ท่ามกลางรถใหม่ที่ออกมาวางขายในปัจจุบัน ทีมวิศวกร และนักออกแบบได้พยายามนำเสนอสิ่งใหม่ ๆ เข้ามาเพิ่มมูลค่ารถที่เราใช้ หลายอย่างดี หลายอย่างแย่ และไม่เวิร์ค จนบางทีเราสบถว่า จะดีกว่าไหม ถ้าพวกคุณเอาเงินที่พัฒนาสิ่งนี้ไปทำอย่างอื่นดีกว่า ที่เราต้องการ

เสียงของพวกเรามีความสำคัญมาก ต่อพวกเขา มาดูสิว่า คุณเห็นด้วยกับเราไหม

 

1.หน้าจอคำเตือน

หน้าจอคำเตือนการใช้ทัชสกรีนในรถ เหมือนจะดีและใช้เพื่อเตือนสติผู้ขับขี่ แต่นานวันไป เมื่อคุณใช้รถไปนานๆ จะเริ่มรู้สึกรำคาญพวกมัน ที่จะต้องมาคอยกด ยอมรับ หรือรับทราบ ไม่เช่นนั้น หน้าจอ จะไม่ทำงานเป็นปกติให้คุณ

หน้าจอแสดงคำเตือน นี้เป็นส่วนหนึ่งตามมาตรฐานาสากลทางด้านความปลอดภัย ซึ่งใช่มันเหมือนจะได้ประโยชน์ แต่เอาเข้าจริง ก็เหมือนเพียงจะบอกกล่าวถึงแนวทางปฏิบัติในการใช้งาน จริงๆ ทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่า ไม่ควรใช้งานจอเกินความจำเป็น จนเสียสมาธิในการขับขี่ นำไปสู่อุบัติเหตุในการเดินทางได้ การกดยอมรับเข้าใจได้ สำหรับคนที่เพิ่งเปลี่ยนรถใหม่มาช่วงแรก แต่พอนานไป เป็นความรำคาญ

 

2.ทัชสกรีน

ต่อเนื่องจากข้อเมื่อกี้ ทัชกรีน เป็นสิ่งที่มีในรถยุคใหม่หลายรุ่น ผมไม่ใช่พวกโบราณคร่ำครึ แต่ทัชสกรีนควรให้ค่าเพียงการทำงานบางอย่าง ไม่ใช่ทุกอย่างของรถ จริงที่จอทำให้รถทันสมัยมากขึ้น ดูไม่โบราณเหมือนยุค 90 แต่การบรรจุทุกอย่างลงในจอทัชสกรีน ก็ดูมากไปในวันนี้

รถยนต์หลายยี่ห้อ พยายามเอาทุกอย่างที่ต้องควบคุมลงมาอยู่ในชุดจอทัชสกรีน  โดยเฉพาะระบบที่ลูกค้าต้องใช้ในระหว่างการขับขี่ และอาจจะต้องมีการเปิด หรือปิดใช้งาน บ่อยครั้ง อาทิเช่น ระบบรับอากาศ เป็นต้น รถหลายรุ่นพัฒนาให้ทัชสกรีนควบคุมหลายอย่างมากขึ้น อาทิ ปอร์เช่ พัฒนา ทัชสกรีน ให้  ควบคุมช่องปรับอากาศ คุณต้องลากนิ้ว เพื่อลากตำแหน่งช่องลมด้วย หรือ  Tesla  จะเปิดช่องเก็บของต้องใช้ทัชสกรีน แบบนี้น่าจะมากไปนิด

 

3.คันเกียร์ไฟฟ้า

เป็นเวลานับ 10 ปี ตั้งแต่ระบบเกียร์ออโต้ เกิดขึ้นในโลกใบนี้ มาตรฐานชุดเกียร์ แนะนำตำแหน่ง   P R N D   ภายหลังปรับเพิ่มเล็กน้อย ที่ผ่านมา มีความพยายามจากบริษัทรถยนต์หลายรายเพิ่มลูกเล่นให้กับชุดเกียร์ ด้วยการปรับ ตัวคันเกียร์ หรือ  Shifter   ในเชิงกลไก ให้เป็นไฟฟ้าทั้งหมด

