BMW ถือเป็นหนึ่งในผู้ผลิตที่ค่อนข้างตามใจลูกค้าหัวอนุรักษ์นิยม ขนาดที่กล้าให้คำตอบว่าพวกเขาจะยังคงขายรถเกียร์กระปุกต่อไป ตราบใดที่ลูกค้ายังต้องการ แต่ล่าสุด กลายเป็นพวกเขาดันตัดสินใจเลิกผลิตขุมกำลังเครื่องยนต์สันดาปภายใน ณ โรงงานใหญ่ในบ้านเกิดที่เยอรมันเสียอย่างนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เป็นการเปิดเผยข้อมูลโดยทาง BMW บริษัทแม่ ในประเทศเยอรมัน ที่ได้ระบุว่าตอนนี้ โรงงานในประเทศบ้านเกิดของแบรนด์นั้น ได้ปิดสายการผลิตขุมกำลังเครื่องยนต์สันดาปภายในไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย หลังจากที่เครื่องยนต์ V8 ลูกสุดท้าย ได้ถูกส่งออกจากสายพานไป ตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

ซึ่งทั้งนี้ พวกเขาไม่ได้หมายถึงแค่เครื่องยนต์สันดาปภายในล้วนเท่านั้น แต่หมายถึงทุกขุมกำลังที่มีเครื่องยนต์สันดาปภายในเป็นขุมกำลังหลัก หรือเป็นส่วนประกอบทุกชนิด ทั้ง เบนซินล้วน, ดีเซลล้วน, Mild-Hybrid, Hybrid, และ PHEV ซึ่งนั่นรวมถึงเครื่องยนต์ของรถยนต์ในตระกูล M ด้วย (แม้ว่าอันที่จริง เครื่องยนต์เหล่านี้ หากไม่นับขุมกำลัง V8 ที่พึ่งถูกปิดสายการผลิตไป จะถูกย้ายไปผลิตในประเทศอื่นมาไม่น้อยกว่าขวบปีแล้วก็ตาม)

และจากความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ทำให้พนักงานกว่า 1,200 คน ในโรงงานของ BMW ที่ประเทศเยอรมัน จะต้องถูกอบรม เพื่อเปลี่ยนตำแหน่งหน้าที่ใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะสำหรับทำงานในโรงงานเดิม หรือย้ายไปอยู่แผนกอื่นของบริษัทในเครือ BWM

โดยถือว่าเป็นเรื่องดีต่อบุคลาการเหล่านั้นพอสมควร เพราะอย่างน้อยก็ไม่ถึงกับต้องถูกจ้างออกจากงาน ซึ่งทั้งนี้ก็เป็นเพราะการตกลงกันระหว่างทางโรงงานและสภาพแรงงานของพนักงานในโรงงานมาตั้งแต่แรกก่อนเตรียมปิดสายการผลิตเครื่องยนต์สันดาปภายในอยู่แล้ว

แน่นอน การปิดสายพานผลิตเครื่องยนต์สันดาปภายในครั้งนี้ คือการเปลี่ยนแปลงเพื่อเตรียมผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% อย่างเต็มรูปแบบที่โรงงานหลายๆแห่งในประเทศบ้านเกิด เพื่อผลักดันและเน้นการเพิ่มยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าให้เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ นั่นคือการขายรถยนต์ไฟฟ้าของปีนี้ ให้ได้ 15% จากยอดขายทั้งหมดในยุโรป และภายในปีหน้ายังตั้งเป้าว่าจะขายให้ได้มากถึง 40% จากยอดขายรถทั้งหมดในยุโรปอีกเช่นกัน

ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นโรงงานใหญ่ที่สุดของค่ายในเมืองมิวนิก (Munich) ที่มีการผลิต BMW i4 มาตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2021 ในเร็วๆนี้ก็กำลังวางแผนที่จะผลิต BMW i3 กับ i3 Touring ต่อ โดยคาดว่าจะถูกเปิดตัวในอีกไม่เกิน 1 ปีนับจากนี้ แม้แต่รถยนต์ไฟฟ้าแพล็ตฟอร์มใหม่ “Neue Klasse Platform” ที่ถูกระบุว่าจะถูกเปิดตัวในปี 2026 เอง ก็จะถูกประเดิมการผลิต ณ โรงงานแห่งนี้ช่วงปี 2026 เป็นหลักเช่นกัน

