เผลอแวบเดียว เราก็เดินทาง มาถึงกลางปี 2024 กันอีกแล้ว ในปีนี้ นับเป็นปีที่การแข่งขัน ค่อนข้างมีความดุเดือดพอสมควร ในการแย่งชิงลูกค้าคบหารถใหม่ และในครึ่งปีหลังจากนี้ นับว่าเป็นเกม ที่ต้องจับตาให้ดี เพราะ เราจะมีทั้งรุ่นใหม่ ปรับโฉม และ แบรนด์ใหม่ๆ เข้ามาทำตลาด อีกมากมายพอสมควร
GWM Poer Sahar
ขอเริ่มจากบรรดา รถที่เตรียมเปิดตัวก่อน โดยมีการประกาศไปแล้ว ช่วงมอเตอร์โชว์ หนึ่งในนั้น คือ เจ้า GWM Poer Sahar
กระบะไฮบริด จากจีน รุ่นแรก โดยใต้เรือนร่างของมัน ก็คือขุมพลังจาก Tank 500/300 ที่เข้ามาประจำการในร่างกระบะคันนี้ เอาใจคนไทย ด้วยสไตล์การตบแต่งมาในแนวหรู เน้นขับสบาย พรีเมี่ยม และมีความแตกต่าง จากที่เราเคบสัมผัสก่อนหน้านี้
ตอนมอเตอร์โชว์ รถรุ่นนี้เปิดรับจองไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และยังเปิดอยู่ในปัจจุบัน ผ่านแอพพลิเคชั่น GWM ถ้าสนใจ ก็เข้าไปแสดงเจตจำนงค์จองกันได้เลย
BYD Seal U
ทางด้านแบรนด์จีน BYD ก็ขยับ ชัดเจนด้วย BYD Seal U ว่าที่รถยนต์ไฮบริดเสียบปลั้ก ที่ออกมมาโชว์โฉม และพร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในปีนี้่วงราวๆ ไตรมาส 3
จุดขาย BYD Seal U อยู่ที่การติดตั้งเครื่องยนต์ และแบตเตอร์รี่ ภายใต้ การแนะนำ เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด DM-I เจนที่สี่ เข้าทำตลาดอย่างเป็นทางการ ด้วยคำคมว่า น้ำมัน 1 ถัง วิ่งได้ 1,000 กิโลเมตร อย่างแน่นอน
แถมขนาดตัวรถ ก็ใหญ่มากพอสำหรับการเดินทางไกล นั่งสบาย และยังโดดเด่นในภาพลัก๋ษณ์สปอร์ตในแบบความเป็นรถยนต์อย่าง BYD Seal ทำให้ ทางแบรนด์ น่าจะสนใจในการนำรถรุ่นนี้เข้ามาขายคนไทย
ที่ผ่านมาในงานมอเตอร์โชว์ รถรุ่นนี้ เปิดตัวพร้อมให้จับจองเป็นเจ้าของด้วยโปรโมชั่นเร้าใจ และ ยืนยันว่า อย่างชัดเจนว่า จะขายในปีนี้ อย่างแน่นอน
MG Maxus 7
แก๊งค์ รถจีน ยังไม่หมด เพียงแค่นี้ ทาง ฝั่ง MG ก็ยังมี MG Maxus 7 ว่าที่พ่อบ้านไฟฟ้า เตรียมเข้ามาขายในไทยกลางปีนี้ จริงๆ แล้ว ทางเอ็มจี แบไต๋ ว่าจะเปิดตัวในเดือน พฤษภาคม -มิถุนายน แต่ตอนนี้ยังเงียบอยู่ ยังไม่มีข่าว แต่ก็เปิดให้ลูกค้าจองไป ตั้งแต่เมื่อช่วงมอเตอร์โชว์เช่นกัน
เบื้องต้น ตัวรถ สเป็คเดียวกับ MG Maxus 9 จงทุก ประการ แค่คันเล็กกว่า เน้นใข้งานในเมือง เอาใจสายครอบครัว มองหา รถใช้งานขับทุกวัน
การวางหมากขาย MG Maxus 7 ของ เอ็มจี ดูจะเป็นเกม ปิดประตูตีแมว ค่าย ญี่ปุ่นที่เตรียม ย้ายมาขาย รถทรงพ่อบ้าน เปิดเซกเม้นท์ นี้กลับมาอีกครั้ง
Neta X
