นับตั้งแต่แต่ที่ Toyota ได้มีการเผยโฉมต้นแบบรถยนต์ “IMV0” ออกมา หลายคนต่างก็สงสัยว่า โตโยต้าจะสร้างมันขึ้นมาทำไม ? ในเมื่อตนเองก็มี Toyota Hilux Revo รถกระบะคันเก่งขายดี ที่ได้รับความนิยมอยู่แล้ว

ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา Toyota ถือเป็นผู้นำรถยนต์ในกลุ่มตลาดรถกระบะของไทยมาโดยตลอด จากรถยนต์ตระกูล Hilux

แม้พวกเขาจะถูกแซงในเรื่องยอดขายบ้างในบางครั้ง ก็ไม่เคยถูกแซงแบบขาดลอย ยังคงมีลูกค้าแวะเวียนมาเลือกซื้อเลือกหาเสมอ ทั้งการใช้งานส่วนบุคคล,​องค์กร หรือ กระทั่งสายพาณิชย์ ค้าขาย จนกลายเป็นรถขายดี ในทุกครั้งที่ทางค่ายมีการปรับโฉมตัวรถใหม่ แม้จะเพียงน้อยนิดก็ตามในบางที

ทว่าปัจจุบัน ปฏิเสธไม่ได้ว่าตลาดรถกระบะในไทย (หรืออาจจะรวมถึงทั่วโลก) มีความเปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างมาก ด้วยผู้เล่นที่หลากหลายกว่าเดิม และยังมีการยกระดับความเป็นรถกระบะ เปลี่ยนไปจากการเป็นแค่รถยนต์ที่เน้นไว้ใช้งานแบกหาม ให้กลายเป็นรถที่เอาไว้ใช้งานในครอบครัว และการใช้งานเชิงสันทนาการในหลากหลายรูปแบบมากยิ่งขึ้น

เราจึงจะเห็นได้ว่าในช่วงหลังๆมานี้ โดยเฉพาะในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา รถกระบะหลายรุ่น เริ่มนำเสนอความเป็นรถยนต์ที่มีความอเนกประสงค์ ไม้ได้ขายแค่ขีดความสามารถในเรื่องของการบรรทุกสัมภาระ กระบะสมัยใหม่ยังมีลูกเล่นความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร

ไม่แม้กระทั่งการปรับเซ็ทระบบเครื่องยนต์ และระบบส่งกำลังให้มีความแรง เร็ว ถูกอัพเกรดจนเกินกว่าจะเอาไว้ใช้แค่ส่งของ ตลอดจน การเซ็ทช่วงล่าง เน้นความนุ่มนวล เพื่อให้ผู้โดยสารภายในรถทุกคนไม่บ่นในระหว่างการเดินทาง กับช่วงล่างกระเด้งกระดอน อย่างในอดีต

ซึ่งนั่นก็ชี้ชัดว่า กระบะสมัยใหม่ ต้องก้าวข้ามไปสู่กลุ่มลูกค้าคนใช้งานส่วนบุคคล เดินทาง สายกิจกรรมมากขึ้น ด้วยเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อรุ่นใหญ่ ระดับบน ทำกำไรงามๆ อย่างน้อย ก็ซื้อขับสองยกสูง ไว้แก้ขัดลุยเข้าบ้าน ในวันน้ำขังรอการระบาย

จุดประสงค์ทางด้าน การแบกหาม ขนของอย่างในอดีตวันวาน กลายเป็นเรื่องรอง จนทำให้ราคารถเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก จากเดิมราคากระบะเริ่มต้นที่ 4 แสนกลางๆ ไปจนถึง 4 แสนปลายๆ แต่ปัจจุบัน กระบะหัวเดี่ยว ขยับมามีราคาเริ่มต้น 6 แสนกว่าบาทแล้ว หรือ คำนวนคร่าวๆ สิบปีที่ผ่านมา กระบะมีการปรับราคาเพิ่มไปกว่า 20% ซึ่งนับเป็นฝันร้าย ของคนทำธุรกิจพอสมควรจากต้นทุนที่สูงขึ้นมาก

ด้วยปัจจัยด้านออพชั่น ต้องจัดเต็ม ทำให้กระบะยิ่งทวีราคาแพงขึ้นด้วย ไม่ว่าจะต้องใส่ล้ออัลลอยขนาด 17-18 นิ้ว จากโรงงาน แล้วแต่รุ่นงานออกแบบ ที่ต้องดูดีมีมาด แม้ว่าจะอยู่ในรุ่นหัวเดี่ยวใช้งาน

สิ่งที่บ่งบอกชัดเจน ก็ไม่พ้นตัวรถเอง ที่มีการใส่ของ ยัดความสปอร์ตเข้ามา อย่างในรุ่น Z Edition ของโตโยต้าเอง ที่มีการปรับช่วงล่างใหม่ให้น่าใช้งานมากขึ้น และยังมีตระกูล GR Sport ออกมาวางจำหน่าย เอาใจสาวก คนใช้รถอยากได้ลุคสปอร์ต

