เริ่มทยอยจำหน่ายในแต่ละประเทศแล้วสำหรับMitsubishi Triton เจนที่ 6 และเป็นการกลับมาทำตลาดญี่ปุ่นอีกครั้งหลังห่างหายไปถึง 12 ปี

ล่าสุด Mitsubishi เปิดวันขายอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ โดยขายในร่าง 4 ประตู Double Cab สไตล์เดียวกับเวอร์ชันไทยตั้งแต่ดีไซน์กระโปรงหน้าสุดแกร่ง ด้านข้างตัวถังในสไตล์แนวราบตกแต่งเหนือซุ้มล้อหน้า-หลังระยะโอเวอร์แฮงค์สั้นลงอัปเกรดหล่อด้วยชุดแต่งรอบคันไม่ว่าจะเป็น ชุดกระจังหน้าสีดำเข้มพร้อมตราโลโก้ทรีไดมอนด์สีเงินและตัวอักษร Mitsubishi ขอบกระจังหน้าสไตล์ Dynamic Shield แบบโครเมียม และสีดำเงา ไฟหน้า LED 3 ดวงพร้อมไฟ DRL LED 3 ดวงบนขอบฝากระโปรงหน้า

ชุดไฟตัดหมอกหน้า LED ล้อและยางสีดำและสีเงิน 18 นิ้ว พร้อมยาง 265/60 R18 พร้อมชุดโครเมียมและชุดแต่งสีดำทั้งคันตั้งแต่กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED ที่เปิดประตู ที่เปิดฝากระบะท้าย สปอยเลอร์บนขอบกระบะท้ายพร้อมไฟท้าย LED แนวตั้งดีไซน์ใหม่รูปตัว H และกันชนหลังสีเงิน พร้อมชุดแต่งเพิ่มเติมสีดำทั้งกรอบชุดไฟตัดหมอกหน้า LED คิ้วขอบล้อสีดำ ราวหลังคาสีดำ กับสปอร์ตบาร์ทูโทนสีดำ/เงิน และกันชนหลังสีดำในรุ่น GSR

ภายในห้องโดยสารและแผงคอนโซลหน้าใส่ใจในทุกรายละเอียดเน้นความสะดวกสบายในการหยิบจับได้อย่างกระชับมือ พร้อมออปชันชุดมาตรวัด LCD พร้อมจอแสดงข้อมูล MID ขนาด 7 นิ้ว ช่องต่อ USB ด้านหน้าแบบ Type-C / Type-A จุดละ 1 ตำแหน่งด้านหน้าและด้านหลัง 1 จุด แท่นชาร์จมือถือไร้สายอยู่ที่ด้านล่างของแผงควบคุม จอสัมผัสขนาดใหญ่ทั้งแบบ 9 นิ้วเชื่อมต่อทั้ง Android, Auto Apple Carplay ไร้สาย รองรับ FM/AM/MP3 พร้อมระบบนำทางในตัวจอ ลำโพงติดรถ 6 จุด พวงมาลัยสามก้านแบบมัลติฟังก์ชันปรับได้ 4 ทิศทาง เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแยกอุณหภูมิ ซ้าย-ขวา พร้อมช่องแอร์หมุนเวียนอากาศบนหลังคาตอนหลัง เบาะนั่งคนขับปรับด้วยระบบไฟฟ้า 8 ทิศทางพร้อมดันหลังปรับด้วยไฟฟ้า หุ้มเบาะกึ่งหนังแท้สีดำ มือจับหลังคา 8 ตำแหน่ง รุ่น GSR ต่างจากใช้โทนสีดำเข้มทั้งหมดต่างจากไทยที่ใช้โทนสีดำ/ส้มในส่วนของชุดคอนโซลหน้าและแผงประตูวัสดุบุหนังสัมผัส พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้าน เบาะนั่งทูโทนหุ้มกึ่งหนังแท้

ขุมพลังแรงสุดด้วยเทอร์โบคู่คลีนดีเซลใหม่ 2.4 ลิตร 4N16 High Power ให้กำลัง 204 แรงม้าแรงบิด 470 นิวตันเมตร มีระบบลดการเร่งปฏิกิริยาเพื่อช่วยลดระดับการปล่อยไอเสียโดยการฉีดของเหลวไอเสียดีเซล (AdBlue®) เข้าไปในระบบไอเสีย หรือ SELECTIVE CATALYTIC REDUCTION (SCR) คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมดการขับขี่แบบ Sport มีเฉพาะขับเคลื่อนสี่ล้อ Super Select 4WD II มีการตรวจจับแรงบิดด้วยระบบลิมิเต็ดสลิปที่เฟืองท้าย (Limited Slip Differential: LSD) ช่วยกระจายกำลังด้วยอัตราส่วนร้อยละ 40 ที่ล้อหน้าและร้อยละ 60 ที่ล้อหลัง สร้างความมั่นใจในสมรรถนะการยึดเกาะถนนและประสิทธิภาพในการเข้าโค้ง

พร้อมด้วยโหมดการขับขี่ ใหม่! 7 โหมด ครอบคลุมการขับขี่ทั้งแบบออนโรด และแบบออฟโรด โหมดการขับขี่ Normal แบบ Eco Gravel Snow Mud Sand และ Rock พร้อมระบบ S-AWC หรือ Super All Wheel Control ขับเคลื่อนสี่ล้อขับเคลื่อนสีล้อตลอดเวลา กระจายแรงลงสู่ล้อทั้ง 4 ได้อัตโนมัติอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเข้าโค้ง ระบบจะช่วยเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ เกาะถนนอย่างแม่นยำ ทำให้คุณมั่นใจในทุกสภาพถนน พร้อม ควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC) และ ความปลอดภัยรอบคัน โดยขายสองรุ่นย่อยทั้งรุ่น GLS และ GSR ในราคาเริ่มต้น 4,988,000-5,401,000 Yen หรือราว 1,225,000-1,325,000 บาท

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่