ในช่วงอากาศร้อนแบบนี้หลายคนอาจจะตระหนักเรื่องยางรถยนต์น้อยมาก อาจด้วยการไม่ต้องกังวลฝนตกถนนลื่น แต่ที่หลายคนไม่ทราบ คือช่วงนี้เป็นช่วงที่ยางมีราคาถูกที่สุด เนื่องจากเป็นช่วงที่ร้านยางจะพยายามขายยางปีเก่าที่เหลือในสต๊อกออกให้หมด เพื่อให้ยางทันสมัยรับปีปัจจุบัน
1.ยางเก่าเก็บ = ด้อยคุณภาพ
เรื่องนี้พูดกันมานานและยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความคิดหลายคนได้ กับ “ยางเก่าเก็บ” ซึ่งกูรูจำนวนไม่น้อยปลูกฝังว่าเป็นยางด้อยคุณภาพกว่ายางใหม่ ทั้งที่ยางเก่าเก็บที่นำมาขายกันก็เป็นยางใหม่ เหมือนกัน
ความเชื่อดังกล่าวพูดต่อกันมาสืบเนื่องจากสภาพอากาศร้อนในประเทศไทย และบางร้านยางอาจจะจัดเก็บยางไม่ดี ทำให้มีความเป็นไปได้ที่ยางรถจะเสื่อมคุณภาพ
ความจริง …. ยางรถยนต์ที่ผลิตออกมาแล้วถูกจัดเก็บเป็นเวลานาน แต่ยังไม่ได้ถูกใช้งาน (ยางใหม่) จะมีการเสื่อสภาพน้อยมาก และมีจากการวิจัยในต่างประเทศ ระบุว่า ยางใหม่อายุกว่า 2 ปี ในการจัดเก็บยังสามารถใช้งานได้ดีเทียบเท่ายางใหม่ผลิตออกมาจากโรงงาน
อย่างไรก็ดียางเก่าเก็บ ฟังดูอาจดูเหมือนไม่ใช่เรื่องดี แต่หลายครั้งยางมีคุณภาพเหล่านี้ สามารถซื้อหาได้ในราคาถูกลง เนื่องจากลูกค้าจำนวนมากเข้าใจผิด ทำให้ช่วงต้นปี ร้านยางต้องโละยางที่มีปีเก่าขายในราคาถูกๆ เพื่อจะได้มียางปีใหม่เข้ามาตอบลูกค้า
2.ยางนุ่มเงียบเกาะถนนด้อยกว่ายางสปอร์ต
อาจมีข้อเท็จจริงอยู่บ้าง ที่ยางสปอร์ตเกาะถนนดีกว่ายางนุ่มเงียบ เนื่องจากการออกแบบยางสปอร์ตจะเน้นสมรรถนะการขับขี่เป็นหลัก มันต้องเกาะถนนมากกว่ายางอื่นๆ ที่บริษัททำในแง่การเข้าโค้งและยามใช้ความเร็วสูง
แต่ความจริงข้อหนึ่งคือ ยางรถยนต์จะเกาะถนนดีมากน้อยแค่ไหน มี 2 ปัจจัยประกอบ คือ 1. สูตรผสมเนื้อยาง , 2.การออกแบบลายดอกยาง ซึ่งปัจจุบันยางนุ่มเงียบบางยี่ห้อมีประสิทธิภาพใกล้เคียงยางสปอร์ต เนื่องจากติดรถหรูที่ต้องการสมรรถนะในการขับขี่ที่ดี และมีข้อดีกว่า คือ ยางเหล่านี้ไม่เสียงดังเมื่อใช้ไปนานๆ
3.หน้ากว้างมาก = เกาะถนนมาก … ต้องรู้จะได้เข้าใจ
หลายคนเปลี่ยนยางใหม่ทั้งทีก็อยากจะได้ยางหน้ากว้าง ด้วยความเข้าใจว่า ยางหน้ากว้างจะมีหน้าสัมผัสกับผิวถนนมากขึ้น ซึ่งเป็นความจริงเพียงบางส่วนเท่านั้น
การเปลี่ยนยางให้หน้ากว้างขึ้นอาจช่วยให้มีประสิทธิภาพในการเกาะถนนมากขึ้น และเบรกหยุดดีขึ้น แต่การเปลี่ยนยางหน้ากว้างขึ้นต้องดูขนาดหน้าสัมผัสล้อด้วยว่าสามารถรองรับได้หรือไม่ เนื่องจากยางกว้างแต่ล้อแคบก็อาจจะทำให้หน้ายางสัมผัสถนนได้น้อยกว่า และไม่มีประโยชน์ที่คุณจะจ่ายเงินเพิ่ม ให้มีหน้ายางกว้างขึ้นแต่มันไม่สามารถสัมผัสถนนได้
4.ยางประหยัดน้ำมัน …ไม่ปลอดภัย
เป็นความคิดของคนจำนวนไม่น้อย มองว่า “ยางประหยัดน้ำมัน” ไม่ปลอดภัย โดยเฉพาะเมื่อพวกมันมาพร้อมเทคโนโลยี ลดแรงต้านการหมุน ซึ่งหมายถึงมีแรงเสียดทานต่ำกว่ายางทั่วไป จนหลายคนคิดว่าพวกมันจะเบรกหยุดได้ไม่ดี
