BYD พร้อมลุยงาน Motor Expo 2023 นอกจากรุ่นที่ขายในปัจจุบันแล้วยังมีรุ่นใหม่ที่เปิดตัวที่จีนมาโชว์ด้วยนั่นคือ YANGWANG U8

ตัวลุยแห่งแดนมังกรทรงคล้าย Land Rover Defender หรือ Mercedes-Benz G-Class ด้วยด้านหน้าดีไซน์หรูซับซ้อนแบบตะแกรงพร้อมไฟเลี้ยววิ่งอยู่บนขอบบังโคลนหน้าซ้าย-ขวา ชุดไฟหน้า LED แบบ Dual ทรงเลขเจ็ด ในชุดกันชนหน้าสีเดียวกับตัวรถ หลังคารถมีดีไซน์นูนๆส่วนหน้าออกมาสามจุด ด้านท้ายทรงเหลี่ยมในส่วนของที่ห้อยยางอะไหล่บนฝาท้ายรวมถึงไฟท้าย LED ทรงเลขเจ็ดคล้ายกับด้านหน้า พร้อมบันไดข้างไฟฟ้า หลังคาพาโนรามิกซันรูฟ ชุดไฟท้ายขอบกระจกแบบ LED รูปตัว L ซ้าย-ขวา กระจกมองข้างแนวตั้งพร้อมไฟเลี้ยว  ที่เปิดประตูแนวฝังเรียบเนียนกับตัวรถ ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ 20 นิ้ว

ภายในมาในแบบ 5 ที่นั่งหรูหราจากวัสดุหุ้มหนังแท้เกรดคุณภาพสีน้ำตาล Nappa แผงประตูตกแต่งด้วยลายหินอ่อนผสมหนังแท้รวมถึงคอนโซลหน้าและคอนโซกลางก็ตกแต่งด้วย จอสัมผัสขนาดใหญ่ในชุดแผงคอนโซลหน้ามีด้วยกันถึง 3 จอ เริ่มที่จอสัมผัสซ้ายขวาที่เป็นทั้งมาตรวัดดิจิทัลและจอควบคุมนั้นขนาด 23.6 นิ้วเท่ากันสองฝั่ง ส่วนจอสัมผัสระบบความบันเทิงตรงกลางคอนโซลหน้าเป็นแนวตั้ง OLED Star Ring ขนาด 12.8 นิ้ว ยังมีจอหลังเบาะคู่หน้าซ้าย-ขวาฝั่งละ 12.8 นิ้วมาให้ กับพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านคู่ตกแต่งลายไม้ ที่ชาร์จมือถือไร้สายที่ใจดีให้มา 3 จุดปล่อยกำลัง 50 W ปลั๊กไฟ 220V AC ช่องเสียบ USB Type-C 8 จุด และขนาด 12 V 12 จุด และลำโพงคุณภาพ Dynaudio Platinum Evidence ให้เสียงกระหึ่มรอบคันถึง 22 จุด

พร้อมขุมพลังแบบ Extended Range Electric Vehicle ใช้เครื่องยนต์ในการปั่นไฟและแบตเตอรี่ กับมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานเป็นหลัก พิเศษตรงที่สามารถเสียบปลั๊กแบบ Plug In Hybrid เบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 272 แรงม้า จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า Quad-Motor หรือ มอเตอร์ไฟฟ้าอิสระสี่ตัวกระจายกำลังจากแต่ละล้อไปรวมกันทั้งหมดสี่ล้อแรงม้าจากมอเตอร์ไฟฟ้าแต่ละตัวให้กำลัง 299 แรงม้า แรงบิด 320 นิวตันเมตร ขนาดความจุแบตเตอรี่ 49 kWh เมื่อทำงานร่วมกันจะให้กำลังรวมมากถึง 1,197 แรงม้า แรงบิด 1,280 นิวตันเมตร

ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 3.6 วินาที วิ่งไกลสุดในโหมดทำงานร่วมกันถึง 1,000 กิโลเมตรต่อการชาร์จและการเติมน้ำมันหนึ่งครั้ง ขับขี่โหมดไฟฟ้าอย่างเดียววิ่งไกลสุด 180 กิโลแมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน CLTC ชาร์จเร็วกระแสตรง DC 30-80% รองรับกำลังชาร์จสูงสุด 110 kW ใช้เวลาเพียง 18 นาที ชาร์จกระแสสลับ AC ได้ และรองรับ V2L เชื่อมต่อการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ

ตัวรถสร้างจาก Body on Frame เชื่อใจในความถึกทนทุกสภาพถนนพ่วงขับเคลื่อนสี่ล้อที่มีโหมดการขับขี่ถึง 16 โหมด สามารถลุยน้ำท่วมน้ำลึกๆได้  1,000-1,400 มิลลิเมตร โหมด Off Road สำหรับลุยเส้นทางโหดเทียบเท่ารถขับเคลื่อนสี่ล้อ บังคับเลี้ยวได้ถึง 360 องศา พร้อมช่วงล่างอัจฉริยะ Disus-X มีเซ็นเซอร์รอบคัน 38 ตัว มีระบบ LiDAR 3 ตัว, เรดาห์ MW 5 ตัว, เรดาห์อัลตราโซนิก 14 ตัว และกล้อง 16 ตัว สำหรับการสื่อสารผ่านดาวเทียมในตัวเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเชื่อมต่อกับโลกภายนอกได้แม้อยู่ในภูเขาหรือทะเลทรายโดยไม่มีสัญญาณโทรศัพท์พร้อมระบบความปลอดภัยช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS มาครบ โดยโชว์ตัวที่งาน Motor Expo 2023 ตั้งแต่ 30 พฤศจิกายน

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่