้ 2 ตำแหน่ง ภรรยาสามี จะแลกกันขับก็ไม่ต้องปรับเบาะกันให้วุ่นวายใจ มาพร้อมการปรับสูงต่ำ และมีตัวดันหลังมาให้เสร็จสรรพ  ฝั่งคนนั่งปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง ตัวเบาะนั่งเหมือนติดตั้งต่ำกว่าฝั่งคนขับเล็กน้อย และมันไม่สามารถปรับสูงต่ำได้

Review Honda Accord 1.5 Vtec Turbo

ตรงกลางได้หน้าจอเครื่องเสียงความบันเทิงขนาด 8 นิ้ว ตอบการใช้งาน มีช่อง   USB   มาให้ 2 ตำแหน่ง อันหนึ่งอยู่ใต้ช่วงกลางคอนโซลหน้า อีกอันอยู่ในคอนโซนกลาง คุณภาพเครื่องเสียงอยู่ในระดับกลางๆ ไม่หวือหวา เท่าไรนัก  ถัดลงมาเป็นแอร์แยกปรับอิสระซ้าย-ขวา  มีฮีทเตอร์ในตัว หนาวนี้สบายไร้กังวล

ส่วนทางด้านหลัง ความสบายหายห่วง ด้วนพื้นที่โดยสารกว้างขวางโอ่อ่า ตัวเบาะออกแบบมานั่งเอนหลังเล็กน้อย ขนาดเบาะรองนั่งใหญ่และมีความหนา นั่งสัมผัสคล้ายโซฟา ให้ความรู้สึกพร้อมหลับตลอดเวลา ตรงกลางมีที่เท้าแขนมาให้ แต่มันดันไม่สามารถล็อคตำแหน่งตรงกลางได้  ต้องปล่อยทิ้งตัวไปยังเบาะนั่ง ทำให้การวางแขนต่ำไปหน่อยสำหรับคนตัวใหญ่ หลังที่วางแขน มีช่องหยิบของตอนหลังในห้องสัมภาระท้ายมาให้ การจะหยิบของต้องใช้กุญแจ ผมว่ามันไม่สะดวกเท่าไรนัก ในความเป็นจริง

ผู้โดยสารตอนหลังได้ความสบายอย่างเดียว คือ ช่องแอร์หลัง ไม่มีช่องเสียบชาร์จไฟ  USB   มาให้ ทั้งที่ต้นทุนก็ไม่น่าจะกี่สตางค์  รถคันนี้จึงไม่มีลูกเล่นอะไรหวือหวานัก

วิศวกรรม และการทดลองขับ

ใต้เรือนร่างซีดานกลาง ฮอนด้า ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด  1.5 ลิตร พร้อมระบบเทอร์โบชาร์จ มีปริมาตรขนาดกระบอกสูบจริง 1,498 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า  ที่ 5,500 รอบต่อนาที และให้แรงบิดสูงสุด 243 นิวตันเมตร สูงสุด ตั้งแต่ 1,500 – 5,000 รอบต่อนาที ส่งลงชุดเกียร์อัตโนมัติ CVT  มีอัตราทด 2.645-0.405

ส่วนตัวถังรถโครงสร้าง   G Con  ได้รับการพัฒนาปรับปรุงเหล็กโครงสร้างใหม่ ใช้เหล็ก   High Tensile Steel   สูงถึง 60% ของโครงสร้าง  ช่วงเสาและคานรับแรงกระแทก กรณีเกิดการชน ใช้เหล็ก 980 MPa  ส่วนพื้นรถอัพเกรดชุดเหล็กจาก 440   MPa   มาเป็น 590  MPa  ส่งผลให้ โครงสร้างใหม่ ทนการโค้งงอดีขึ้น 24%  มีความแข็งแรงจากการบิดตัวดีขึ้น 32%  และได้อานิสงค์เบาขึ้น 2%

ตลอดจนยังมีการอัพเกรดชิ้นส่วนระบบกันสะเทือนบางอย่าง อาทิ ชิ้นส่วนปีกนกล่างทางด้านหน้าทำมาจากอลูเนียม การออกแบบซับเฟรมหลังใหม่ เซทอัพระบบช่วงล่าหลังมัลติลิงค์อิสระพร้อมเหล็กกันโครงใหม่