ยางประหยัดน้ำมัน เป็นยางรักษาสิ่งแวดล้อม โดยใส่เทคโนโลยีที่ทำให้ใช้แรงขับที่ล้อน้อยลง เทคโนโลยีลดแรงต้านการหมุน ช่วยลดแรงเสียดทานที่เกิดขึ้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งในหลายนวัตกรรมที่อยู่ในยางประเภทนี้
หากข้อเท็จจริงของการเบรกหยุดรถจะดีหรือไม่ ในแง่ของยางมันขึ้นอยู่กับคนสมบัติของเนื้องยางและดอกยางที่ออกแบบมาให้สัมผัสกับถนน ยิ่งดอกยาง มีพื้นที่มากก็ยิ่งหยุดดี มันไม่ได้เกี่ยวกับเทคโนโลยีลดแรงต้านการหมุนของยางว่าลดแรงต้านแล้วจะเบรกไม่ดี
การเบรกมีปัจจัยเกี่ยวข้อง ทั้งความเร็วที่คุณใช้, สภาพถนน,น้ำหนักรถในเวลานั้น , พฤติกรรมก่อนและระหว่างตอบสนองต่อการหยุดรถ ทั้งหมดล้วนมีปัจจัยสำคัญในการเบรก … ยางเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งเท่านั้น
5.ยางต่างประเทศ ดีกว่ายางไทย
คนไทยชอบของนอก เป็นสิ่งที่ใช้เพิ่มมูลค่ากับผลิตภัณฑ์ได้เสมอ ข้อเท็จจริงแล้วยางรถยนต์ที่ผลิตออกมาแต่ละบริษัทอาจจะออกมาด้วยกรรมวิธีแตกต่างกัน ตามแต่ละโรงงานที่อาจมีเครื่องมือต่างกัน แต่ทั้งหมดจะต้องมีการตรวจสอบและผ่านคุณภาพเดียวกันก่อนวางจำหน่ายที่ร้านตัวแทน
แถมปัจจุบันองค์ความรู้ของแต่ละบริษัทมีการถ่ายทอดระหว่างกันเพื่อให้สอดคล้องในแง่คุณภาพ ดังนั้นยางรถยนต์รุ่นเดียวกัน ไม่ว่าจะผลิตที่ มาเลเซีย, อินโดนีเซีย ไทย หรือญี่ปุ่น แทบจะไม่ต่างกัน
6.ยางโนเนม คุณภาพต่ำ
เป็นอีกเรื่องที่เข้าใจผิดกันมานาน และมักเป็นความคิดเข้าใจผิดไปเองของลูกค้าในแง่ความมั่นใจในการใช้งาน ว่า ยางราคาถูกยี่ห้อไม่ขึ้นชื่อพวกมันจะมีคุณภาพต่ำกว่า ยางชั้นนำทั้งหลาย
ข้อเท็จจริงคือ ยางชั้นนำส่วนใหญ่มีการพัฒนาต่อเนื่องมายาวนาน มีความรู้และเงินทุนในการคิดค้นศึกษาและวิจัยมากกว่า มีบริษัทขนาดใหญ่กว่า จึงต้องมีการรักษาคุณภาพสินค้าอย่างต่อเนื่อง
สำหรับยางรถยนต์โนเนม ซึ่งบางยี่ห้ออาจเพิ่งเข้ามาจำหน่ายในบ้าน บางรุ่นบางยี่ห้อ มีคุณภาพไม่แพ้ ยางชั้นนำก็มี ยางเหล่านี้มีราคาถูกเพราะค่าทำการตลาดน้อยกว่า จึงไม่ต้องนำมาคิดเป็นต้นทุนบวกเพิ่มเข้าไป ดังนั้นของดีราคาถูกมีจริง แต่คุณต้อง ศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจ
7.เปลี่ยนยางเร็วมั่นใจกว่า
ผมว่ามีคนจำนวนไม่มากที่ใช้ยางจนหมดเกลี้ยงจริงๆ และนั่นเท่ากับคุณกำลังปาเงินทิ้งไปฟรีๆ หลายคนมักดูสภาพยางแล้วคิดว่าน่าจะถึงเวลาต้องเปลี่ยนแล้ว ทั้งที่อาจจะยังไม่ถึงเวลา
จริงอยู่ยางใหม่ย่อมให้ความมั่นใจในการขับขี่ดีกว่ายางเก่า ลดความเสี่ยงอันตราย ยางแตก / ยางระเบิดได้ดี แต่ยางสมควรถึงเวลาต้องเปลี่ยนหรือไม่ ต้องดูสภาพเนื้อยางว่า เล็บจิกแล้วยังนิ่มหรือไม่ ดอกยางถึงตำแหน่งสะพานยางหรือยัง แล้วยางมีแตกลายงา หรือเปล่า
ถ้าทุกอย่างยังปกติคุณก็สามารถใช้ยางต่อไปได้ โดยไม่จำกัดระยะทาง แม้ว่าความจริงยาง 1 ชุดสมควรใช้เพียง 3 ปี หรือ 50,000 ก.ม. แต่ถ้ามันยังใช้ได้ จะรีบเสียเงินทำไมครับ
เรื่องความเข้าใจผิดเกี่ยวกับยางมี เยอะมาก และยังต้องการความเข้าใจอย่างแท้จริง การซื้อของเป็นสิทธิของแต่ละคนพึงมี แต่คงจะดีกว่าถ้าเรารู้จักใช้เงินให้ถูกต้องและคุ้มค่าที่สุด
