ในการซื้อรถปัจจุบัน ที่มีมากมายนับสิบรถเก๋ง ซีดาน 4 ประตู และ แฮทช์แบ๊ค เก๋ง 5 ประตู ทั้งต่างเป็นคู่เหมือนต่างด้าน จนบางทีหลายคนอาจยังไม่เข้าใจว่า พวกมันต่างกันอย่างไรบ้าง
ฝั่งหนึ่งเป็นเก๋งดั้งเดิม อีกด้านเป็นเก๋งยุคใหม่ที่เน้นฟังชั้น วันนี้เราจะพาเพื่อนไปค้นพบว่า รถเก๋งทั้ง 2 แบบนี้แตกต่างกันอย่างไร และแบบไหนที่เหมาะกับคุณ
ซีดาน (Sedan)
ตั้งแต่อดีตมาจนปัจจุบัน รถเก๋งถูกออกแบบให้มีลักษณะเป็นห้องโดยสารแยกส่วนสัมภาระอย่างชัดเจน สไตล์นี้ถูกเรียกว่า ซีดาน ในยุโรปอาจเรียกว่า Saloon ก็ไม่ผิดนัก

การออกแบบรถสไตล์นี้จะมีประตู 4 บาน เพื่อขึ้นลงได้สะดวกทั้งการโดยสารตอนหน้าและหลัง เส้นของหลังคาจะจบที่กระจกหลัง มีท้ายยืนออกมาสักหน่อย เป็นที่เก็บของดั้งเดิมทีทำให้ไม่สามารถเปิดเข้าไปในห้องโดยสารได้ ปัจจุบันเราพบว่ารถซีดานหลายรุ่นทำให้เบาะหลังพับได้ เพื่อเพิ่มพื้นที่สัมภาระบ้างเล็กน้อย

รถยนต์ 5 ประตูแฮทช์แบ็คถือเป็นรถที่ตอบสนองคนรุ่นใหม่ดีกว่าในแง่การใช้งาน ที่มีความสามารถเทียบเท่ารถยนต์อเนกประสงค์ที่ได้รับความนิยม
แฮทช์แบ็ค (Hatchback)
รถ 5 ประตู มีมานานตั้งแต่อดีต ทว่ามันเพิ่งได้รับความนิยมเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากการเติบโตตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็ก Sub compact car ซึ่งบริษัทรถยนต์ทำให้มันมีพื้นที่ใช้สอยสูงสุด แม้ว่าจะมีขนาดเล็กกะทัดรัดก็ตามที
ตัวรถจะออกแบบให้มีทั้งหมด 5 ประตู เส้นหลังคาจะลาดยาวไปยังประตูท้ายแล้วถูกตัดตรง คล้ายฝาครอบหรือ Hatch ส่วนการออกแบบตัวรถจะควบรวมเอาส่วนของห้องสัมภาระท้าย และห้องโดยสารไว้เป็นหนึ่งเดียว จึงดูเหมือนมีพื้นที่เก็บสัมภาระมากกว่า และด้วยการออกแบบให้เบาะนั่งหลังพับได้เป็นมาตรฐานในรถแบบนี้ ทำให้สามารถปรับพับเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระได้ กอปรกับการออกแบบให้หลังคาสูงยาวไปด้านท้าย ช่วยให้พื้นที่มากกว่ารถซีดาน และโดยมากรถ 5 ประตู จะมีความยาวสั้นกว่า 4 ประตู
การเปรียบเทียบ
ถ้ามาดูเปรียบเทียบ ระหว่างรถทั้ง 2 แบบ รถซีดานกับรถแฮทช์แบ็ค เป็นความเหมือนที่แตกต่าง จนบางทีก็ยากจะตัดสินใจ
หากเราแยกปัจจัยแง่ต่างๆ ออกเป็นข้อๆ เปรียบเทียบชัดเจนมากขึ้น เราจะพบว่า รถทั้ง 2 มีความแตกต่างกันสิ้นเชิง ถึงจะเป็นรถพี่น้อง รุ่นเดียวกัน อาจมีตัวถังทั้ง 2 แบบ ให้เลือกก็ตาม

