Lotus ค่ายรถอังกฤษประกาศกร้าวสู้ตลาดรถอีวีอย่างเต็มรูปแบบหลังจากส่งเอสยูวีอีวีรุ่นแรกของค่ายอย่าง Lotus Eletre ครั้งนี้ส่ง Lotus Emeya ทำตลาด

Lotus Emeya ซีดานไฟฟ้าพัฒนามาจากโครงการ Lotus Type 133 โดยงานดีไซน์จะคล้ายกับรุ่น Eletre ตั้งแต่ ไฟหน้า LED ทรงบูมเมอแรง พร้อมไฟท้าย LED ดีไซน์โค้งมนแนวยาว กระจกมองข้างขนาดเล็กสามารถดูได้จากกล้องมองภาพในรถ หลังคาพาโนรามิกซันรูฟบานใหญ่ และที่สำคัญรถคันนี้เป็นแบบกระจก Hardtop ไร้กรอบ

ภายในนั่งได้ 4 หรือ 5 ที่นั่ง พร้อมออปชันแบบเดียวกับ Lotus Eletre จอสัมผัสขนาดใหญ่ 15.1 นิ้ว OLED พร้อมลำโพงคุณภาพจาก KEF มากสุด 23 จุด ให้ระบบเสียงสามิติ ที่ละเอียดมาก มาตรวัดดิจิทัลที่มีขนาดเล็ก 1.1 นิ้วทั้งสองฝั่งคนขับและคนนั่งพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 4 ก้านทรงล้ำอนาคต ไฟตกแต่งภายในห้องโดยสาร Ambient Light ช่องเก็บของหลากจุดที่หยิบวางง่ายดาย จอแสดงข้อมูลบนคอนโซลหน้า Heads Up Display

ขุมพลังไฟฟ้าอาจยกมาทั้งหมดจาก Lotus Eletre ด้วยความจุแบตเตอรี่ Lithium-ion 112 kWh ขับเคลื่อนสี่ล้อ มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ Permanent magnet แต่มีความแรงถึงสองรุ่นเวอร์ชันตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นและรุ่น S ให้ความแรงสูงสุด 612 แรงม้า แรงบิด 710 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุด 600 กม./ชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน WLTP พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ Single Speed

รุ่นท็อปสุดตระกูล R ให้ความแรงสูงสุด 918 แรงม้า แรงบิด 985 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสุด 265 กม./ชม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ต่ำกว่า 2.5 วินาที 80-120 กม./ชม. วิ่งไกลสุด 490 กม./ชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน WLTP พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ Single Speed ที่ล้อหน้าและ Two Speed ที่ล้อหลัง

การชาร์จไฟด้วยกำลังไฟแบบกระแสตรง DC สูงสุด 350 KW ชาร์จ 10-80 % ในเวลาสั้นๆเพียง 20 นาที สามารถวิ่งไกลสุดได้ 400 กม. และชาร์จแบบกระแสสลับ AC ด้วยกำลังไฟสูงสุด 22 kW ชาร์จ 0-100% ในเวลา 5.8 ชม. โดยสร้างจากแพลตฟอร์ม Electric Premium พร้อมช่วงล่างถุงลม

Lotus Emeya จาก LOTUS Technology เปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 7 กันยายน และจรุ่นใหม่อีกสองรุ่นจะตามมาทั้งแบบเอสยูวีขนาดเล็กในปี 2024 และสปอร์ตคาร์ในปี 2025

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่