ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ ถือเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมอยู่ไม่น้อย ในหมู่รถยนต์สมรรถนะสูง ที่ต้องการความฉับไวในการเปลี่ยนเกียร์แต่ละจังหวะ ทว่านั่นอาจไม่ใช่สิ่งที่ BMW M เห็นด้วยอีกต่อไป

“ระบบเกียร์คลัทช์คู่, สำหรับมุมมองของ BMW M ในทุกวันนี้, ไม่ได้อยู่ในสายตาแล้ว” Dirk Hacker หัวหน้าฝ่ายพัฒนายานยนต์ BMW M กล่าวเกริ่นในการให้สัมภาษณ์กับสื่อดัง Top Gear เมื่อเจ้าตัวถูกถามถึงเรื่องทิศทางการพัฒนาระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติคลัทช์คู่ ที่ดูเหมือนว่าในตอนนี้ทางค่ายจะไม่ทำมันออกมาแล้วในรถยนต์รุ่นใหม่ๆของตนเอง

“ในตอนนี้จะมีแต่เกียร์ธรรมดา หรือไม่ก็เกียร์อัตโนมัติ(ชุดคลัทช์เดี่ยว) และเกียร์อัตโนมัติไฟฟ้า เท่านั้นสำหรับอนาคต”

“ในตอนพัฒนา M5, มันเป็นเรื่องถกเถียงที่ใหญ่มาก, ไม่ใช่แค่เรื่องการใช้เกียร์อัตโนมัติ แต่ยังรวมถึงเรื่องอื่นๆด้วย, และการตัดสินใจเรื่องเหล่านั้น ก็ไม่ใช่แค่เรื่องต้นทุน แต่ยังรวมถึงความนุ่มนวล (ในการใช้งานชุดเกียร์อัตโนมัติธรรมดาๆ)ด้วย, เพราะเราได้รับปฏิกิริยา(อาการของตัวรถตอนใช้ระบบเกียร์ DCT)มากมาย ทั้งตอนเข้าเกียร์ว่าง, ตอนจอด, ตอนหยุดนิ่งขณะที่คุณกำลังจะถอนคันเร่ง, แล้วก็อื่นๆอีกเพียบ”

และแม้ระบบเกียร์ DCT จะได้ชื่อว่าเป็นระบบเกียร์ที่สามารถเปลี่ยนจังหวะอัตราทดได้รวดเร็วมาก แต่มันกลับทำงานได้ไม่นุ่มนวลเท่าไหร่นักและสร้างปัญหากวนใจในการใช้งานแบบปกติ จากการที่มีลูกค้าหลายคนให้ความเห็นถึงเการเปลี่ยนเกียร์ที่กระแทกกระทั้นเกินไป, การใช้งานที่ยุ่งยาก (อาจจะเฉพาะของ BMW ?) และความดุดันในภาพรวมเมื่อต้องการใช้งานในภาพรวม

ซึ่งปัญหาเหล่านี้ Hacker ก็มองว่าระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์เดี่ยว สามารถแก้ไขและใช้งานได้ดีกว่า “ระบบเกียร์อัตโนมัติมีศักยภาพที่ดีกว่าระบบบเกียร์คลัทช์คู่” เจ้าตัวกล่าว “ในรถ M4 CSL, มันเปลี่ยนเกียร์ได้ไวกว่า, และในอีกทางหนึ่ง เราก็ใช้เกียร์อัตโนมัตินี้ในตัวแข่ง M4 GTR มาแล้วด้วย” เพื่อบอกถึงประสิทธิภาพการทำงานของเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด จาก ZF ที่ทางค่ายใช้ในรถยนต์หลากหลายรุ่นของตนเอง ในช่วงไม่กี่ปีมานี้

ในฝั่งเกียร์ธรรมดา หรือ เกียร์กระปุก เอง แม้ BMW จะยังคงพยายามที่จะรักษามันเอาไว้ ให้ลูกค้าขาซิ่งที่ยังคงหลงไหลในความดิบแบบคลาสสิคกันอยู่ แต่ Hacker ก็ยอมรับว่า แม้ตอนนี้พวกเขาจะรักษามันเอาไว้ได้ แต่ในอนาคต หรือการนำมันไปใช้กับรถยนต์ไฟฟ้า อาจเป็นไปได้ยาก ซึ่งก็เพราะไม่ใช่แค่ทางบบริษัทมองว่ามันไม่คุ้มเท่านั้น แต่ทางฝั่งซัพพลายเออร์เอง ก็ไม่อยากจะทำให้ด้วยเช่นกัน

“มันเป็นการตัดสินใจของซัพพลายเออร์ด้วย, ถ้าคุณลองมองไปรอบๆ, คุณจะเห็นว่าอนาคตของผู้ผลิตเกียร์กระปุกนั้นมีน้อยลงเรื่อยๆ, ดังนั้นผมเลยไม่แน่ใจว่าเราจะยังมีมัน(เป็นตัวเลือกให้ลูกค้า)อยู่มั้ยในอนาคต, แต่อนาคตที่ว่า หมายถึงในอีกหกถึงเจ็ดปีข้างหน้า”

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่