Yamaha Aerox คือหนึ่งในรถสกู๊ตเตอร์คลาส 150-160cc ที่หลายคนชื่นชอบ และในโมเดลปี 2025 ที่เราได้มีโอกาสทดสอบ และ รีวิว ครั้งนี้ ก็น่าจะยิ่งถูกจริตคนที่สนใจอยู่ขึ้นอีกมากเลยทีเดียว

ก่อนที่เราจะมา รีวิว 2025 Yamaha Aerox เราขอพาทุกคนมาไล่ดูกันโดยคร่าวๆกันก่อน ว่าตัวรถรุ่นนี้มีความเปลี่ยนแปลงจากเดิมหลายจุดด้วยกัน จนเรียกได้ว่ามันคือการปรับโฉมครั้งใหญ่แบบ All-New เพราะเอาจริงๆก็ดูเหมือนจะมีแค่เพียง ชุดล้อ ระบบเบรกหน้า และชุดโครงรถ เท่านั้นที่ยังคงเดิมจากตัวรถโฉมก่อน

นอกนั้นล้วนถูกปรับปรุงใหม่ทั้งหมด เพื่อให้มันเปลี่ยนนิยามจากความเป็น รถสปอร์ตสกู๊ตเตอร์ เป็น รถซุปเปอร์สปอร์ตสกู๊ตเตอร์ อย่างเต็มตัว

เริ่มจากหน้าตาตัวรถ ที่ถูกปรับใหม่ให้ดูโฉบเฉี่ยว สะดุดตามากขึ้น เน้นเส้นสายที่แหลมคม ชัดเจน ใช้ไฟหน้าคู่ โคมใหญ่กว่าเดิม พร้อมเปลี่ยนดวงไฟด้านในเป็น LED Projector และเปลี่ยนไฟเลี้ยวเป็นแบบบ Full LED ทั้งหมด, เพิ่มวิงเล็ทใต้ไฟหน้าเข้ามา

เปลี่ยนแฟริ่งข้างใหม่ ให้ดูใหญ่ หนามากขึ้น แต่ยังคงใช้แรงบันดาลใจมาจาก Yamaha YZF-R Series และปรับแฟริ่งท้ายใหม่เล็กน้อย เพื่อให้รับกับไฟท้าย LED แบบใหม่ ที่ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากเหล่ารถมอเตอร์ไซค์ตระกูลซุปเปอร์สปอร์ตเช่นกัน

และท้ายสุดคือการเปลี่ยนชุดหน้าจอมาตรวัดแบบ Full Digital LCD ใหม่ ให้ดูทันสมัย อ่านค่าได้ง่ายมากขึ้น และยังคงรองรับการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือเพื่อเข้าถึงฟังก์ชันของแอพพลิเคชันระบบ Yamaha Y-Connect ทั้ง ระยะทางในการวิ่ง, ระยะการเซอร์วิสต์, และอื่นๆ ของตัวรถแล้วเก็บข้อมูลไว้สำหรับแจ้งศูนย์บริการในยามที่ผู้ใช้นำรถไปเซอร์วิสต์ตามรอบ หรือจะใช้บันทึกเส้นทางการเดินทางในแต่ละวัน บันทึกตำแหน่งจอดรถ แล้วอ่านค่าจากโทรศัพท์ของผู้ใช้เองได้ด้วย

มาว่ากันต่อในเรื่องของการปรับเปลี่ยนที่ทำให้ส่งผลถึงการขับขี่กันบ้าง…

เริ่มจาก ท่านั่ง ทั้งตอนขี่ปกติ หรือ ในตอนหมอบ โหนรถเข้าโค้ง ที่เปลี่ยนไป

เพราะในคราวนี้ ทาง Yamaha ระบุว่าพวกเขาได้มีการปรับทั้ง งานดีไซน์เบาะนั่งใหม่เล็กน้อย ทำให้เบาะสูงขึ้นอีกนิดหน่อย พร้อมปรับแฮนด์ให้สูงขึ้น แต่มีความงุ้มเข้ามาหาตัวผู้ขี่มากขึ้นตาม ช่วยให้การนั่งในท่าขี่หลังตรงผู้ขี่จะรู้สึกมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น ยิ่งตอนหมอบหนักๆ ก็จะรู้สึกแขนขัดๆเพราะแฮนด์กางน้อยลงด้วย ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากขณะทิ้งโค้ง

