Kia AD

Home » Audi Thailand อดีต ปัจจุบัน และอนาคต มีสถานการณ์อย่างไร?

Kia AD

Suzuki AD

สกู๊ปเด็ด

Audi Thailand อดีต ปัจจุบัน และอนาคต มีสถานการณ์อย่างไร?

Audi Thailand นับจากที่เปลี่ยนบริษัทผู้แทนจำหน่ายมาเป็นเวลาเกือบ 3 ปี นับจากวันนั้นถึงวันนี้ และวันต่อไป พวกเขามีอะไรที่พวกเราควรรู้และเข้าใจบ้าง?

ธันวาคมปี 2019 นี้ Audi Thailand นำโดย Meister technik ก็จะมีอายุครบสามปี นับตั้งแต่ได้สิทธิในการจำหน่ายและบริการหลังการขาย ให้แก่รถอาวดี้รุ่นใหม่ที่ลูกค้าจะซื้อหากันไปใช้งาน ซึ่งหลายคนต่างตั้งคำถามในตอนเปิดตัวว่า อาวดี้ภายใต้ทีมบริหารชุดใหม่ที่มี กฤษฎา ล่ำซำ นักธุรกิจชื่อดังนำทีมดูแล จะสามารถสร้างแบรนด์สี่ห่วงเยอรมันให้เป็นที่จดจำในฐานะรถแบรนด์หรูแบบมีคุณภาพได้หรือไม่?

ปัญหาใหญ่สุดที่เกิดขึ้นมาจากอดีตซึ่งส่งผลร้ายโดยตรงต่ออาวดี้ หนีไม่พ้นเรื่องการตั้งราคาจำหน่ายกับบริการหลังการขาย จากตัวแทนจำหน่ายยุคเก่าที่ลูกค้าหลายคนมีเสียงตอบรับไปในทางลบ นั่นทำให้ทีมของ Meister technik จะต้องทำการบ้านอย่างหนัก ศึกษาทุกรายละเอียดที่จะทำให้ลูกค้าพึงพอใจ และนำมาปฏิบัติจริงอย่างเข้มข้นเพื่อสร้างภาพจดจำใหม่ให้แก่ลูกค้า

บัดนี้ เป็นเวลาเกือบ 3 ปี แล้วนับจากที่อาวดี้ ประเทศไทย ได้รุกตลาดรถยนต์หรูอย่างจริงจัง เราจึงมีความสงสัยใคร่รู้ว่าที่ผ่านมา ปัจจุบัน และอนาคต ของยี่ห้อรถหรูฉายาสี่ห่วง จะมีอะไรน่าสนใจให้เราจับมาพูดคุยเป็นประเด็นกันบ้าง

เรามีโอกาสได้พูดคุยกับคุณวัลลภ เฉลิมวงศาเวช หรือพี่โอ้ค รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายบริการหลังการขาย อาวดี้ ประเทศไทย เกี่ยวกับภาพรวมด้านยอดขาย ปัญหาที่ลูกค้าพบเจอ รวมถึงอนาคตต่อจากนี้ว่าจะมีรถยนต์โมเดลใหม่อะไรบ้างเข้ามาทำตลาด

ประเด็นแรกที่เรายิงตรงเข้าเป้า…ถามกับพี่โอ้คก็คือ ที่ผ่านมายอดขายอาวดี้ ตลอดเวลาสองเกือบๆ จะสามปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง “ปีแรกที่เราทำหน้าที่ผู้แทนจำหน่ายและศูนย์บริการอย่างเป็นทางการในฐานะ Audi Thailand เราขายรถไปได้ราว 600 คัน ต่อมาในปีที่สองก็ทำได้ถึง 1,000 คัน”

“ปีนี้กำลังจะจบปีที่สาม ทว่าตัวเลขอยู่แค่ 600 คัน สาเหตุมาจากข้อกำหนดเรื่องอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน WLTP ที่ยุโรปเพิ่งประกาศใช้ใหม่ ทำให้ปริมาณการผลิตรถยนต์มีการชะลอเอาไว้ ทำให้เราไม่สามารถส่งรถถึงมือลูกค้าได้ตามเป้าที่วางไว้สิ้นปี 2019 จะต้องได้เกือบๆ 1,000 คัน ใกล้เคียงกับปีที่สองครับ”

ต่อมาคำถามที่ทุกคนอยากรู้ไม่แพ้จำนวนประชากรอาวดี้ที่ถูกขายลงมาวิ่งบนถนน เห็นจะเป็นเรื่องที่ว่ารถโมเดลไหนของค่ายสี่ห่วงที่ลูกค้าให้การสนับสนุนซื้อหาไปใช้มากที่สุด พี่โอ้คจึงตอบมาดังนี้ “TT ครับ คือมันเป็นรถที่ลูกค้าให้การตอบรับสูงมาก อาจเป็นเพราะราคาจำหน่ายที่ตั้งไว้ 3,299,000 บาท แต่ได้ข้าวของครบถ้วนไม่แพ้สเป็คนอก ส่วนเรื่องล้อลายบ้านๆ ที่มีติดรถนั้น ลูกค้าส่วนใหญ่ไม่ซีเรียสครับเพราะพวกเขาชอบเปลี่ยนไซส์และลายใหม่ตามใจชอบหลังออกรถ”

