ท่ามกลางการเปิดตัว Honda City อย่างสวยงามสาวกฮอนด้า จำนวนไม่น้อย ต่างเฝ้ารอการมาของว่าที่รุ่น 5 ประตู Honda Jazz รถรุ่นนี้ วางขายมาถึง 3 เจนเนอร์เรชั่น ได้รับความสนใจจากคนจำนวนมาก โดยเฉพาะในยุคก่อนอีโค่คาร์จะมาจุติ
การวางตลาดรถยนต์ 5ประตู Honda Fit ใหม่ในญี่ปุ่น อีกชื่อของรถยนต์ Honda Jazz ออกมาด้วยหน้าตาที่ดูเน้นความน่ารักสตรีจ๋า จนหลายคนต่างตั้งคำถามว่า เฮ้ย!! นี่มันอะไร จากจุดนี้เอง เริ่มการการวิเคราะห์ไปต่างๆ นานา เริ่มมีการพูดถึงจากกูรูรถยนต์ ว่าท้ายที่สุดแล้ว เราอาจไม่ได้เห็น Honda Jazz ใหม่ กลับมาทำตลาด ทั้งที่ รถเปิดตัวมาวางขายใน ญี่ปุ่นและยุโรปแล้ว ข่าวสารที่หลั่งไหลอ่านได้จากทั่วทุกมุมโลก ผ่าน Google ต่อข้อสงสัยว่า เกิดอะไรขึ้นกับว่าที่ 5 ประตูในไทย ในเมื่อยอดขายก็ไม่ได้ว่าเลวร้าย
กระแสข่าวออกมาจาก จุดเริ่มต้นมาจากข่าวการจดลิขสิทธิ์ชื่อใหม่ในหลายประเทศ ในชื่อ “Honda City Hatchback” ในหลายประเทศทางอาเซียน เริ่มทำให้ตั้งข้อสงสัยว่า ฮอนด้าอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในรถ 5 ประตู
ข่าวนี้ไม่รวมถึงไทย หากเมื่องาน Tokyo Motor Show 2019 ฮอนด้า เผยโฉมรถยนต์ Honda Fit หรือ Honda Jazz ญาติโกโหติกา สืบทอดมายาวนาน หน้าตารุ่นใหม่ เปลี่ยนลุคจากสิ่งที่ทุกคนคิดอย่างสิ้นเชิงจากหน้ามือไป เป็นหลังมือ ราวกับย้อนสู่ไอเดียตั้งต้นตัวรถ มุ่งเน้นลูกค้าผู้หญิงมีความน่ารักสดใส แอ๊บแบ๊วโดนใจ เริ่มทำให้ข่าวนี้มีความเชื่อมากขึ้น
ไม่เพียงเท่านี้ การเปิดตัวระดับโลก ยังเปิดเผยเพียงรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด 1.5 ลิตรเท่านั้น หักคีย์บอร์ดเซียนทั้งหลาย ที่เชื่อว่า อย่างน้อยที่สุด Honda Fit ก็น่าจะมาพร้อมเครื่องยนต์ 1.0 ลิตรเทอร์โบ ตอบโจทย์ด้วย
จากการเปิดตัว Honda Fit มาถึงการเปิดตัว Honda City ทุกคนต่างเฝ้าจับตามอง รถยนต์แฝดน้องร่างซีดาน มาเปิดตัวในไทยเป็นที่แรกในโลกก่อนงาน Motor Expo 2019 รถรุ่นนี้เดิมทีใช้แพลทฟอร์เดียวกับ Honda Jazz ในหลายส่วน และเราได้รับการยืนยันจาก วิศวกรของ ฮอนด้า ซิตี้ใหม่ ว่า ใช่ ! รุ่นใหม่ ก็ยังใช้พื้นฐานเดียวกัน ทำให้ยังพอมีหวัง ..บ้าง.