2-3 อย่างที่ผมพูดถึงนี้ เมื่อมาประกอบเข้าด้วยกัน ทั้งหมดกลับสะท้อนมายังสมรรถนะการขับขี่ตัวรถ  Honda  Accord  Vtec Turbo  ที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน ขับสนุกขึ้นผิดหูผิดตา

Review Honda Accord 1.5 Vtec Turbo

เครื่องยนต์ 1.5 เทอร์โบชาร์จ หลายคนอาจจะตะขิดตะขวงใจว่ามันจะไหวหรือ โดยเฉพาะสื่อหลายสำนักต่างพูดไปในทางเดียวกันว่าอัพเกรดจากเครื่องซีวิค แต่ถ้ามากางรายละเอียดทางเทคนิค ดูแรงม้าและแรงบิด จะพบว่า มันดีกว่าทั้งเครื่องยนต์ 2.0 และ 2.4 ลิตรเดิมมากพอสมควร แถมยังปั้นแรงบิดสูงสุด มารอบต่ำมาก จนใกล้เคียงคุณสมบัติเครื่องยนต์ดีเซล ให้แรงบิดสูงในรอบต่ำ

ขนาดตัวใหญ่กว่าน้ำหนักมากกว่า จึงไม่ใช่ปัญหา รถออกตัวพุ่งทะยาน เมื่อขับใช้งานจริงบนถนน รู้สึกดีกว่าเมื่อตอนขับทดสอบกลุ่มเสียอีก  ไม่ว่าจะนั่ง 3 คนหรือ 4 คน เรื่องน้ำหนักตัวรถก็ไม่ย่อหย่อนให้รู้สึกว่าเหนื่อยใจ คล้ายกังวลเรื่องเครื่องเล็กจะขับไม่สนุกหายเป็นปลิดทิ้ง

ในส่วนโหมดการขับขี่   Sport  เหมือนเน้นปรับชุดเกียร์ และการตอบสนองของลิ้นปีกผีกเสื้อ ให้ว่องไวขึ้น ตัวเกียร์จะพยายามลากรอบเครื่องยนต์รอให้ผู้ขับขี่แตะคันเร่งลงไปเมื่อต้องการ ทางกลับกัน มันยังทำหน้าที่ของ   Engine Brake   ได้อีกด้วย มันเหมาะมากสำหรับใช้ในการขึ้นลงขุนเขาสูงชันในบ้านเรา น่าเสียดาย การเปิดโหมดซิ่งกลับไม่ได้ให้ตัวเลขอัตราเร่งมากขึ้น จากการทดสอบอัตราเร่งหลายรอบ อัตราเร่งเฉลี่ย นั่ง 2 คน เปิดแอร์ใช้โหมด D  รถจะอัตราเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม. อยู่ที่ 10.00 วินาที และ 80-120 ก.ม./ช.ม. อยู่ที่ 6.00 วินาที เท่านั้น และขอแสดงความเสียใจ รถคันนี้มีอัตราความเร็วสูงสุด 197 ก.ม./ช.ม. ซึ่งก็มาพอแล้วสำหรับการใช้งานทั่วไป

สิ่งที่น่าประทับใจใน   Honda  Accord 1.5 Vtec Turbo ใหม่ นอกจากการตอบสนองของเครื่องยนต์ที่ดีขึ้นมากมายก่ายกอง ความประหยัดน้ำมัน ก็เรียกว่าไม่เป็นสองรองใคร ที่ผ่านมารถซีดานถูกมองว่าเป็นรถผู้มีอันจะกิน เนื่องจากมันซดน้ำมันมหาศาล เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ในอดีต ในเมืองกินจุ 9-10 ก.ม./ลิต รและ นอกเมืองดีที่สุด 13 ก.ม./ลิตร กลับกัน รุ่นเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร ก็ซดราวๆ 7-8 ก.ม./ลิตร ยิ่งถ้าเจอรถติด กลับกันขับต่างจังหวัดก็ได้เพียง 11-12 ก.ม./ลิตรเท่านั้น

การหันมาใช้บล็อกเล็กเทอร์โบ ในเชิงวิศวกรรมมันลดการปล่อยไอเสียได้ดี แถมติดปลายนวมด้วย ความประหยัดเหนือชั้น จากการขับในเมือง  ในสภาพรถติดจริงจัง มีการใช้อัตราเร่งบ้างเล็กน้อย ยังได้อัตราประหยัดราวๆ 14. 78 ก.ม./ลิตร และน่าจะดีกว่านี้ถ้ามี ระบบหยุดการทำงานของเครื่องยนต์ชั่วคราว ติดตั้งมาให้ด้วย