นอกนั้น ในฝั่งของ iX, i5, และ i7 จะถูกผลิตขึ้นในโรงงานที่เมืองดิงโกฟฟิง (Dingolfing) ตามด้วย iX1 และ iX2 จะถูกผลิตขึ้นในเมืองเรกเกนส์เบิร์ก (Regensburg) และในส่วนโรงงานที่เมืองสตราสเคอร์เชน (Strasskirchen) ก็จะมีไว้เพื่อประกอบแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าเกือบทุกรุ่นที่ไล่เรียงมา

อย่างไรก็ดี แม้มันอาจดูเหมือนว่า ทาง BMW ลดความสำคัญของการผลิตเครื่องยนต์สันดาปภายในลง (ซึ่งจริงๆก็ใช่) เนื่องจากในตอนนี้พวกเขามีลูกค้าหน้าใหม่ที่ให้สนใจในผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้าของตนเองมากขึ้นเรื่อยๆ และมีแนวโน้มที่จะมากขึ้นอีก จากการเตรียมเปิดรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆในอนาคตอันใกล้ จนสัดส่วนการขายอาจมากกว่ารถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน ในสักวัน

แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะทิ้งขุมกำลังชนิดนี้ไปเลยเสียทีเดียว เนื่องจากทางค่ายยังไม่เคยเลยสักครั้ง ที่จะประกาศขีดเส้นตาย หรือการผันตัวไปสู่การเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ เหมือนผู้ผลิตสัญชาติยุโรปรายอื่นๆแต่อย่างใด เนื่องจากสุดท้ายแล้ว พวกเขาก็ยังคงเป็นค่ายที่เลือกฟังเสียงเรียกร้องจากลูกค้าเป็นหลักอยู่ ตราบใดที่มันยังมากพอ และสำคัญที่สุดคือ ตราบใดที่กฏหมายยังคงเอื้อให้ขาย (โดยเฉพาะในทวีปยุโรป)

นอกจากนี้ นี่ไม่ใช่ความเคลื่อนไหวที่ทาง BMW ไม่เคยบอกใครมาก่อน เพราะย้อนไปเมื่อปี 2020 ทางค่ายได้เคยเปิดเผยข้อมูลไว้แล้วว่าพวกเขาได้เตรียมแผนที่จะย้ายการผลิตและประกอบเครื่องยนต์สันดาปภายในของรถยนต์จากแบรนด์ทุกรุ่น ตั้งแต่เครื่องยนต์ 8 สูบ (V8) ไปไว้ที่โรงงานในเมืองแฮมส์ ฮอลล์ (Hams Hall) ประเทศอังกฤษ และเครื่องยนต์ที่เล็กกว่านั้น จะไปผลิตในโรงงานที่เมืองสแตรย์ (Steyr) ประเทศออสเตรีย

ดังนั้น แม้มันจะเป็นความเคลื่อนไหวที่บ่งบอกว่าตอนนี้ทาง BMW กำลังผันตัวสู่การเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น จนอาจเรียกได้ว่าอยู่ในระดับ 50:50 กับการขายรถขุมกำลังสันดาปภายใน แต่สำหรับลูกค้าที่ยังหลงไหลในเครื่องยนต์จากใบพัดสีฟ้า ก็ยังไม่ต้องรีบเสียใจไป เพราะเราอย่างน้อยเราก็จะยังคงเห็นรถยนต์ลักษณะนี้ถูกทำขายต่อไปอีกพักใหญ่แน่นอน (แต่ใหญ่ถึงปีไหน ยังไม่มีใครทราบได้ทั้งสิ้น เพราะทางค่ายยังไม่ขีดเส้นตายเลยสักนิด ดังที่เกริ่นไว้ก่อนหน้านี้)

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่