ตั้งแต่เปิดตัวออกมาในปี 2014  Mitsubishi Triton   ใหม่ เป็นรถที่สร้างความแตกต่างได้อย่างไม่น้อยในตลาดกระบะ แม้ว่าสาวกจะผิดหวังกับหน้าตารถที่ออกมาเปิดตัวอย่างหล่อเหลาเอาการ แต่เรื่องสมรถนะยังคงความเป็นกระบะสายลุยพร้อมสรรพอยู่ไม่เสื่อมคลาย

ตั้งแต่อดีต   Mitsubishi  มีชื่อเสียงมากในเรื่องการลุย พวกเขาผ่านเวทีสำคัญๆ อย่าง   Paris-Dakar   และทางโหดๆ อีกมากมาย จนรถมีชื่อเสียงเรื่องความแกร่งความลุย เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หากทางทีมการตลาดมิตซูบิชิก็ยังต้องปวดเศียรเวียนเกล้าในการขาย โดยเฉพาะเมื่อคู่แข่งอเมริกันจัดหนักมาเต็ม จนในที่สุดมีชัยด้วยยอดขายเหนือชั้น ทำให้มิตซูบิชิถึงคราวจะต้องปรับตัว

Mitsubishi Triton 2018 Double cab

ย้อนไปเมื่อช่วงกลางปีทีผ่านมา ผมมีโอกาสคุยกับหนึ่งในทีมวางแผนผลิตภัณฑ์ของ   Mitsubishi  Motor   ประเทศไทย ระหว่างทานข้าวเย็นในช่วงหลังเสร็จภารกิจทดสอบ   Mitsubishi Xpander

ระหว่างที่นั่งคุยเขาก็มีคำถามน่าสนใจออกมา “พี่คิดว่า จะทำให้ไทรทันขายดีได้อย่างไร” ชาวสื่อเราในฐานะตัวแทนประชาชนผมจึงออกปากตอบไปว่า “มันไม่ยากหรอกถ้าเอาหน้า  Pajero  Sport ก็ขายได้แล้ว”

แน่นอนนั่นเป็นสิ่งที่สาวกต้องการจะเห็นจากมิตซูบิชิมากที่สุด เพราหลังจาก  Triton  ออกมาในปี เพียงปีเดียวหลังจากนั้นเมื่อ  Mitsubishi Pajero Sport   ออกมาวางขาย มันกลับหล่อเอาเรื่อง นั่นทำให้คนจำนวนไม่น้อยสนใจ แล้วมันจะดีขนาดไหนถ้าหน้าตาแบบนี้มาอยู่ในกระบะ ซึ่งจะเป็นหนึ่งเดียวจากญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้

ในที่สุดการรอคอยก็สิ้นสุดลง  Mitsubishi  เปิดเผย Mitsubishi Triton   ใหม่  อย่างเป็นทางการ แถมยังเลือกในไทยเป็นที่แรกในโลกในการเปิดเผยรถรุ่นนี้อีกด้วย 

Mitsubishi Triton 2018 Double cab

หน้าตาตัวใหม่เรียกว่าสมกับการรอคอย ด้วยเส้นสายการออกแบบ  Advance Dynamic Shield  พัฒนาต่อมาจาก Mitsubishi Pajero Sport   แล้วใช้ในรถยนต์   Mitsubishi  Xpander

Mitsubishi Triton 2018 Double cab

มันเปลี่ยนแปลงกระจังหน้า ไฟหน้า และกันชนหน้าใหม่ด้วยเส้นสายที่เป็นคมสันสปอร์ตจ๋าๆ ทางมิตซูบิชิเรียกแนวคิดใหม่นี้ว่า  “Rock Solid” หากงานนี้ไม่เหมือนกับเจ้าน้องเล็ก Mitsubishi  Xpander  ด้วยตำแหน่งไฟหน้าส่องสว่างโคมโปรเจคเตอร์อยู่ด้านบน ส่วนด้านล่างเป็นเพียงตำแหน่งไฟเลี้ยวและไฟตัดหมอกเท่านั้น  