ในการไปทดสอบขับรถยนต์ Honda City นักข่าวมีโอกาสสอบถามกับ นาย ซาโตรุ อะซุมิ หัวหน้าทีมวิศวกรผู้พัฒนา ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ บริษัท ฮอนด้า อาร์แอนด์ดี จำกัด ประเทศญี่ปุ่น ได้ความกระจ่างชัดเจนว่า ทั้ง ฮอนด้าซิตี้ และ ฮอนด้า ฟิตยังมีการพัฒนาโครงสร้างส่วนต่างๆ ร่วมกัน เหมือนเดิม นับเป็นการยืนยันชัดครั้งแรกในรอบหลายเดือนว่า พวกมันยังเป็นญาติห่างๆ แฝดพี่น้องอย่างที่เข้าใจกันมาโดยตลอดหาได้ เปลี่ยนแปลงแยกแตกไลน์จากกัน การพัฒนาร่วมกันเป็นในเชิงโครงสร้างหลักๆ หลังจากนั้นแตกออกไป การวิศวกรรมรถยนต์แฮทช์แบ๊คและซีดาน
ถ้ามองมุมนี้ก็หมายความว่าด้วยโครงสร้างพื้นฐานเดียวกัน Honda Jazz สามารถติดตั้งเครื่องยนต์ 1.0 ลิตรเทอร์โบได้ นั่นไม่แตกต่าง ข่าวว่า Honda City Hybrid จะมาขายปีหน้า ซึ่งก็คาดว่าน่าจะเป็นเครื่อง 1.5 ไฮบริด แบบที่ติดตั้งใน ฮอนด้า ฟิต ญี่ปุ่น คิดมุมนี้ แววมาไทยก็ยังมีหวัง
เป็นไปได้หรือ ที่ฮอนด้า จะทิ้ง ฮอนด้า แจ๊สในประเทศไทย ทั้งที่ขายมาทั้ง 3 เจนเนอร์เรชั่น จนกลายเป็นรถที่ติดตลาดรุ่นหนึ่งของ ฮอนด้า แม้ว่าในระยะหลัง จะถูกรถอเนกประสงค์กวาดเรียบ แถมตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็กยังมีซอยย่อย อีกชั้นมาเป็นอีกอีโค่คาร์ ไม่เหมือน 10 ปี ก่อนหน้านี้ ที่มีแต่รถยนต์ ซิตี้คาร์ เป็นรถขนาดเล็กที่สุด ..มองในแง่การดำเนินธุรกิจ ไม่น่าเป็นไปได้ หลังจากลงแรงปั้นมา 10 กว่าปี
การวางหมาก Honda City มาร่วมก๊วนอีโค่คาร์ เป็นแนวทางที่ชัดเจนว่า ฮอนด้าจะอาศัยโครงสร้างทางภาษีการลงทุน เข้ามาช่วยโอบอุ้มทำรถที่ดีมีคุณภาพ ตอบสนองลูกค้า มาถึงจุดนี้เมื่อคิดว่า Honda Jazz จะมาหรือไม่ ก็เรียกว่า มีโอกาสอยู่ 50/50
สาเหตุหลักที่มีการวิเคราะห์จากเซียนจำนวนไม่น้อย ว่าเจ้า 5 ประตู ไม่มาขายอีก เชื่อว่า น่าจะเป็นเรื่องของงานออกแบบตัวรถที่พาดมาทางกลุ่มผู้หญิงสตรีจ๋ามากจน ตอนผมไปเปิดตัวที่โตเกียว โพสภาพลงบนโซเชี่ยล คนที่มากดไลค์กดแชร์ ส่วนใหญ่เป็นเพศแม่ทั้งนั้น
การถูกใจผู้หญิงมากไม่ใช่เรื่องใหญ่ในรถยนต์รุ่นนี้ แต่เมื่อเหลียวมองว่า รถรุ่นนี้เป็นที่ถูกใจสายซิ่งมาแต่งอ้อนแต่ออด โดยเฉพาะใน 2 เจนเนอร์ชั่นหลัง ถ้ามาแบบหน้าแอ๊บแบ๊วตาโต จะมาแต่งให้หล่อ ดูซิ่งคงยาก แม้นว่าในงาน Tokyo Auto Salon ที่ผ่านมา จะมีการเปิดรุ่นซิ่งมาให้ลูกค้าได้ดู โดยเฉพาะจากสำนักแต่ง Mugen ก็เหมือนว่า มันจะยังไม่ถูกจริงคนไทย เท่าไรนัก
