ความเร็ว 120 กม./ชม. คือขีดจำกัดสูงสุดที่ผู้ขับรถสามารถแล่นบนมอเตอร์เวย์ ซึ่งก็มีบางคนพูดว่ายังเร็วไม่พอ อีกส่วนเห็นต่างว่าแค่นี้พอ ท้ายสุดแล้วอะไรดีกว่า?

การจราจรบนท้องถนนประเทศไทยมีอะไรให้ผู้ขับขี่อย่างเราท่านแปลกใจเสมอ ส่วนใหญ่แล้วสิ่งที่พบเจอได้บ่อยที่สุดเห็นจะเป็นเรื่องรถยนต์ขับเร็ว ถ้าหากเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านรอบข้าง บ้านเรานี่แหละขาซิ่งครองถนนกันไปทั่วทุกภาค โดยเฉพาะมอเตอร์เวย์ที่มีรถหลายคันวิ่งเกินความเร็ว 120 กม./ชม. ทั้งๆ ที่มันถูกกำหนดเอาไว้ตามกฏหมาย…

เวลาพูดถึงความเร็วที่กฏหมายกำหนดทีไรหลายคนก็เริ่มหัวร้อน บางท่านให้ความเห็นว่าถนนบ้านเรามีมาตรฐานดีขึ้นกว่าสมัยก่อน ช่วยให้รถทำความเร็วได้อย่างปลอดภัย ไอ้การวิ่ง 90 กม./ชม. บนถนนหลวง หรือวิ่ง 120 กม./ชม. บนมอเตอร์เวย์ มันเป็นเรื่องล้าหลัง บางคนไล่ให้ไปดูตัวอย่างประเทศฝั่งยุโรปกันทั้งนั้น ว่าแต่แท้จริงแล้วท้องถนนประเทศไทยมีศักยภาพให้รถทำความเร็วระดับนั้น และมอบความปลอดภัยได้เหมาะสมจริงหรือ?

จำกัดความเร็ว

ประเทศไหนบ้างที่วิ่งได้เร็วเกิน 120 กม./ชม. บนมอเตอร์เวย์หรือทางด่วน

เยอรมนีจะโผล่เข้ามาในสมองของนักขับรถผู้รักความเร็วทันที เนื่องจากเมืองเบียร์มีถนนข้ามเมืองนามว่า Autobahn ที่ถูกสร้างขึ้นอย่างประณีตจากวิศวกรรมระดับสูงแห่งชนชาติอินทรีเหล็ก แน่นอนว่ามันเรียบเนียนไร้รอยต่อเพียงพอให้คุณขับสปอร์ตคาร์ ไต่ระดับความเร็วไปถึง 300 กม./ชม. แบบไม่ต้องเหนื่อย ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังลดทอนปัจจัยที่เสียงอันตราย ด้วยการทำให้รถวิ่งตรงยาวโดยไม่ต้องชะลอ โดยการเอาจุดกลับรถออก ทำรั้วขึ้นมากั้นข้างทางกับถนน และสร้างชุมทางยกระดับไม่ให้รถต้องหยุดชะงัก

จำกัดความเร็ว

อย่างไรก็ตาม ออโต้บาห์นบางช่วงจะมีการจำกัดความเร็ว ส่วนใหญ่แล้วเป็นบริเวณการจราจรหนาแน่นช่วงวิ่งผ่านเมือง แต่ส่วนใหญ่แล้วสามารถขับได้ไม่จำกัด

ถ้าดูแค่ประเด็นความสมบูรณ์เพอร์เฟ็คของถนนอย่างเดียวคงไม่ได้ เพราะสาเหตุที่ทำให้ออโต้บาห์นเป็นถนนหลวงที่ไม่จำกัดความเร็ว หลักสำคัญที่สุดมาจากวินัยการจราจรของประชาชนที่นั่น ทุกคนได้ผ่านการอบรมจนได้ใบอนุญาติขับขี่ในระดับความรู้เทียบเท่ากัน นั่นทำให้การขับรถเร็วมีความปลอดภัยต่างชาติอื่นๆ

จำกัดความเร็ว

ประเทศไทยจะปรับกฏหมายให้วิ่งเร็วเกิน 120 กม./ชม. ได้หรือไม่?

ถ้าตอบตามตรรกะก็ต้องตอบว่าได้ แต่ขึ้นอยู่กับผู้ออกกฏหมายอย่างรัฐบาลว่าจะคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้ เพราะหัวใจหลักของความปลอดภัยบนถนน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความเร็วเพียงอย่างเดียว หากแต่เป็นวินัย จิตสำนึก และลักษณะนิสัยของผู้ใช้รถในประเทศ 

จำกัดความเร็ว

โดยทุกวันนี้เราพบเห็นข่าวขับรถปาดหน้าแล้วลงมาทำร้ายคู่กรณี หรือเบียดให้รถพลิกค่ำ ลองคิดดูหากคนในชาติจำนวนมากยังคิดว่า ฉันขับในระดับความเร็วถูกต้องตามกฏหมาย ทำไมถึงต้องเบี่ยงรถหลบเข้าเลนซ้ายด้วย นี่คือปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการจราจรอย่างมาก หากปรับความเร็วให้วิ่งเกิน 120 กม./ชม. ได้แล้ว ไม่อยากจะคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

ท้ายที่สุดแล้วความเร็วที่เพิ่มขึ้น ความรับผิดชอบต่อสังคมโดยรวมยิ่งต้องมากขึ้นตาม มิฉะนั้นแล้วคุณที่ขับรถยนต์อยู่ อาจกลายเป็นฆาตกรบนท้องถนนที่สังหารชีวิตคนอื่นด้วยความเร็วก็เป็นไป

ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่