“ระบบขับขี่อัตโนมัติ” ถือเป็นหนึ่งในลูกเล่นสำคัญที่ผู้ผลิตหลายค่ายพยายามพัฒนาและนำเสนอมันให้กับลูกค้า แต่การจะทำให้มันสามารถใช้งานได้อย่างเต็มรูปแบบนั้น ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ยากมากๆ จนแม้แต่ BYD เองก็ยังออกมายอมรับว่าในตอนนี้มันยัง “เป็นไปไม่ได้”

อาจจะจริงอยู่ว่า BYD ถือเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอันดับหนึ่งของประเทศจีน แถมยังมีรถยนต์ที่มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยขั้นสูง หรือระบบ ADAS ที่ทำงานได้อย่างชาญฉลาดจนเป็นที่ยอมรับ จนหลายฝ่ายมองว่าพวกเขาอาจนำเสนอระบบบขับขี่อัตโนมัติ ที่สามารถทำงานได้อย่างเต็มรูปแบบเข้าสักวัน เหมือนอย่างที่หลายๆค่ายในยุโรปกับอเมริกานำเสนอกัน

แต่จากการให้สัมภาษณ์กับสื่อฯใหญ่ CNBC โดยโฆษกของ BYD บริษัทแม่อย่างนาย Li Yunfei กลับเปิดเผยว่า “เราคิดว่าระบบขับขี่ด้วยตนเอง ที่แยกตัว(การทำงาน)จากมนุษย์โดยสมบูรณ์นั่นยังอีกไกล ไกลมากๆด้วย และยังเป็นไปไม่ได้เลย”

“ตอนนี้อาจมีหลายบริษัท และหลายภาคธุรกิจ ที่ทุ่มเงินเป็นจำนวนมากในการพัฒนาสิ่งนี้, และหลังจากที่ลงเงินไปหลายปี มันก็ยิ่งพิสูจน์ว่ามันทำให้เราไปอยู่จุดไหนสักแห่ง(ก็ไม่รู้)” นาย Li กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสื่อต้นทาง ในงาน Shanghai Auto Show

“พอเรานึกถึง(เทคโนโลยีระบบขับขี่อัตโนมัติ)จากในทุกๆมุมมอง, ไม่ว่าจะเป็นในด้านความปลอดภัยตามหลักจิตวิทยาของมนุษย์ (รวมถึงผู้ที่ใช้รถใช้ถนนร่วมกัน), มุมมองด้านจริยธรรม, มุมมองด้านกฏหมาย, มุมมองด้านเทคโนโลยี, เราคิดไม่ออก(เกี่ยวกับแนวคิดในการพัฒนา)จริงๆ และเราคิดว่ามันเป็นข้อเสนอ(ในการสร้างเทคโนโลยี)ที่ผิด”

อย่างไรก็ดี นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงข้อจำกัดในการพัฒนาเทคโนโลยี ระบบขับขี่อัตโนมัติ เพราะก่อนหน้านี้เอง Volvo ก็เคยให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน โดยแม้พวกเขาอาจจะแสดงความเห็นที่ต่างจาก BYD ในเรื่องขีดจำกัดทางด้านเทคโนโลยีเล็กน้อย

แต่สิ่งหนึ่งที่ค่ายสวีเดนมองไม่ต่างจากค่ายจีนก็คือ ขีดจำกัดด้านกฏหมายในหลายๆประเทศ ที่ยังคงตีกรอบการใช้งานระบบขับขี่อัตโนมัติในรถยนต์มากเกินไปอยู่

และประเด็นสำคัญคือ การตีกรอบด้านกฏหมายที่ว่านั้น ยังมีความแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศด้วย ดังนั้นการจะทำระบบขับขี่อัตโนัมติให้สอดรับกับแต่ละประเทศได้ยิ่งซับซ้อนขึ้นไปอีก

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่