ไหนๆ ก็พูดถึงค่ายจีนแล้ว ก็ไปต่กันที่ Neta หลังจาก ปล่อยน้องน้อย ตัวใหม่ ออกมา ในปีนี้ทางเนต้า มีแผน สำหรับ รถยนต์ไฟฟ้า Neta X จะเข้ามาทำตลาด รถยนต์อเนกประสงค์ โดยมีราคาจำหน่าย ไม่ข้ามล้านบาท ตามที่เคยปรากฏเป็นข่าว มาตั้งแต่ในช่วงงานมอเตอร์โชว์ 2024 ที่ผ่านมา
เบื้องต้น ตัวรถ จะจัด อยู่ในคลาส ราวๆ BYD Atto 3 มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 201 แรงมา้ แรงบิดสูงาุด 310 นิวตันเมตร 1 การชาร์จ สามารถวิ่งไกล 500 ก.ม. ตามมาตรฐาน NEDC
Neta X คือ ร่างสอง ของ NetaU Pro ที่เคยว่าจะเข้าไทย คันนี้ยืนยันว่ามาขายแน่ในราวๆ ช่วงกลางปีนี้ช้สุด คือไตรมาส 3 ก็มาดู สิว่า จะเข้ามาจริงหรือไม่
Nissan serena
ทางด้าน ฝั่งรถญี่ปุ่น จะเปิดเกม ครึ่งหลังปีนี้ ก็มีหลายคัน เริ่มจาก ว่าที่รถ่นใหม่ที่คาดว่าจะเข้ามาขายในไทย นั่นก็น่าจะเป็น Nissan Serana พ่อบ้านยอดนิยม เมืองญี่ปุ่นที่ตกเป็นข่าว มานานว่า จะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย
โดยจะนำเข้า จากข้างบ้านมาเลเซีย มาลองชิมลาง ด้วยตัวรถในรุ่นก่อนที่จะเปลี่ยนโฉมในญี่ปุ่น ขายไปพลางๆในรูปแบบ เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ไฮบริด ซึ่งคาดว่า น่าจะได้เห็นในปีนี้ อย่างแน่นอน หลังจากคุยกันมาเป็นปี ว่าจะเข้ามาขาย แน่นอน ในปีนี้
Mitsubishi x-Force
ทางด้าน มิตซูบิชิ ปีนี้ ก็น่าจะมีน้องเล็ก โผล่มาอีกรุ่น ถ้าไม่มาภายในปีนี้ ก็ต้องเป็นปีหน้าต้นปี กับ รถยนต์อเนกประสงค์ขนาดเล็ก Mitsubishi X-Force ที่เตรียมออกมาวางจำหน่ายให้คนไทยได้ซื้อ หลังจากเปิดขายในรอบๆ บ้านเราไปหมดแล้ว
จุดขายของ X-Force อยู่ที่ทรงรถสุดล้ำ นำสมัยในบรรดารถรุ่นอื่นๆ ที่อยู่ในคลาสเดียวกัน พร้อมฟังชั้นที่พอจะลุยได้ในระดับหนึ่ง อย่างน้อยที่สุด ด้วยตัวรถที่มีการออกแบบมายกสูงจากพื้นพอสมควร น่าจะช่วยตอบลูกค้าชาวไทย ที่มองหา รถกลุ่มนี้
เบื้องต้น คาดว่า ด้วยกฏหมายไอเสีย ที่เข้มงวดในบ้านเรา จะทำให้ X-Force รุ่นขายไทย อาจจะเป็นเครื่องยนต์ไฮบริด ซึ่งก็น่าจะเป็น เครื่องยนต์เดียวกับ Xpander HEV ที่เปิดตัวออกมา เมื่อต้นปีที่ผ่านมา นั่นเอง
Toyota Prius Gen5
คันนี้ ถูกพูดถึงมาสักพัก ว่าจะเข้ามาขายในไทย ตั้งแต่เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว และ ดูแล้วก็มีแววสูงมาก ที่ขะกลับมาทำตลาดอีกครั้ง
Toyota Prius แม้ว่า จะฟังดูทับไลน์ กับ Corolla Altis ไฮบริดที่ขายในไทย มาหลายปี แต่เอาความจริง มันก็เป็นรถที่หลายคนยังชื่นชอบ ใช้งานดี ไม่งอแงตามสไตล์ โตโยต้า มีความประหยัดพอประมาณ