เมื่อออกนอกเมืองขับด้วยความเร็วคงที่ 100-120 ก.ม./ช.ม. มันยิ่งสร้าง ความน่าตกใจดัวยอัตราประหยัดสูงถึง 15.6  ก.ม./ลิตร  ภาพรวมอัตราประหยัดจึงออกมาดีมากเกินกว่าที่คาด จนดีกว่ารถยนต์อเนกประสงค์หลายๆ รุ่น ด้วยซ้ำไป

ขุมพลังเร้าใจได้ความประหยัดสร้างความประทับใจสำหรับเราอย่างมาก เมื่อมาถึงประเด็นระบบกันสะเทือน กลับน่าเสียดาย ด้วยความ ที่รถมีแรงบิดสูง ประกอบกับโครงสร้างใหม่ที่มีความแข็งขึ้น ทางฮอนด้าจึงตั้งใจเซทช่วงล่างมาให้แข็งสักหน่อย รองรับการหวดทำความเร็ว

อาการช่วงล่างยืด-ยุบไว และมีความแข็งในระดับหนึ่ง ให้ความรู้สึกนั่งไม่สบาย เมื่อขับในเมือง จะรู้สึกว่าทะเลาะกับรอยปะรอยต่อถนนพอสมควร จนกระทั่งคุณเริ่มใช้ความเร็วเดินทาง 90 ก.ม./ช.ม. ขึ้นไป อาการรถจะนิ่งขับมั่นใจ จากที่สังเกตระหว่างขับขี่

ฮอนด้าเซทช่วงล่างหลังแข็งกว่าด้านหน้าสักหน่อย พอเข้าโค้งก็เริ่มเข้าใจ ช่วงล่างแข็งทำให้การคัดเลี้ยวรถง่ายขึ้น ท้ายจะตามมาอย่างไว ด้วยตูดสั้นช่วยให้แอคคอร์ด เข้าโค้งได้ในลักษณะเดียวกับรถแฮทช์แบ็ค ทั้งที่มันคือรถนั่งซีดาน ผมอ่านข้อมูลเพิ่มเติมทางด้านวิศวกรรรม พบว่ารถถูกเซทให้มีการกระจายน้ำหนักไปทางด้านหน้า 59.8%   และด้านหลัง 40.2%   มันหมายความถึงหน้าจิกโค้งท้ายจะกวาดตามได้ง่าย

มันยิ่งเห็นผลชัด ถ้าคุณระห่ำพอจะเข้าโค้งด้วยความเร็วเกิน 100 ก.ม/ช.ม. ขึ้นไป เมื่อล้อหน้ากดลงเข้าโค้งคุณบังคับพวงมาลัยไปตามทิศทางที่ต้องการ ปกติรถซีดานจะมีแรงเหวี่ยงท้ายตามมาอย่างรวดเร็ว จนรู้สึกควบคุมยาก โดยเฉพาะในโค้งแคบใช้ความเร็วสูง กับ แอคคอร์ด เรื่องนี้ไม่เกิดขึ้น แถมความคล่องตัวของมันอยู่ในระดับน่าประทับใจ การเปลี่ยนเลน การมุดท่ามกลางการจราจรติดขัด คุณไม่คิดหรือรู้สึกเลยว่ากำลังขับซีดานที่มีความยาวราวๆ 4.9 เมตร

พวงมาลัยไฟฟ้า ถูกเซทมาให้สปอร์ตน้ำหนักเบาขับสบาย คล่องตัวเมื่อขับช้า และตึงมือขึ้นตามความเร็ว เมื่อขับ 110-120ก.ม./ช.ม. พวงมาลัยจะคมและหนักแน่นมากขึ้น ช่วยให้ขับมั่นใจ

 

สรุป ขับดีเกินราคา จะดีกว่านี้ ถ้าลูกเล่นเยอะขึ้น

หลังจากใช้ชีวิตกับ   Honda  Accord   เป็นเวลา 5 วัน มันเริ่มทำให้ผมหลงใหล ด้วยความเร้าใจจากเครื่องยนต์ 1.5 เทอร์โบ ให้อัตราเร่งตอบสนองดี ตั้งแต่ออกตัว และยังสบายใจเมื่อพูดถึงความประหยัดน้ำมัน ถึงจะใช้   E85   ไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร มันทดแทนด้วยอัตราประหยัดที่ดี ทั้งในเมืองและนอกเมือง มันอาจจะดีกว่านี้ได้อีกถ้าติดตั้งระบบหยุดการทำงานของเครื่องยนต์ชั่วคราวมาด้วย