ขณะเดียวกัน ในจุดที่เกี่ยวข้องกับลำตัวช่วงล่างของผู้ขี่ ทาง Aerox รุ่นใหม่ ยังมาพร้อมกับแฟริ่งกลางที่สูงขึ้น และมีชิ้นรับน่องที่ใหญ่ขึ้นอย่างชัดเจน ช่วยให้การใช้น่องหนีบรถ หรือเกี่ยวรถไว้ ทำให้กระชับ มั่นใจกว่าเดิม

และเพื่อเอาใจสายซิ่งขึ้นไปอีกขั้น บริเวณด้านท้ายของฟลอบอร์ดยังมีการออกแบบให้แนวฟลอบอร์ดแหงนเชิดขึ้นไปด้านบน เพื่อให้ผู้ขี่สามารถใช้วางและจิกเท้า เตรียมเข้าโค้งได้อย่างพอดิบพอดี

ติดแค่นิดเดียวคือด้วยความที่ฟลอบอร์ดใช้วัสดุแผ่นยางรองด้านล่าง ทำให้พอผู้ขี่ต้องจิกรถเพื่อเข้าโค้งจริงๆ ปลายเท้าของเราอาจจะลื่นเพราะการให้ตัวของแผ่นยางที่ว่านี้แทน ซึ่งผู้ใช้ที่อยากจะซิ่งจริงจัง ก็ควรหาแผ่นกันลื่นผิวกระดาษทรายมาแปะแทน เพื่อเพิ่มความมั่นคงของเท้าให้มากขึ้น

ช่วงล่างของตัวรถและส่วนที่เกี่ยวของกับการบังคับเลี้ยง ถูกปรับเซ็ทใหม่หลายจุด ทั้ง การขยับระยะเทรลของล้อหน้าให้มากขึ้น จาก 98 มิลิลเมตร เป็น 102 มิลลิเมตร เพื่อเพิ่มความนิ่งของล้อหน้าขณะใช้งานทั้งทางตรงและทางโค้งให้มากขึ้น แม้องศาแผงคอจะยังคงอยู่ที่ 26.5 องศา เท่าเดิม

โช้คหน้าตะเกียบคู่หัวตั้ง ซึ่งได้แกนโช้คขนาดใหญ่กว่าเดิม จาก 26 มิลลิเมตร เป็น 30 มิลลิเมตร ปรับสปริงใหม่ให้แข็งขึ้น เพื่อการรองรับแรงกระแทกและน้ำหนักที่ดีกว่า เช่นเดียวกับโช้คคู่หลังพร้อมกระปุกซับแทงค์แก๊สแยก ที่ได้กระบอกใหม่ใหญ่กว่าเดิม จาก 34 เป็น 39 มิลลิเมตร พร้อมเพิ่มความแข็งสปริงให้มากขึ้นเช่นกันเพื่อความสมดุล

และยังมีการเพิ่มดิสก์เบรกหลัง ที่ทำให้เราสามารถเบรกได้อย่างมั่นใจ ฉับไว้มากขึ้นกว่าเบรกดรัมที่เคยใช้ในโฉมก่อนๆ จนบางครั้งคุณอาจจะต้องระวังนิดๆ เพราะเบรกหลังยังไม่มีระบบ ABS มาให้

ส่วนผลที่ตามมาของการเซ็ทช่วงล่างใหม่ก็คือ เดิมที Aerox 155 รุ่นก่อน จะถือเป็นรถสกู๊ตเตอร์ที่มีอาการหน้ารถค่อนข้างไว และวูบวาบ ทำให้กว่าที่ผู้ขี่จะมั่นใจกับช่วงหน้ารถได้ ต้องใช้เวลาปรับตัวเข้าหามันนานพอสมควร