ไม่วายย้อนไปตอนเปิดตัว Honda Fit มีรุ่นย่อย อีก 5 รุ่น ทั้งหมด ถูกวางหมาก วางสไตล์มาครบเครื่อง ตามวิธีการใช้ชีวิตของลูกค้า ผิดกับเดิม ที่มารุ่นเดียวแบ่งการตบแต่งแบบรถธรรมดาที่วางขาย ทั่วไป ชี้ให้เห็นว่า ฮอนด้า ต้องการสร้างมูลค่าและลูกเล่นบางอย่างกับรถรุ่นนี้ อาทิ Luxe ออกแบบให้ดูหรูหรา , Fit-ness ตบแต่งให้ดูสปอร์ต หรือ Cosstar ตบแต่งให้เหมือนรถอเนกประสงค์ มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในไลน์อัพสินค้าของฮอนด้า รวมถึงในรถยนต์ฮอนด้าซิตี้ใหม่ด้วย
อย่างไรก็ดีจากการพูดคุยกับทีมวิศวกร ในระหว่างงานเลี้ยงมีประเด็นที่น่าสนใจ วิศวกรไม่ได้ใบ้อะไร แต่เป็นคำถามกลับมาหานักข่าว ชวนน่าคิดว่า “คนไทยชอบความสปอร์ต ทำไมถึงยังต้องการให้รถสไตล์แอ๊บแบ๊วมาขาย … แล้วมันจะดีกว่าไหม ถ้ามีรถ แฮทช์แบ๊คสไตล์สปอร์ตมาขาย” หนึ่งในทีมวิศวกร เผยกับสื่อท่านหนึ่ง
มาถึงตรงนี้ ผมพอจะเข้าใจแล้วว่า สิ่งที่คนไทยต้องการ อาจไม่ใช่ Honda Fit แต่เป็นรถอะไรก็ได้ที่มีทรงสปอร์ต 5 ประตู ดึงดูดใจ แต่งขึ้นมองแล้วเท่ห์ สวมชื่อ Honda Jazz ถ้าทีมวิศวกรกลุ่มนี้เข้าใจตลาดบ้านเราจริงๆ ตอนพวกเขาขับทดสอบรถ ก็คงเห็นว่าคนไทยบ้าแต่งรถไม่น้อยและรุ่นที่ ได้รับความนิยม มี Honda Jazz และ Honda Civic Hatchback ขายดีคนเจอได้บนถนนทุกวัน
ถ้านำหลักการเดียวกันมาใช้กับ Honda City โดยออกแบบช่วงท้าย หรือช่วงตอนหลังใหม่หมด มันก็คงเป็นรถที่น่าสนใจไม่น้อยเช่นกัน แถมลดต้นทุนการขึ้นสายการผลิตได้อีก เนื่องจากปรับสัดส่วนของ Box C ช่วงท้ายรถเท่านั้น และด้วยความตั้งใจของทีมวิศวกรกลุ่มนี้ ในการพัฒนารถ … ส่วนตัวจึงคิดว่า Honda City Hatchback มีความเป็นไปได้ และถ้ามันเป็นจริง พัฒนาโดยทีมเดียวกัน ยิ่งทวีความน่าสนใจขึ้นอีกเท่าตัว
กลับกัน ก็ใช่ว่า Honda Fit จะสวมชื่อ Honda Jazz ใหม่ เหมือนเดิมไม่ได้ เพียงแต่โจทย์ยากการนำรถรุ่นดังกล่าวมาทำตลาด คงอยู่ที่ การเกลี้ยกล่อมลูกค้าให้ถูกใจสินค้า โดยเฉพาะถ้ามองไปที่กลุ่มลูกค้าเดิม ผู้ชายมักจะเป็นกลุ่มหลักซื้อฮอนด้า แจ๊ส ผู้หญิงมักซื้อ ฮอนด้า ซิตี้
ถ้ารถแบบในญี่ปุ่นมาขายจริง มันเหมือนกลับตาลปัตร งวดนี้ ซิตี้ดูหรูสปอร์ต ยิ่งรุ่น RS มาสปอร์ตเต็มพิกัด กลับกัน ฮอนด้า แจ๊สไปในเชิงแอ๊บแบ๊วน่ารัก คงสร้างความปวดหัวให้กับทีมการตลาดฮอนด้าไม่น้อย ว่าจะวางหมากเดินเกมจูงใจลูกค้าอย่างไร จนอาจต้องกลับไปเปิดตำราการตลาดครั้นรุ่นแรกที่ออกมาด้วยทรงน่ารักถูกในสาวๆ เพราะรุ่นใหม่ออกมาในทำนองเดียวกันไม่ผิดเพี้ยน
หากให้วิเคราะห์จริงๆ คาดว่า ไม่ว่าหวยจะออกทางไหน เจ้า 5ประตู “Honda Jazz” ชื่อนี้จะกลับมาอีกครั้ง เพียงแต่จะมาในแบบไหน ก็คงต้องรอการตัดสินใจของทีมการตลาดฮอนด้า
เพราะเมื่อนึกว่า ฮอนด้า สู้อุตส่าห์สร้างชื่อเสียง รถ 5 ประตูขนาดเล็กจนติดหูคนไทย มากว่า 3 เจนเนอร์เรชั่น อยู่ดีๆ จะทิ้งชื่อเสียงยาวนานไปเลย … ในมุมการทำธุรกิจแล้ว แทบไม่น่าเป็นไปได้ เว้นแต่ จะมีจุดเปลี่ยนที่สำคัญจริงๆ ..จนต้องยอมถอย ซึ่งคงไม่ใช่ในเวลาแบบนี้