เรานำเสนอบทความเรื่องเบาะเด็ก หรือที่เรียกว่า คาร์ซีท เพื่อหวังให้ผู้อ่านที่มีลูกน้อย ได้เห็นความสำคัญของอุปกรณ์ชิ้นนี้ ล่าสุดมีเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องเกิดขึ้น ผลคือ…

เมื่อวานนี้ผู้เขียนได้พบการแชร์ประเด็นของคุณแม่ท่านหนึ่ง ที่ได้ขับรถเก๋งของตนโดยมีลูกน้อยอายุราวๆ 8-15 เดือน นั่งอยู่บนคาร์ซีท หรือเรียกกันอีกชื่อว่าเบาะเด็ก ไปประสบอุบัติเหตุถูกรถตู้ชนท้ายเข้าเต็มแรงจนส่วนหลังของรถยุบเยอะมาก ผลของเหตุการณ์ดังกล่าวจึงเป็นที่มาของสิ่งที่เราจะพูดกันในวันนี้

เบาะเด็ก คาร์ซีท
เบาะเด็ก คาร์ซีท

ถ้าดูจากสภาพรถแล้วบอกว่ามีเด็กอายุไม่ถึง 1 ปีครึ่งโดยสารไปด้วย หลายคนคงคิดว่าเด็กน้อยคนนั้นอาจได้รับการบาดเจ็บรุนแรง จนถึงขั้นเสียชีวิตก็เป็นไปได้ ทว่าความจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น เด็กไม่ได้มีอาการบาดเจ็บแต่อย่างใด เพราะเบาะเด็กที่คุณแม่ของน้องซื้อมาให้ลูกนั่ง สามารถทำหน้าที่ปกป้องภัยจากอุบัติเหตุได้ดี

นี่ไม่ใช่เรื่องบุญกรรมหรือความโชคดีของเจ้าหนูน้อยแต่อย่างใด หากแต่เกิดจากการที่คุณแม่ของเด็กคนนั้นเลือกที่จะให้ลูกของตน นั่งอยู่บนเบาะเด็กตั้งแต่ที่เริ่มออกจากโรงพยาบาล แม้ว่าค่านิยมเรื่องความปลอดภัยในการใช้เบาะเด็กของคนไทย จะไม่ค่อยได้รับความใส่ใจจากผู้คนอีกเป็นจำนวนมาก แต่คุณแม่ท่านนี้ก็นับเป็นหนึ่งในบุคคลตัวอย่างสำคัญที่ช่วยเตือนสติผู้ปกครองคนอื่น ให้ตระหนักถึงความสำคัญของอุปกรณ์ชิ้นนี้มากขึ้น

เบาะเด็ก คาร์ซีท
เบาะเด็ก คาร์ซีท

เอาเข้าจริง คาร์ซีทหรือเบาะเด็กที่เราท่านรู้จักกัน มีราคาจำหน่ายหลากหลายสูงต่ำให้เลือก ตั้งแต่ยี่ห้อปกติราคาเริ่มต้น 2-8 พันบาท ซึ่งมีวิธีติดตั้งด้วยการใช้สายคาดเบลล์หลังมารัดยึดเบาะเด็กเอาไว้ ข้อดีคือราคาถูกซื้อหาง่าย แต่ข้อเสียเป็นเรื่องของการที่พ่อแม่จะต้องติดตั้งให้ถูกวิธี มิฉะนั้นกรณีติดตั้งผิดแล้วเวลาเกิดอุบัติเหตุตัวเบาะจะไม่สามารถปกป้องลูกน้อยได้เต็มที่

เบาะเด็ก คาร์ซีท

หากบ้านไหนมีทุนทรัพย์มากขึ้นหน่อย ก็อาจไปซื้อแบรนด์ดังจากยุโรป เกาหลี ญี่ปุ่น หรือสหรัฐฯ ราคาราว 8,000-40,000 บาท อันมีตั้งแต่เบาะสำหรับเด็กแรกเกิดที่เป็นแบบกระเช้ายกหิ้วง่าย หรือแบบแรกเกิดถึงขวบครึ่ง ไปจนถึงแรกเกิดถึง 4 ปี ซึ่งส่วนใหญ่มีการติดตั้งด้วยระบบ ISOFIX ที่มีให้มากับรถรุ่นใหม่เกือบทุกคัน โดยข้อดีของเบาะที่มีระบบดังกล่าว คือลดความผิดพลาดในการติดตั้งเบาะ ช่วยให้เด็กที่นั่งบนนั้นได้รับการปกป้องสูงสุด

อย่างไรก็ตาม คาร์ซีทแต่ละประเภทแต่ละยี่ห้อ จะมีข้อดีข้อด้อยต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับราคา วัสดุประกอบ เทคโนโลยี น้ำหนักเบาะ และความสะดวกในการยกขึ้นติดตั้งที่เบาะหลังของรถ เหล่านี้เป็นสิ่งที่พ่อแม่ทุกท่านต้องทำการศึกษาก่อนตัดสินใจซื้อ

เบาะเด็ก คาร์ซีท

เอาเป็นว่าเราอยากให้พ่อแม่ไม่ว่าจะมีอายุเท่าใดก็ตาม หันมาใส่ใจเลือกซื้อเบาะเด็กให้แก่ลูกน้อย แล้วเริ่มให้นั่งตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลวันแรก อย่าคิดแค่ว่าคุณจะอุ้มเด็กเพื่อไม่ให้พวกเขาร้อง หรือคิดเข้าข้างตัวเองว่าอ้อมอกพ่อแม่ปลอดภัยที่สุด เพราะแท้จริงแล้วเบาะเด็กเปรียบเสมือนเทวดา นางฟ้าที่ปกป้องลูกของคุณเวลาเดินทางด้วยรถยนต์

ขอขอบคุณภาพและเรื่องราวจากคุณ พลอย นภัทร ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่แบ่งปันเรื่องราวที่เกิดขึ้น

ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่