ซึ่งในตัว Aerox รุ่นใหม่ อาการต่างๆเหล่านั้นถือว่าหายไปอย่างเห็นได้ชัด และมันก็กลายเป็นอีกหนึ่งรถสกู๊ตเตอร์ที่มีการทำงานด้านหน้ารถค่อนข้างมั่นคงพอตัว ทำให้การเลี้ยวโค้งมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น จนหากนักทดสอบคนไหน อยากจะลองกางเข่าทิ้งโค้งจนเซนเซอร์เช็ดพื้นก็สามารถทำได้ไม่ยากเย็นนัก เพราะหน้ารถมีความนิ่งพอจนเราไม่ต้องพะวงว่ามันจะพับลงได้ง่ายๆ

นอกจากนี้ ด้วยการปรับค่าสปริงให้แข็งขึ้น ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทำให้อาการย้วยของโช้คมีน้อยลง ช่วยให้การใช้คันเร่งอยู่ในโค้งมีความผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะทั้งในจังหวะที่ต้องประคอง หรือจะปั๊มคันเร่งออกจากโค้ง ท้ายรถก็พร้อมจะดันรถแล้วส่งออกจากโค้งไปได้ง่ายๆ

สิ่งที่ต้องติดกันไว้ก่อนก็คงเป็นเรื่องของอาการโช้คยัน ที่มีให้พบเจอมาโดยตลอดตั้งแต่ Aerox รุ่นแรกและรุ่นที่สอง พพอรุ่นที่ 3 มีการปรับสปริงให้แข็งขึ้นแล้ว แต่ไม่ได้เพิ่มช่วงยุบ เราเองก็อยากจะลองดูเช่นกันว่า มันจะยังคงมีปัญหาเดิมอยู่หรือไม่ ?

แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่ปัญหาดังกล่าวจะน้อยลงแล้ว เพราะแม้ช่วงยุบจะน้อยลง ทว่าด้วยขนาดแกนใหญ่ขึ้น วาล์วใหญ่ขึ้น คุมความหนืดของโช้คได้ดีขึ้น และสปริงยังแข็งขึ้นกว่าเดิม โอกาสที่โช้คจะยุบจนสุดแล้วยันก็คงมีน้อยลงตามอย่างแน่นอน

ท้ายสุด คือเรื่องของขุมกำลังตัวรถ ที่แม้จะยังคงเป็นบล็อคสูบเดียว 4 วาล์ว SOHC พร้อมระบบวาล์วแปรผัน VVA ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาดความจุ 155cc จากขนาดกระบอกสูบ 58.0 x 58.7 มิลลิเมตร เท่าเดิม ให้กำลังสูงสุดราวๆ 15 แรงม้า PS เท่าเดิม

แต่มีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดชิ้นส่วนภายในใหม่ เพื่อให้เครื่องยนต์สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพในการเรียกอัตราเร่งที่ดียิ่งขึ้น ทั้ง การปรับเปลี่ยนงานออกแบบเพลาลูกเบี้ยว หรือแคมชาฟท์ใหม่ ให้มีความสั่นสะเทือนน้อยลง, เปลี่ยนแหวนรองน็อตฝาสูบเป็นแบบกันคลาย, และเปลี่ยนระบบกลไกตัวดันโซ่ราวลิ้น จากแบบสปริง เป็นแบบไฮดรอลิก เพื่อให้โซ่มีความตึงที่เหมาะสมตามรอบเครื่องยนต์

แม้อาจจะน่าเสียดายสักหน่อยที่ทาง Yamaha ประเทศไทย ก็ยังไม่ยอมใส่ระบบเกียร์ YECVT มาให้ แต่ด้วยการเซ็ทอัพช่วงล่างที่เราบอกไปว่ามันสามารถช่วยส่งรถขณะออกจากโค้งได้ดียิ่งขึ้น เมื่อบวกกับเครื่องยนต์ที่ถูกปรับเปลี่ยนชิ้นส่วนใหม่ เพื่อการไล่รอบที่ไหลื่นมากขึ้น