“ตอนนี้เรามีแคมเปญกระตุ้นให้คนที่กำลังด้อมๆ มองๆ TT แต่คิดว่ากำลังทรัพย์ไม่เพียงพอ เอาเป็นว่ามีเงินดาวน์ซักแปดเกือบเก้าแสนบ้าน คุณก็สามารถผ่อน Audi TT ใหม่ ต่อเดือนเพียง 28,880 บาท ดอกเบี้ย 0% นาน 7 ปี ส่วนรุ่นอื่นๆ ก็มีโปรดีไม่แพ้กัน เอาเป็นว่าถ้าสนใจลองไปเดินชมอาวดี้ในงาน Motor Expo 2019 กันครับ”

เรื่องยอดขายผ่านไปคงต้องถามเกี่ยวกับศูนย์บริการบ้าง ว่าพร้อมขนาดไหนกับปริมาณประชากรอาวดี้ที่เพิ่มขึ้นทุกวัน “ตอนนี้เรามีโชว์รูมบวกศูนย์บริการทั่วประเทศ 4 แห่ง (กทม. 2 พัทยา 1 ภูเก็ต 1) และศูนย์บริการที่เชียงใหม่อีกหนึ่งแห่ง ถามว่าเราให้การดูแลลูกค้าได้ทั่วถึงหรือไม่นั้น ก็ต้องตอบว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานครับ แต่ในอนาคตเรามีแผนจะขยายให้ครอบคลุมหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศอยู่แล้ว”

เมื่อฟังจบเราจึงเกิดความสงสัยว่าการที่อาวดี้เป็นรถจากยุโรป ที่คนไทยหลายคนมีความคิดว่าจะต้องจุกจิก อะไหล่ไม่ทนทาน ระบบบไฟฟ้าเสียง่ายซ่อมบ่อย หลายครั้งทำให้ลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ไม่กล้าซื้อรถมาใช้ทั้งๆ ที่มีกำลังทรัพย์มากพอ ข้อนี้คิดเห็นอย่างไร?

“ก่อนที่อาวดี้จะส่งรถมาจำหน่ายในประเทศไทย ทางวิศวกรเยอรมันได้ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลต่างๆ ของสภาพถนน สภาพอากาศ และทุกปัจจัยที่มีผลต่อการใช้งานรถยนต์ในระยะยาว แล้วจึงเลือกใช้วัสดุกับอุปกรณ์ต่างๆ ที่มาประกอบเป็นรถหนึ่งคันให้มีความเหมาะสมสูงสุด เช่น พัดลมหม้อน้ำจะมี 2 สเต็ปการทำงาน ให้แรงลมมากกว่ารถเวอร์ชั่นเมืองหนาว บรรดาชุดท่อทางเดินหม้อน้ำ ตลอดจนวัสดุที่เป็นยางทั้งหมด และชุดกล่อง ECU มีการออกแบบให้ทนต่อความร้อนและความชื้นมากเป็นพิเศษ” พี่โอ้คกล่าว

ผมถามต่ออีกได้ไหมว่าเกือบๆ 3 ปีที่ผ่านมา เคยมีลูกค้าขับรถอาวดี้แล้วดับกลางอากาศบ้างไหม? “มีครับ แต่ต้นตอของปัญหาเกิดจากหนูได้เข้าไปกัดสายไฟภายในห้องเครื่องยนต์ เมื่อลูกค้านำออกมาขับใช้งานก็ถึงได้มีอาการรถดับ ซึ่งเคสนั้นเราได้ทำการซ่อมบำรุงแก้ไขไปเรียบร้อยแล้วครับ เรากล้าพูดได้ว่าถ้าเป็นรถที่เพิ่งซื้อจากเราไปภายใน 3 ปีนี้ ยังไม่มีปัญหาร้ายแรงจนถึงขั้นดับวิ่งต่อไม่ได้ และถ้าเกิดมีถึงขั้นนั้นจริงเราก็พร้อมดูแลช่วยเหลือให้ดีที่สุดครับ”

สุดท้ายผมอยากจะถามว่าทำไมพักหลังอาวดี้ทำราคารถใหม่ได้น่าประทับใจ หรือบ้านๆ เรียกว่าถูกกว่าที่คิดไว้ ทั้งๆ ที่เราเสียเปรียบเรื่องการที่ต้องนำเข้ารถทั้งคันจากเมืองนอกมาขาย ต่างจากคู่แข่งที่มีฐานประกอบในประเทศ?

“ให้ผมตอบตรงๆ นะ ทีมของเรามีลูกบ้าทุกคนครับ ตั้งแต่ประธานบริหารถึงพวกผมที่อยู่ใต้บังคับบัญชา คือทุกคนอยากให้ลูกค้าได้สัมผัสกับรถยนต์คุณภาพสูงในราคาสมเหตุสมผลที่สุด บางทีก็มีการดีเบตโต้เถียงกับในทีมว่ารถคันนั้นคันนี้จะตั้งราคาออกมาเท่าไหร่ แต่สุดท้ายแล้วทุกคนก็คิดเห้นพ้องต้องกันทุกครั้ง เพื่อผลลัพธ์ที่ลูกค้าของเราทุกคนจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุดเสมอครับ” พี่โอ้คกล่าว

เรื่องราวการพูดคุยระหว่างผู้เขียนกับพี่โอ้คจากอาวดี้ เกิดขึ้นโดยไม่ได้นัดแนะตระเตรียมมาก่อน เป็นเหมือนกับพี่น้องที่ได้มานั่งแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน แต่กลับทำให้เราได้รับรู้ว่าอาวดี้ ประเทศไทย ที่ไม่ใช่ใครคนใดคนหนึ่งมานำทีมเป็นผู้นำสู่ความสำเร็จ ทว่าคือพลังของทุกคนที่หมายมั่นจะทำให้แบรนด์อาวดี้ยืนหยัดก้าวหน้าต่อไป

ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเราทีมงาน Ridebuster.com

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.