ขณะที่ตัวรถวิศวกรรมมาดีขึ้นพอสมควร ทำให้มันแรงและประหยัด ขับสนุกได้ตลอดเวลาในทุกเมื่อตามต้องการ ไม่ว่าจะทั้งทางตรงทางโค้ง เพียงแต่ถ้ามองเรื่องการนั่งช่วงล่างของแอคคอรด์จะแข็งกว่าขับแล้วไม่รู้สึกสบายเท่าไรนัก  ผิดกับของคู่แข่งจะรู้สึกว่ามันนุ่มนวลมากกว่า

แต่ถ้านี่คือ รถที่คุณกะว่าซื้อไว้ใช้ในครอบครัว ขับกันเอง มีลูกเล็ก ตามฉบับ   Family Car   ยุคใหม่  ไม่ได้อยากได้รถอเนกประสงค์ ต้องการภาพลักษณ์ที่ดี   Honda Accord   รุ่นนี้ถือว่าสมน้ำสมเนื้อ

ถึงเราจะพูดว่ามันมีดีหลายประการ ทว่าเจ้าซีดานกลางคันนี้กลับสอบตก ในเรื่องฟังชั่นตัวรถให้มาน้อยมาก และไม่รู้สึกหวือหวา จนเราอยากจะพูดแนะนำฮอนด้าให้ทำ รุ่น 1.5 เทอร์โบ ท๊อปออพชั่น ซึ่งมีออพชั่นต่างๆ อย่างที่ควรจะ มี อาทิ แพ็คเกจระบบความปลอดภัย   Honda  Sensing รวมถึงออพชั่นทันสมัยอื่นๆ ตลอดจนการติดตั้งล้ออัลลอยขนาดใหญ่ขึ้น  รวมถึงรายละเอียดอื่นๆ ที่ทางฮอนด้า ยังไม่ใส่มาให้ในรถ

ส่วนตัวเข้าใจว่า ฮอนด้า คงต้องการให้ลูกค้าขยับซื้อรุ่นไฮบริดตัวเริ่มต้นมากกว่า จึงทำออพชั่นในรุ่นเครื่องยนต์ปกติ แบบแทบจะมีแต่ตัวรถ หากในความเป็นจริงคนรุ่นเก่าหลายคน อาจจะยังไม่เข้าใจระบบไฮบริด ยังไม่กล้าจะซื้อรถไฮบริดมาใช้ การมีรุ่นย่อยเครื่องธรรมดาเพียงรุ่นเดียว จึงเหมือนบีบให้พวกเขาไม่มีทางเลือกมากนัก

ฮอนด้า แอคคอร์ด เทอร์โบ เป็นซีดานที่มีความโดดเด่นในเรื่องสมรรถนะการขับขี่อย่างชัดเจน ส่วนงานออกแบบ คงต้องแล้วแต่ความชอบของแต่ละคน การตอบโจทย์ด้วยแนวคิดใหม่ๆ จากฮอนด้าอาจจะตีโจทย์ถูกสำหรับตลาดอเมริกา ซึงรถยนต์ซีดานกลาง ถูกใช้ทดแทนรถมินิแวนดั้งเดิม เจ้าของซื้อเองขับเอง

กลับกันเมืองไทยภาพของซีดานกลาง คือยนตรกรรมหรูแสดงฐานะ สำหรับคนต้องการรถขนาดใหญ่ ยังไม่อยากขึ้นไปเล่นนถยุโรปชั้นนำทั้งหลาย การขาดฟังชั่นหลายอย่างทำให้ มันยังไม่ตอบโจทย์โดนใจกลุ่มนี้ แม้ว่าจะมีรุ่นไฮบริดก้ตามที หากความจริงคนส่วนใหญ่ยังวางใจเครื่องยนต์สันดาปภายในมากกว่า

 

เรื่องและขับทดสอบโดย ณัฐยศ ชูบรรจง ติดตาม ได้ทาง   Facebook.com

 

 



 

 

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่