โฉม ที่ 5 เป็นรุ่นที่ยกระดับ พรีอุสไปอีกก้าว ด้วยทรงสปอร์ตจ๋าๆ หลักอากาศพลศาสตร์ ยกมาใส่จัดเต็ม รวมถึง เครื่องยนต์บล็อกใมห่ ที่ประหยัดในระดับที่มีการพูดว่า ดีกว่า รถยนต์ไฟฟ้า เมื่อคำนวนค่าใช้จ่ายต่อกิโลเมตร และไม่เสียเวลาในการชาร์จด้วย
อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะตกเป็นข่าวลือว่า จะมาขายในปีนี้ ก็ยังยากจะตอบว่ามันจะเข้ามาขายเมื่อไร ที่สำคัญ จะเข้ามาขายแบบไหน ระหว่าง เข้ามาขายในแบบประกอบไทย เป็นเรื่องราว ซึ่งหลายคนก็หวังให้เป็นแบบนั้น หรือจะเข้ามาจำนวนจำกัด ตรงจากญี่ปุ่น เอาใจสาวกสายประหยัด แบบ ที่ Toyota BZ4X ทำ ซึ่งราคาก็น่าจะเอาเรื่องไม่น้อย
แต่คนซื้อได้ความเป็น JDM และแตกต่าง จากรถที่ขายอยู่ปัจจุบัน ของโตโยต้า
Honda HR-V Minorchange
ทางด้าน ฮอนด้า ปีนี้ น่าจะเป็นคิว การปรับโฉม ของ Honda HR-V หลังจาก มีการปรับโฉม Honda City ไปเมื่อต้นปีที่ผ่าน
ว่าที่ Honda HR-V ใหม่ ยังไม่มีข่าวคราวออกมา แต่เดาทางน่าจะมาแนวเดียวกับ ซิตี้ คือปรับหน้าตาให้มันตรงกับยุคมากขึ้น มีบางสื่อเก้งว่า มันจะปรับหน้าตา ให้มีความเป็น Mini CR-V ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ อยู่พอสมควร
แต่เจ้า HR-V ในรุ่นก่อน เป็นรถที่ชูธง เรื่องงานออกแบบมาเป็นทุนเดิม ไม่เน้นปรับรายละเอียดมาก แต่มีฟังชั่นทันสมัยมากขึ้น ซึ่งก็ต้องมาดูว่าการปรับปรุงโฉมครั้งนี้จะเพิ่ม หรือ ปรับอะไรมาเพิ่มจากเดิมบ้าง
ในส่วนเครื่องยนต์ คาดว่าจะไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไรใหม่จากปัจจุบัน อาจจะมีเพียงการปรับจูนให้เหมาะสม และประหยัดมากขึ้น ซึ่ง ก็น่าจะเป็นจุดสำคัญ ของการเปลี่ยนแปลงในรุ่นปรับโฉมนี้
Honda Civic Minorchange
ยังไม่เปิดตัวที่ใดในโลก แต่คาดว่าจะได้เห็นในปลายปีนี้ ในไทย กับ Honda Civic 2025 รุ่นปรับโฉม ไมเนอร์เชนจ์ครั้งใหญ่ ที่เตรียมเผยโฉมในอเมริกา ในอีกไม่กี่อึดใจ
ทางด้านข้อมูล การเปลี่ยนแปลงว่าที ซีวิค ปรับโฉม อาจจะเป็น Cosmetic Change เฉยๆ ตามสไตล์ ฮอนด้า โดยหน้าตา จะปรับให้สปอร์ตทันสมัย รถกลิ่นอายความญี่ปุ่นแบบตัวปัจจุบันลงไป โดยเฉพาะ เราอาจจะได้เห็นกระจังหน้าสีดำมากขึ้น แบบ CR-V / Accord ที่เปิดตัวออกมาล่าสุด
ล้อแม็ก จะถูกปรับเปลี่ยนใหม่ ให้ตอบสนองต่อการใช้งานมากขึ้น เปลี่ยนลวดลายไปตาม สไตล์ของรถ เพิ่มความดูดีมากขึ้น
มีความเป็นไปได้ แต่ยังไม่ถึง กับฟันธง ว่า ฮอนด้า อาจจะลด จำนวนรุ่นเครื่องยนต์สันดาปลงไปอีก จากปัจจุบัน เพื่อผลักดันคนเข้าสู่ เทคโนโลยี E:HEV มากขึ้น
