ช่วงเดือนทีผ่านมา ทางค่าย Haval หนึ่งในแบรนด์ ของ Great Wall ได้เปิดตัว อย่างเป็นทางการ Haval H6 PHEV ใหม่ รถรุ่นนี้เรียกว่า ออกมาตอบโจทย์ คนที่มองหารถยนต์อเนกประสงค์ และยังมีความต้องการรถยนต์ไฟฟ้า

Haval H6 PHEV

การเปลี่ยนแปลงในรถรุ้นรีเชื่อว่า จะเห้นตามสื่อต่างๆ ไปมากพอสมควรแล้ว แต่วันนี้เราจะมาสรุป ว่า หลังจากลองขับ Haval H6 PHEV ยังจะน่าสนใจไหม กับราคาขายค่าตัว 1,699,000 บาท

  1. ขับไฟฟ้าได้ไกล จริง
  2. พละกำลังเหลือใช้
  3. ช่วงล่างที่ดีขึ้น
  4. หน้าตาดั่งรถยุโรป
  5. ภายในที่ไม่แตกต่าง

1.ขับไฟฟ้าได้ไกลจริง

ตั้งแต่มีการเปิดตัวรถรุ่นนี้ ออกมา หลายคน ให้ความสนใจ ในรถยนต์ Haval H6 PHEV ในฐานะรถยนต์อเนกประสงค์ ที่สามารถขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วนได้ ในรูปแบบ PHEV

Haval H6 PHEV

โดยเบื้องต้น เวอร์ชั่นไทย มีความแตกต่างจากเวอร์ชั่นจีน ตรง ขนาดแบตเตอร์รี่ที่มีความใหญ่กว่า ตามการเคลมของทาง Haval สามารถขับได้ไกลสูงสุด 200 ก.ม. ต่อการชาร์จ

บางคนอาจจะว่า มันไม่น่าเป็นไปได้ เพราะนี่ถือว่า ข้ามหน้าข้ามตาแบรนด์ยุโรป ที่ตอนนี้ สามารถขับได้ ราวๆ 100 ก.ม./การชาร์จ

แต่จากลองขับขี่ในการทดสอบ เราพบว่า พวกเขาสามารถทำได้จริง แม้ว่าจะไม่ได้ ลองขับไฟฟ้าล้วนไกล 200 ก.ม.​แต่ จากที่ลองขับ เราพบว่า จากบางนา ไปยัง อำเภอ บางปะอิน อยุธยา นั้น พอจะเป็นไปได้ ไม่ได้เรื่องเหนือความจริง แต่อย่างใด โดยจากการขับ สื่อ พบว่า สามารถขับไฟฟ้าได้ราวๆ 130-150 ก.ม./การชาร์จ ซึ่งเป็นระบะที่เหนือความคาดหมาย

Haval H6 PHEV

โดยหาก เราไม่ใช้ โหมดไฟฟ้าล้วน รถจะทำงานในรูปแบบ Paralelle Hybrid ทำให้ สามารถใช้ไฟฟ้า ผสานกับการทำงานของน้ำมันตลอดทุกเส้นทาง

นอกจากนี้ หัวชาร์จในรถคันนี้ ยังเป็นรถจีน รุ่นแรกที่ให้หัวแบบ DC มาด้วย ทำให้สามารถชาร์จไฟฟ้าได้เร็ว

2.พละกำลังเหลือใช้

ในแง่พละกำลัง ในการขับขี่ ทั้งหมด เป็นหน้าที่ของเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบชาร์จ พร้อม มอเตอร์ไฟฟ้า ที่มีกำลังขับสูงสุด 326แรงมา้ และแรงบิดสูงสุด 530 นิวตันเมตร

Haval H6 PHEV

ถ้าสังเกต จะพบว่ากำลังแรงบิดรวมสูงสุด ไม่มีความแตกต่างกัน สักเท่าไรนัก ทางด้านแรงม้า มีการปรับเพิ่มขุ้น ส่วนสำคัญ มาจากมอเตอร์ไฟฟ้า ที่ถุกจูนให้ใหญ่ขึ้น และ แบตเตอร์รี่ ที่มีขนาดใหญ่ จนสามารถให้พลังมอเตอร์ได้เต็มประสิทธิภาพในการขับขี่นั่นเอง