จึงทำให้รถสามารถมอบอัตราเร่งที่ติดมือกว่าเดิม อาการรอบแผ่วช่วงต้นมีน้อยลงอย่างรู้สึกได้ รอบมาตามสั่งกว่าเดิม เว้นรอบสูงที่อาจจะยังติดอั้นๆอยู่ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะท้ายที่สุด รถก็ยังต้องถูกทำให้ผ่านมาตรฐานไอเสียสุดเข้มงวดอยู่ดีนั่นเอง

น่าเสียดายที่การขี่ทดสอบในครั้งนี้ เราไม่ได้มีระยะทางตรงให้ชู๊ทคันเร่งกันมากนัก จึงทำให้เราไม่มีโอกาสได้ลองกำลังเครื่องในย่านความเร็วสูงมากเท่าไหร่ และต้องขอติดไว้ก่อนจนกว่าจะมีโอกาสได้นำรถมาทดสอบแบบจริงจังกันอีกครั้ง

ซึ่งนั่นก็รวมทั้งเรื่องของความสั่นสะเทือนเครื่องยนต์ที่ถูกบอกว่ามีการปรับแก้ใหม่ และอัตราสิ้นเปลืองด้วยเช่นกัน ว่าจะทำได้ดีแค่ไหน กับเครื่องยนต์ที่ถูกปรับจูนมาใหม่ลูกนี้

สรุป รีวิว Yamaha Aerox โฉมใหม่ ปี 2025 ในครั้งนี้ แม้ว่ามันอาจจะเป็นการทดสอบในสนามโกคาร์ทสั้นๆ ที่ทำให้เรามีโอกาสได้ลองกำลังเครื่องเพียงน้อยนิดเท่านั้น และยังต้องติดข้อมูลในส่วนอื่นๆกับคุณผู้อ่านอีกบาน

แต่ก็เพราะการทดสอบในสนามโกคาร์ทสั้นๆเช่นกัน ที่ทำให้เราต้องเจอโค้งสลับไปมาบ่อยๆ ช่วยให้เราสามารถรับรู้ถึงความมั่นคงของช่วงล่างที่ถูกพัฒนามาเป็นอย่างดี จนชนิดที่ว่า คุณอาจจะต้องลบภาพจำตอนที่ขี่ Aerox รุ่นก่อนหน้าทิ้งไปเลย

เพราะในคราวนี้ทาง Yamaha ได้ปรับแก้จุดด้อยเดิมๆของรถจนแทบเกลี้ยงจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความนิ่งของการพลิกเลี้ยว, ความหนืดของโช้คขณะเบรกหนักๆ หรือในทุกช่วงจังหวะขณะเข้ายันออกจากโค้ง

เมื่อรวมกับการปรับเปลี่ยนสัดส่วนตัวรถใหม่ ให้ผู้ขี่สามารถโหนโค้งได้อย่างมั่นใจมากขึ้น จึงไม่แปลกนักหากทางค่ายจะนิยามว่านี่คือ “รถซุปเปอร์สปอร์ตสกู๊ตเตอร์” ซึ่งมันก็สามารถทำได้สมนิยามนั้นจริงๆ

โดยรถ Yamaha Aerox 155 รุ่นใหม่ปี 2025 จะถูกวางจำหน่ายในประเทศไทยด้วยรุ่นย่อยเดียว และมีราคาแพงขึ้นมาอีก 2,000 บาท เป็น 85,900 บาท พร้อม 3 เฉดสีทางเลือก ได้แก่ สีเทา-น้ำเงิน Silver Star, สีดำ-เทา Vivid Black, และ สีน้ำเงิน Racing Blue พร้อมการรับประกันคุณภาพตัวรถเป็นระยะเวลา 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร แล้วแต่อย่างใดอย่างนึงถึงก่อน

สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่สนใจ อยากลองสัมผัสว่า “รถซุปเปอร์สปอร์ตสกู๊ตเตอร์” ที่ตรงนิยามมากที่สุดในคลาสเวลานี้จะเป็นยังไง ลองสอบถามข้อมูลกันได้เลยที่ศูนย์บริการและตัวแทนจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ Yamaha ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปครับ