5.ประหยัดกว่า
ด้วยการลดชิ้นส่วนที่ไม่จำเป็น และการขับตรงจากเกียร์ลงล้อเลย จากเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น ก็ทำให้บรรดารถขับเคลื่อนล้อหน้าทั้งหลายส่วนใหญ่มีความประหยัดมากกว่ารถขับเคลื่อนล้อหลัง ส่วนหนึ่งด้วยระบบขับเคลื่อนที่ไม่ซับซ้อนมากมายเหมือนเดิม
ส่งผลให้มีโอกาสที่จะใช้เครื่องยนต์ขนาดเล็กกว่าในการขับเคลื่อนรถ ให้ความประหยัดมากกว่า หรือในกรณีขนาดเครื่องยนต์เท่ากัน การสูญเสียกำลังน้อยกว่า ทำให้ผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องตะบันคันเร่งมาก เพื่อให้ได้ความเร็วที่ต้องการ ทำให้อย่างไรรถขับเคลื่อนล้อหน้า ก็แลดูมีประสิทธิภาพมากกว่านั่นเอง
6.พื้นที่ห้องโดยสารมากขึ้น
ในอดีตรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหลัง ต้องติดตั้งชุดเพลาขับ และการิศวกรรมรถแบบนี้ทำให้ต้องสร้างส่วนที่เรียกว่า “โพรงเกียร์” ในรถทุกคัน
การสร้างโพรงเกียร์ขึ้นมา ทำให้เกิดการสูญเสียพื้นที่ในห้องโดยสารโดยไม่จำเป็น และยังทำให้ห้องโดยสารดูคับแคบในรถที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่
การเปลี่ยนถ่ายมาสู่ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ทำให้ทีมวิศวกรไม่ต้องตีกับทีมออกแบบ ในการสร้างโพรงเกียร์ขึ้นมาให้เกะกะในห้องโดยสาร และมันยังช่วยให้องโดยสารดูสวยงามขึ้นอีกต่างหาก
7.ลดการสั่นสะเทือนและเสียงรบกวนในขณะขับขี่
ด้วยการลดชิ้นส่วนที่จะถ่ายกำลังทางด้านหลัง ทำให้ทีมวิศวกรมีโอกาสจะประสบความสำเร็จอย่างมากในการสร้างห้องโดยสารรถให้เงียบมากขึ้นกว่าแต่ก่อน
การยกเอาชิ้นส่วนเคลื่อนไหวในรถทางด้านหลังออกไปได้ทั้งหมด ยังช่วยลดการสั่งสะเทือนที่เกิดขึ้นในระหว่างการขับขี่ ให้เหลือเพียงเสียงและการสั่นสะเทือนจากถนน ตลอดจนระบบกันสะเทือนเท่านั้น ที่จะผ่านเข้าสู่ห้องโดยสาร
8.ดูแลรักษาง่ายกว่า
การเอาเครื่องยนต์ เกียร์ และระบบขับเคลื่อนใส่ไว้ในที่เดียวกันหมด ทำให้ลดความยุ่งยากในแง่การดูแลรักษาได้ดี รถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้า มีค่าใช้จ่ายดูแลถูกลงเมื่อเทียบกับรถขับเคลื่อนล้อหลัง ที่จะมีค่าชิ้นส่วนเพลาขับทางด้านหลังเพิ่มเข้ามา แถมชิ้นส่วนเหล่านี้ไม่ได้ทำหน้าที่อื่นนอกจากส่งกำลังไปขับ และคุณยังจำเป็นที่ต้องดูแลมันให้พร้อมเสมอด้วย
จาก 8 เหตุผลที่เรากล่าวมา คงเห็นแล้วว่า รถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้าที่แพร่หลายในปัจจุบัน เกิดจาการมองเห็นอนาคตของรถยนต์ยุคใหม่ที่สามารถตอบโจทย์ได้ครบครันลงตัว แต่ว่าก็ใช้ว่ารถยนต์ขับเคลื่อนล้อหลังไม่ดีนะ เดี๋ยวงวดหน้าเราจะมาพูดถึงข้อดี รถขับเคลื่อนล้อหลังกันบ้าง
ช่วยเป็นกำลังใจให้ทีมงาน