เรื่องอัตราเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม. ยังไม่ได้ทดสอบลองดู แต่ต้องพูดตามตรงว่ามันเร่งแรงเร้าใจ อยู่พอสมควร อาจไม่ได้ถึงขนาด ดึงหลังติดเบาะ ความรู้สึกเหมือนคุณพุ่งเร็วๆ ไปข้างหน้า เหยียบแล้ว ตอบสนองการขับขี่ได้ดี ตลอดการเดินทาง

3.ช่วงล่างที่ดีขึ้น

ทางด้านการปรับปรุงอีกอย่าง ที่เห็นได้ชัดในรถยนต์ Haval H6 PHEV เทียบกับตัวไฮบริด ช่วงล่างคันนี้ ดีกว่าเยอะมาก ..​

สาเหตุสำคัญ​ก้มาจากตัวรถ มากขึ้นจากแบตเตอร์รี่ก้อนโต และ การติดตั้งแบตเตอร์รี่ก้วางไว้ใต้ห้องโดยสาร รวมถึง กำลังขับมากเป็นเงาตามตัว ทำให้วิศวกรชาวจีน ต้องตัดสินใจเปลี่ยนการเซทช่วงล่างใหม่ทั้งหมด

ผลที่ได่ คือ ช่วงล่างที่ให้ความเฟิร์มมั่นใจในการขับขี่ดีกว่าเดิม เป็นช่วงล่างที่ทุกคนจะต้องชื่นชอบ เมื่อได้ขับ เอาอยู่ในทุกช่วงความเร็ว ดีพอจะลดการโคลงตัวได้ในระดับหนึ่ง จนเป็นระบบกันสะเทือน ที่ไม่ว่าใคร ที่เป็นนักขับก็น่าจะชอบ ส่วนในแง่มุมการโดยสาร ก็มีความแข็งขึ้นมาจากเดิมสักหน่อย อาการ มาทางรถยุโรปมากขึ้น

4.หน้าตาดังรถยุโรป

จากสมรรถนะ มาดูทางด้านตัวรถกันบ้าง จุดต่างรถคันนี้อยุ่ที่การให้ช่วงล่างหน้าแบบ star Matrix Grill กระจังหน้านี้ เป็นกระจังหน้า ที่ออกมาได้ลงตัวมากพอสมควร คล้ายกับรถเมืองน้ำหอม

Haval H6 PHEV

น่าเสียดายที่มันไม่มีการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ในตัวรถ ยกเว้น ตรา PHEV ที่พอจะบอกได้ว่าคันไหน แปลก แตกต่างในตัวมัน

5. ภายในไม่แตกต่าง

ภายนอกว่าแน่แล้ว ภายใน ยิ่งไปกันใหญ่ เข้ามาครั้งแรก เรารู้สึกว่า นี่มัน ก็ h6 เดิมๆ นี่หว่า ไม่แตกต่างจากรุ่นก่อน ไม่ว่าจะการตบแต่งเบาะ ลูกค้าไม่รู้สึกถึงความพิเศษสักเท่าไรนัก

แต่เมื่อมาเล่นที่หน้าจอ เราจะพบว่า มันมีความแตกต่างอยู่บ้าง โดยเฉพาะฟังชั่นที่เกี่ยวเนื่องกับระบบไฮบริด โหมดที่ให้เลือกระหว่างขับไฟฟ้าหรือ ปกติ , การบอกสถานะการทำงาน ,​สถานะแบตเตอร์รี่ ถูกเพิ่มเข้ามา ในรถคันนี้

หากนั่นไม่ใช่กับการออกแบบ ตัวรถ ที่น่าจะมีอะไรสะดุด ตาความแตกต่างบ้าง

โดยสรุป Haval H6 PHEV มีความเด่น เรื่องการขับด้วยไฟฟ้าล้วนที่มีระยะไกลที่สุดในตลาด และกำลังขับที่มากที่สุดในกลุ่มราคาใกล้เคียงกัน หาก เรื่องงานออกแบบตัวรถ ไม่ได้เป็นหัวใจหลักที่เน้นมากนัก จนคุณอาจรู้สึกว่า มันน่าจะแตกต่างกว่านี้หน่อย

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่