การบรรทุกสัมภาระ
ด้วยการแยกห้องสัมภาระออกไปจากห้องโดยสาร รถซีดานมีข้อจำกัดในการบรรทุกสัมภาระพอสมควร พื้นที่จะมีเพียงในฝากระโปรงหลังเท่านั้น ถึงแม้วันนี้รถซีดานหลายรุ่นจะสามารถพับหลังคาได้ หากด้วยข้อจำกัดของโครงสร้าง เนื่องจากหลังคา ไม่ได้เดินถึงฝากระโปรงหลัง ทำให้การบรรทุกของที่มีความสูงยาวยังไม่มีความสามารถเท่ารถแฮทช์แบ๊ค
อย่างไรก็ดี รถซีดานมีข้อดีกว่ารถแฮทช์แบ๊คตรงการแยกส่วนห้องสัมภาระ หากคุณบรรทุกของที่มีกลิ่นรุนแรง อย่างปลาเค็มหรือ ทุเรียน กลิ่นจะไม่เข้ามารบกวนในห้องโดยสาร
กลับกันแฮทช์แบ๊ค มีความอัศจรรย์ในการขนสัมภาระมากกว่า เนื่องจากโครงรถหลังคายาวถึงประตูหลัง เมื่อรวมกับความสามารถในการพับเบาะหลัง ทำให้เมื่อพับ คุณสามารถขนสิ่งของที่มีขนาดใหญ่ได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ

การนั่งโดยสารและการขับขี่
ด้วยความเกิดเป็นรถนั่งตั้งแต่อดีต รถซีดานถูกออกแบบให้มีการตอบสนองที่ดีในการโดยสาร ตัวห้องสัมภาระท้ายที่ยืนออกไปจากตัวห้องโดยสาร มีผลในการช่วยลดแรงเหวี่ยงในขณะเข้าโค้ง และการเปลี่ยนเลนอย่างรวดเร็วได้ดีระดับหนึ่ง
ทำให้การโดยสารรถซีดานมีความสบายกว่าพอสมควร นอกจากนี้ รถหลายรุ่นยังออกแบบให้ที่นั่งตอนหลังของรถซีดานมีความสบายสูงสุดด้วย
ทางด้านแฮทช์แบ็ค ด้วยการออกแบบให้รถมีความลงตัวในการใช้งานที่หลากหลายกว่า ห้องโดยสารจึงมีความรู้สึกโปร่งกว่าเล็กน้อย แต่โดยมากเบาะนั่งจะออกแบบไม่สบายเท่าซีดาน เนื่องจากต้องเผื่อสำหรับกลไกการปรับพับได้ การบุที่นั่งเบาะ ทั้งที่รองนั่งและพนักผิงหลัง โดยมากจึงไม่ได้มุ่งเน้นความสบายที่สุด
ส่วนการขับขี่ด้วยการออกแบบให้รถตูดสั้น ทำให้เวลาเข้าโค้งด้วยความเร็ว หรือ เปลี่ยนเลนใช้พวงมาลัยเร็ว จะรู้สึกว่ารถมีความคล่องตัวสูงกว่ารถซีดาน เช่นกันความคล่องตัวสูงมาก ทำให้ การเข้าโค้งมักจะรู้สึกได้ถึงอาการท้ายไหลได้ในบางโอกาส
แฮทช์แบ๊ค หรือ ซีดาน สุดท้ายอยู่ทีเราเลือกว่า แบบไหนเหมาะกับการใช้ชีวิตของเรา ถ้าตีโจทย์มองประโยชน์
- รถซีดาน เหมาะกับการนั่งโดยสาร เป็นหลัก เน้นการขับขี่นุ่มนวล
- รถแฮทช์แบ๊คเหมาะสำหรับคนชอบการขับขี่ มีชีวิตไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย
อย่างไรก็ดี , ถ้าเรามองถึงการขับขี่ด้วย รถ 5 ประตู ที่ถูกออกแบบให้มีตูดสั้นกว่า การออกแบบซีดาน ที่มีลักษณ์กล่อง 3 ชิ้น หรือ 3 Box Design จะมีความคล่องตัวในการขับขี่มากกว่า กลับกันถ้าคุณชอบความมั่นคงมั่นใจในการขับขี่ รถเก๋งซีดานดั้งเดิม จะตอบสนองในการขับขี่ดีกว่าในแง่การโคลงตัวน้อย รวมถึง ยังค่อนข้างนิ่งกว่าหากขับด้วยความเร็วมากๆ ในระหว่างการเดินทาง
ไม่ว่ารถรุ่นไหนเป็นตัวเลือกในใจคุณ อย่าลืมไปดูรถตัวจริงที่โชว์รูม แล้วตระหนักว่าเราต้องการรถคันใหม่มาใช้อะไรในชีวิต จะได้จ่ายเงินอย่างคุ้มค่า