เทียบกับรุ่นเดิมตำแหน่งไฟหน้าถูกยกสูงขึ้น 100 มม. และกันชนหน้าสูงขึ้นจากพื้นกว่า 700 มม .เมื่อเทียบกับรุ่นเดิมที่วางจำหน่ายก่อนหน้านี้

Mitsubishi Triton 2018 Double cab

อันที่จริงแนวคิด   Dynamic Shield   เป็นแนวคิดแบบ Form Follow Function  หรือการใช้งานต้องมาก่อนรูปทรง ทำให้เจ้า   Mitsubishi  Triton  ใหม่ ไม่เพียงเปลี่ยนรูปแบบตัวรถเท่านั้น หากเปี่ยมด้วยสรรพคุณในการขับขี่ อาทิ การลุยน้ำได้ 60 เซนติเมตรสบายๆ

ด้านข้างโครงห้องโดยสารยังคงรูปแบบเดิมเอาไว้อย่างครบเครื่อง เปลี่ยนช่วงประตูข้างให้มีเส้นไหล่ หรือ  Shoulder Line  เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเส้นสายที่เรียกว่า   J Shape  ที่ตอนหลังห้องโดยสาร งวดนี้ติดตั้งล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 18 นิ้ว มาให้ครบเครื่องด้วยยางขนาด 265/60 R18   ส่วนช่วงกระบะเปลี่ยนใหม่หมดตอบความลงตัว

ด้านท้ายรถตอบเรื่องการใช้งานอาทิ กล้องมองหลังประยุกต์รวมเข้ากับตรงมือจับเปิดท้าย รวมถึงไฟท้ายใหม่ มองด้านข้างดูบึกบึน มองด้านหลังดูทันสมัย แต่ที่รับไม่ได้ดูจะเป็นการยังนิยมทรงไฟท้ายไม้ตะพด เพียงตัดย่นไฟท้ายลงมาให้ดูเล็กลง ในบมุมด้านหลังบางทีก็นึกถึงเพื่อนร่วมก๊วนกระบะไม่น้อย

Mitsubishi Triton 2018 Double cab

เปิดประตก้าวเข้าสู่ห้องโดยสาร พวงมาลัยและการออกแบบจาก   Mitsubishi  Pajero Sport  ถูกใส่เข้ามาไว้ตั้งแต่รุ่นก่อนหน้านี้ อันที่จริงผมชอบมากที่ทางมิตซูบิชิใช้ภายในจากปาเจโร่สปอร์ต มันให้คุณค่าทางการออกแบบสูงขึ้น ยกระดับการขับขี่ให้ลงตัวน่าสนใจน่าใช้งาน

ในรุ่นนี้แม้ว่าหลายอย่างจะเหมือนเดิมไม่ผิดหูผิดตาจากเดิม  แต่ทางมิตซูบิชิก็จัดการเปลี่ยนบางอย่างหู้ลงตัวขึ้น โดยเฉพาะตรงกลางคอนโซลหน้า และคอนโซลกลางจัดการเปลี่ยนใหม่เสริมความทันสมัยดูน่าใช้งานมากขึ้น ส่วนเรือนไมล์จัดการเปลี่ยนใหม่เช่นกัน รวมถึงแผงประตูข้างสปอร์ตขึ้น

ส่วนด้านหลังในรุ่น 4 ประตู มีระบบปรับอากาศสำหรับการโดยสารทางด้านหลังแยกอิสระจากด้านหน้า ช่วยให้สบายในการขับขี่มากขึ้น รวมถึงท้ายคอนโซลกลางให้ช่องเสียบ   USB  กำลัง 2.1A   มาให้ 2 ช่องด้วย

Mitsubishi Triton 2018 Double cab

กดปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์   Mitsubishi  Triton   ใหม่ ยังคงใช้เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.4 ลิตร พร้อมระบบวาล์วแปรผัน  Mivec  ตอบการขับขี่ด้วยกำลังสูงสุด 181 แรงม้า และทำแรงบิด 430 นิวตันเมตร งวดดนี้ ชุดเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด เดิม พัฒนาเพิ่มอัตราทดเป็น 6 สปีด มีอัตราทดต่ำกว่า 1.000 ถึง 2 ตำแหน่ง มากกว่ารุ่นเดิม

เรื่องเครื่องยนต์ซุ่มเสียงยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงไปเท่าไรนัก และงวดนี้เราก็ยังไม่มีโอกาสทดสอบกำลังเครื่องยนต์มากมาย เนื่องจากทางมิตซูบิชิ มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น ดูจะต้องการเน้นภาพลักษณ์การลุยให้ชัดมากๆ จึงอออกแบบ สนามทดสอบมาเป็น 2 รูปแบบ คือ   Dirt   หรือ สนามทดสอบทางฝุ่น ส่วนอีกสนามเป็นการขับออฟโรด

ออกตัวกับ   Mitsubishi  Triton  ขับไปสักพัก สังเกตได้ว่า เจ้ากระบะค่ายมิตซูบิชิ ดูจะนิ่มนวลขึ้นกว่าเดิมไม่กระด้างเหมือนก่อนที่ยังคงความเป็นกระบะไว้เหนียวแน่นอน

จากการให้สัมภาษณ์ของ คุณ คาซูโมโต้ อิมัย หัวหน้าวิศวกรพาหนะ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์เปอร์เรชั่น เปิดเผยว่า นอกจากการออกแบบที่ดีขึ้น ยังมีการพัฒนาระบบกันสะเทือนใหม่ โดยเฉพาะระบบช่วงล่างทางด้านหลัง เปลี่ยนโช๊คอัพให้มีแกนใหญ่ขึ้น รวมถึงขนาดของแหนบหลังยังใหญ่ขึ้นกว่าเดิมด้วย

ขับตอนนี้ผมรู้สึกว่า  Mitsubishi   Triton   ใหม่ ดูนุ่มนวลขึ้น โดยเฉพาะการขับทางกรวด ในเส้นทางทดสอบสั้นๆ ในสนามทดสอบ ช่วงล่างดูนุ่มนวลขึ้นได้ความรู้สึกใกล้เคียงรถยนต์อเนกประสงค์อย่าง   Mitsubishi  Pajero  Sport  มากขึ้น

Mitsubishi Triton 2018 Double cab

น่าเสียดายการปรับระบบกันสะเทือนใหม่นี้ทางมิตซูบิชิไม่ได้ปรับความยาวของโช๊ค ทำให้ในยางจังหวะ เช่นการตกหลุมหรือกระแทกอย่างรุนแรงยังมีการหัวสั่นหัวคลอนในการขับขี่ แต่ผมค่อนข้างมั่นใจว่าถ้าขับบนถนนดินดำ หรือทางคอนกรีตทั่วไปมันจะเป็นกระบะที่นั่งสบายกว่าเดิมเยอะมาก

จบจากด่านแรกมาต่อด่านที่ 2 ด่านนี้ ทางมิตซูบิชิ ต้องการโชว์คุณภาพในการลุย ด้วยระบบขับเคลื่อนใหม่  Super Select 4 WD II   ซึ่งระบบนี้ยกมาจาก Mitsubishi  Pajero Sport   และต้องการให้มันมีความสามารถการลุยมากขึ้น

งวดนี้ทีมงานมิตซูบิชิเซทเป็นด่านๆ ให้เราขับตามที่พวกเขาต้องการ โดยรถทุกคันถูกเตรียมพร้อมไว้ในโหมดขับเคลื่อน 4 ล้อ ตำแหน่ง 4 LLC  ใช้สำหรับการปีนป่ายบุกป่าฝ่าดงตามต้องการ

Mitsubishi Triton 2018 Double cab

ด่านแรกเป็นเนินชัน โดยเนินนี้มีความชั้น 2 ช่วง ช่วงแรก 20 องศา และช่วงที่ 2 ชัน 30 องศา เราเดินเครื่องขึ้นเนินชันได้ง่ายดา แม้ว่าจะไม่ใช่รถที่พละกำลังมากมายนัก ส่วนขาลงปล่อยเป็นหน้าที่ของ Hill Decent Control   ช่วยในการเบรกหรือชะลอรถลงจากทางชัน ทำให้ขับง่ายขึ้นเยอะ

Mitsubishi Triton 2018 Double cab

ต่อเป็นเนินเอียงข้าง ตามมาด้วยเนินสลับ ทั้ง 2 ทำให้เราเห็นว่าการกันสะเทือนของรถเมื่อลุยมีความสามารถไม่ต่างจากเดิมนัก ส่วนที่ดีขึ้นในความรู้สึกผม จากที่เคยนำเจ้า  Mitsubishi  Triton Athlete  ไปลุยในเส้นทางโหดเขากระโจม เหมือนจะเป็นความฉลาดของระบบที่ตอบสนองไวขึ้นกว่าเดิม ทำให้ขับง่ายขึ้น เรื่องความสามารถก็ไม่ได้ต่างจากเดิมเท่าไรนัก แต่คงต้องลองมากกว่านี้จึงจะบอกได้

Mitsubishi Triton 2018 Double cab

สรุปสั้น  Mitsubishi  Triton  หล่อเน้นลุย 

ผมลงมาจากรถ   Mitsubishi  Triton  พรอมความงุนงงชั่วครู่ เนื่องจากทีมงานญี่ปุ่นเหมือนจะรีบมากไม่อยากให้เราขับเจ้า  Triton  ใหม่ มากนัก

สัมผัสแรกวันนี้เอาว่าเป้นเพียงน้ำจิ้ม ผมบอกเลยว่า หน้าตาใหม่เจ้ากระบะคันนี้หล่อเหลาเอาการโดนใจจริงๆ มันได้ความใกล้เคียง   Mitsubishi  GR-HEV  ที่สาวกเคยค่อนขอดว่า หน้าตากระบะไทรทันไม่โดนใจเท่าไรนัก

การเปลี่ยนแปลงงวดนี้ทางมิตซูบิชิ ดูมีความตั้งใจจริงมาก แต่อย่าเพิ่มถามเรื่องสมรรถนะ ความประหยัด หรืออะไรใดๆ เพราลองครั้งนี้สั้นมาก สั้นจนชนิดที่แทบจับอะไรไม่ได้เลย แต่อย่างน้อยที่สุดช่วงล่างในตัวสี่ประตูก็นิ่มนวลขึ้น ชุดเกียร์ดูตอบสนองดีขึ้นเวลาเร่งเหมือนพุ่งมากกว่าเดิมสักหน่อย

ส่วนเรื่องออพชั่นและการขับขี่มีมาให้ครบเครื่องมากขึ้นเรียกว่าสู้กับผู้ท้าชิงได้ และหวังว่าจะกลับมาทวงเจ้าตลาดกระบะในไทย สวมมงกุฎเบอร์ 3 เหมือนที่ผ่านมา และทั้งหมดที่กล่าวมา คือเท่าที่บอกได้ในเวลานี้  จากเวลาอันแสนสั้นที่ลองขับรถรุ่นนี้ในสนามทดสอบ

Mitsubishi  Triton   ใหม่ เปิดตัวมาแล้วก็จะลงโชว์รูมในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ในวันที่ 17 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งเราหวังว่าในช่วงต้นปีหน้าจะมีโอกาสขับเจ้ากระบะคันนี้อีกครั้ง แล้วเราจะมาพูดอีกครั้งว่ามันเจ๋งมากแค่ไหน

[ngg src=”galleries” ids=”789″ display=”basic_thumbnail”]

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่