เครื่องยนต์ ก็น่าจะเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง กับทั้งรุ่น 1.5 เทอร์โบ ที่อาจจะ เป็นอีกครั้ง ที่รุ่น RS จะกลับมา และ รุ่น 2.0 E:hev กำลังวังชา เท่าเดิมกับปัจจุบัน ที่ขายในวันนี้
นอกจากนี้ ก็น่าจะมีการปรับจูน รถให้เหมาะกับการใช้งานมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัย ที่ถือเป็นอีกหัวใจ สำคัญของแบรนด์รถยนต์ฮอนด้า
Nissan Navara Minorchange
ทางด้าน นิสสัน มีรถปรับโฉม อีกหนึ่งรุ่น นั่นคือ Nissan Navara และค่อนข้างชัดเจน ว่าโครงการนี้มีจริง เนื่องจาก จะสังเกตว่า นิสสัน ไม่แนะนำ รถปรับออพชั่น ตอนที่ชาวบ้านเขาปรับเป็น ยูโร 5กัน แบบหลายแบรนด์ที่ทำออกมาก่อนหน้านี้
โครงการ นิสสัน นาวาร่า ปรับโฉม มีรายงานมาสักพักแล้วว่า อยู่ในกระบวนการ ปรับปรุง โดยจะมีการปรับหน้า ครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะพุ่งไปสู่ รุ่นปรับโฉม ในอีก 1-2 ปี ต่อจากนี้ หลังจากทาง มิตซูบิชิ รุดหน้าไปก่อนหน้านี้ และยังทำงานตามแนวทาง ที่เรียกว่า Lead & Follow ในแผนงานอยู่
นิสสัน เคยย้ำชัดว่า มันจะไม่ใช่เป็นการ Copy & Paste รถนิสสัน จากมิตซูบิชิ และ ตามแผนของนิสสัน ว่าที่ นาวาร่าใหม่ จะมาในปีงบประมาณ 2025
นั่นไม่ได้หมายความว่าโผล่มา 2025 แล้วมาเลย จะต้องรอไปในเวลาเดียวๆ กับ ทางมิตซูบิชิ หรือ ราวๆ 18 เดือน จากนี้
แล้ว ว่าที่ตัวปรับโฉมนี้จะมีอะไรบ้าง ตอนนี้ต้อมยอมรับว่าไม่มีมีใครมีข้อมูล อย่างจริงจัง แต่มีรายงานว่าทางนิสสัน มีการศึกษา หน้าตาของ Nissan Frontier อเมริกา เพื่อมาลงใน นาวาร่าใหม่
หาข้อมูลดังกล่าวเป็นจริง งานออกแบบ จะมีการปรับให้เหมือนกัน ซึ่งก็จะเป็นการปรับหน้าตา อาจจะไฟหน้า กระจังหน้า กันหน้าให้เหมือนกัน
ส่วนภายใน น่าจะมีการปรับปรุงออพชั่น ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น เพื่อให้พอแข่งขันกับ คู่แข่งในตลาดได้ จริงๆ นิสสัน ขาดแค่ไม่กี่อย่าง แค่ ระบบเครื่องเสียงที่ควรรองรับ การเชื่อมต่อไร้สาย ได้ เป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่ตัวอย่าง ที่รถรุ่นนี่ควรมี
นอกจากนี้ อาจจะมีการปรับรุ่นย่อย เล็กน้อย เพื่อตรงความต้องการของตลาดมากขึ้นด้วย
ด้านเครื่องยนต์ก็ไม่น่าจะปรับอะไร เพราะ เครื่องยนต์ และ เกียร์ปัจจุบัน ก็ถือเป็นหนึ่งในตองอู แต่มันจะดีกว่า ถ้ารถมีโหมดการขับขี่ให้เลือก ซึ่งก้น่าจะพอมีโอกาสอยู่บ้าง
ทั้งหมดนี้ คือ ว่าที่รถใหม่ ครึ่งหลังของปี 2024 ที่จะเปิดตัวในปีนี้ แน่นอน แม้จะมีน้อยไปนิด แต่เราเลือกที่จะนำเสนอแต่รถที่เรามั่นใจ และมีข้อมูลแล้วว่ามันน่าจะเข้ามาวางจำหน่ายจริงๆ
เพื่อนๆ ทุกคน สามารถติดตามข้อมูลได้ที่ Ridebuster.com นะครับ