2020 Honda CR-V Hybrid

ลูกเล่นชุดคันเกียร์ไฟฟ้าในรถใหม่บางรุ่น จึงออกมาเป็นในเชิง เกียร์ปุ่ม , เกียร์หมุน และ อื่นๆ อีกมากมาย ใช่มันทำให้คันเกียร์สวยงามมากขึ้น แต่เช่นกันสับสนในการใช้งานสำหรับลูกค้า ที่คุ้นเคยกับเกียร์ที่มีด้านจับแล้วลากไปมาระหว่างตำแหน่ง จนในต่างประเทศมีรายงานว่า ลูกค้าบางคนสับสนในการใช้งาน แม้ว่าจะใช้งานรถมานานแล้วก็ตามที บ้างรายงาานว่างง จนเกิดอุบัติเหตุ

 

4.เสียงเครื่องปลอม …

เสียงเครื่องปลอม หรือ เสียงสังเคราะห์ เป็นสิ่งที่บริษัทรถยนต์คิดว่ามันเจ๋ง ทำให้คนรู้สึกถึงอรรถรสในการขับขี่มากขึ้นในรถยนต์รุ่นใหม่ ทั้งที่พวกเขาไม่ได้ซื้อรถแรง หรือเครื่องยนต์  V8  ก็ตาม

เสียงสังเคราะห์ เป็นออพชั่นในรถยนต์สปอร์ตรุ่นเล็ก หลายรุ่น อาทิ  Ford Mustang 2.3 Ecoboost  , Ford Ranger Raptor   และอีกหลายรุ่น มีเป้าประสงค์ทำให้ลูกค้าชื่นใจเวลาพวกเขาป้ายเท้าลงบนคันเร่ง จะได้รู้สึกว่ารถที่พวกเขาใช้ไม่ต่างจากตัวใหญ่นัก

ในมุมหนึ่งมันเหมือนจะดี แต่เสียงที่มาจากเครื่องยนต์แท้จริง และปลายท่อ ที่ดั่งแผดซ่าน กลับเป็นสิ่งที่ให้ความรู้สึกดีกว่ามาก เสียงสังเคราะห์ ยังไง ก็ไม่เหมือน ความรู้สึกเครื่องยนต์จริงๆ มันออกมาจากลำโพงที่ฝังในรถ ถึงจะเสนาะหูอย่างไร เสียงเครื่องที่แท้ทรู ก็นังคือที่สุดอยู่ดี แล้วเราอยากหลอกตัวเองทำไม

 

5.Gesture Control

ผมชอบเรียกว่า “ระบบมือกวัก” ปัจจุบันมีผู้ผลิตบางราย เริ่มแนะนำเข้ามา โดยระบบนี้จะมีตัวจับท่าทางที่คุณใช้ แล้วนำไปประมวลผลกับคำสั่ง ถ้าท่าทางของคุณถูกต้อง จะสั่งการต่างๆ ภายในรถ ราวกับคุณเป็นแฮรรี่ พอตเตอร์ …. เสกมนต์ให้ลูกดู

ในความเป็นจริง ระบบนี้ยังมีข้อจำกัดมาก เนื่องจากการใช้การคาดเดา หลายครั้งจากที่เคยลองเล่นระบบเหล่านี้ ในรถหรูราคาหลายล้านบาท พวกมันไม่สามารถรับรู้การกระทำของเราได้ หรือ รับรู้ก็ทำมาก หรือ น้อยไป กลายเป็นทำให้ใช้งานยากขึ้นไปอีก จนคุณค้นพบว่า บางทีกดปุ่มง่ายกว่า

 

6.SUV ในทุกอย่าง

หลายคนคิดว่ารถ  SUV   เจ๋ง เพราะมันดูสวยงาม และมีฟังชั่นในการใช้งานมากมาย รวมถึงตัวรถขับได้หลายพื้นที่

ด้วยความนิยมมากมายของรถประเภทนี้ ทำให้เกิดรถอเนกประสงค์กลุ่มใหม่ ที่มุ่งเน้นการสร้างส่วนผสมมากขึ้น เราเห็นทั้ง  SUV Coupe, SUV  สายซิ่ง สายสปอร์ต ไปจนถึง   SUV   ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า

honda-BRV-suv

เช่นกัน รถเก๋งบางรุ่นเริ่มหันมาสวมหัวความเป็น SUV   เรียกความสนใจจากลูกค้า มากขึ้น

เราจึงสงสัยว่า ทำไม รถในโลกใบนี้จะต้องมีแต่  SUV   ทั้งที่คนอาจจะต้องการใช้งานรถหลายประเภท ควรมีรถหลายแบบ ตามความต้องการลูกค้า อาจจะจริง ที่รถอเนกประสงค์เป็นที่นิยม  เพียงแต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าลูกค้าอยากได้ในทุกรูปแบบทุกคน ความต้องการคนมีหลากหลาย ขอลูกค้ามีทางเลือกได้ไหม

 

7.เสียงถอยหลังในรถ

รถบางยี่ห้อ ติดเสียงถอยหลัง เตือนคนขับว่า คุณกำลังขับถอยหลังมาให้ในรถ แต่กลับกันระบบไม่มีเสียงเตือนสำหรับคนภายนอก ให้รู้ว่า รถคันนั้นกำลังถอยหลัง … เฮ้ย อะไรกัน

เรื่องนี้เป็นเรื่องน่าขัน ผมคิดว่าผมรู้สึกคนเดียว แต่หลังจากคุยกับเพื่อนหลายคน ต่างรู้สึกเห็นด้วย เพราะทุกคนต่างรู้อยู่แล้วว่า พวกเขากำลังขับถอยหลัง มีทั้ง การทำงานของจอกล้องมองหลัง เสียงกะระยะถอยหลัง ไปจนถึงไฟบอกตำแหน่งเกียร์ คนส่วนใหญ่มักตั้งใจถอยรถอยู่แล้ว ก็ไม่เข้าใจว่า จะเตือนเพื่ออะไร

 

8.ไฟตัดหมอก LED

ในโลกยุคใหม่ ไฟตัดหมอกในปัจจุบัน ในรถยนต์หลายรุ่นถูกพัฒนาให้กลายเป็นหลอดไฟ LED  ทั้งที่ความจริงแล้ว น่าจะเรียกว่า ผิดวัตถุประสงค์ในการใช้งานของมัน

อดีตดั้งเดิมไฟตัดหมอกถูกพัฒนาให้เป็นไฟส่องสว่างเพิ่มเติมในยามขับขี่ในพื้นที่ที่มี ทัศนวิสัยต่ำ ยกตัวอย่างเช่น  ในหมอก หรือเวลาฝน – หิมะตก ไฟตัดหมอก ออกแบบมาเพิ่มความเข้ม และระยะของแสงให้กินพื้นที่มากขึ้นไปได้ไกลชึ้น มันย่อส่วนมาจากสปอร์ตไลท์ในอดีต

ไฟตัดหมอก  Led  อาจฟังแล้วทันสมัย แต่ปัญหาคือ  ส่วนใหญ่จะมาในไฟสีขาว และ คุณสมบัติของไฟ  Led   มีการฟุ้งกระจาย ทำให้ ไฟส่องสว่างขึ้น แต่ไม่จับถนน อย่างที่มันจะเป็น การให้ไฟแสงสีขาว ทำให้มันสังเกตยาก ทนที่จะเป็นไฟสีส้มหรือเหลือซึ่งจะลดโทนของสีแสงได้ดีกว่า เช่นเดียวกับไฟสีเหลือง

ดังนั้นไฟตัดหมอกที่ใช้  LED   จะดีมาก ถ้าส่องสว่างในที่มืด แต่ถ้าขับในฝน หรือหมอกหนา จะให้ประสิทธิผลในการทำงานไม่ดี ซึ่งมันผิดวัตถุประสงค์ไฟชนิดนี้

 

 

 

 



แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่