นี่เป็นเพียงตัวอย่าง ของออพชั่นสุดฟ้อ ในกระบะวันนี้ เปลี่ยนไปจากเดิม ที่เราคุ้นตา กันมายาวนาน

ส่วนหนึ่ง ตลาดกระบะ ยอดตก

ในระหว่างงานเปิดตัว Toyota Hilux Champ โตโยต้า ยอมรับว่า ในปีที่ผ่านมา (2023) ตลาดกระบะมียอดขาย ลดต่ำลง อย่างเห็นได้ชัด ด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง เข้ามารุมเร้าเศรษฐกิจ ตั้งแต่สิ้นพิษ โรคระบาดโควิด 19

แม้ว่าจะไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้อย่างชัดเจน ถึงต้นสายปลายเหตุ ของเรื่องราวดังกล่าว แต่การหัวตัวของตลาดกระบะ อย่างน่าใจหาย ของหนึ่งในประเภทรถที่ขายดี และถือเป็นสันหลังของคนไทยช้านาน ก็ย่อมสะท้อนบางประการ ถึงสภาพเศรษฐกิจในอนาคต

ที่จริง การพัฒนา IMV0 มาจากความตั้งใจ ของ นาย อากิโอะ โทโยดะ ที่ต้องการสร้างรถที่สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ให้กับประเทศไทย เนื่องจากไทยทำให้โครงการ IMV หรือ Innovative International Multi-purpose Vehicle ที่สร้าง Toyota Hilux Vigo ,Toyota Fortuner ตลอดจน อดีต Toyota Innova ประสบความสำเร็จอย่างถึงขีดสุด

ดั้งเดิม นายอากิโอะ ดูแลโครงการพัฒนา IMV จึงตั้งใจ จะสร้างรถที่เหมือนทิ้งทวนโดยรถคันนั้น จะต้องเป็นรถที่คุ้มค่า คุ้มราคา ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ง่าย ดูแลง่าย เข้าใจคนใช้งาน

โครงการ IMV0 จึงเริ่มพัฒนาในปี 2019 เป็นต้นมา โดยพุ่งเป้าไปยังกลุ่มตลาดพาณิชย์ กระดูกสันหลังของภาคธุรกิจในไทย มุ่งเน้นการเป็นรถที่สามารถ สร้างโอกาสต่อยอดทำเงินได้ทันที

พูดง่ายๆ เป็นรถทำเงินในราคาที่ไม่ได้แพงเกินไป ช่วยผู้ประกอบการประหยัด ไม่ต้องมาหาซื้อ Revo หัวเดี่ยว โดยเฉพาะ กลุ่มเดินทางใกล้ ไม่ได้บรรทุกหนักมาก

ด้วยการใช้แชสซีชุดเดียวกับ Hilux Revo รวมถึง บางส่วนยังใช้เครื่องยนต์และชุดเกียร์เดียวกัน

ทางโตโยต้า จึงงัดวิชาลดต้นทุนหลายอย่างมาใช้ เพื่อทำให้รถมีราคาจับต้องง่าย ซ่อมบำรุงง่าย หาอะไหล่ง่ายๆ จากท้องตลาดทั่วไป ส่งเสริม ความเป็นโตโยต้า ที่เคยขึ้นแท่น กระบะมหาชน มาแล้ว

ล้างไพ่ ตลาดกระบะ… นี่คือสัญญาณหลัก

แม้สิ่งที่โตโยต้าพูด ตั้งแต่งานเปิดตัว คือ รถคันนี้ออกแบบมาเพื่อ ให้ลูกค้าเข้าถึงรถโตโยต้าง่ายขึ้น และยังคุ้มค่าสมกับคำว่า โตโยต้า

แต่มองมุมต่าง มันก็เหมือนแทงสวน คู่แข่งค่ายมะกัน ที่เคยสร้างหมัดเด็ด กระบะสมรรถนะสูง ให้โตโยต้า ต้องเดินตามมาแล้ว

ถ้ากระบะ สมรรถนะสูง คือห่วงโซ่บนสุดของกระบะ ที่ลูกค้าอยากได้ ในมุมกลับ โตโยต้า ก็อยากทำรถที่ลูกค้าเข้าถึงง่าย ในราคาทุกคนเป็นเจ้าของได้ ณ ฐานรากของตลาดเป็นหลักมากกว่า

ข้อสังเกต หนึ่ง คือ IMV0 เริ่มต้นโครงการ ในปี 2019 นั่นเพียงปีเดียว หลังกระบะพลังสูงวางจำหน่าย ไม่เพียงเท่านี้ กระบะในกลุ่มระดับบน ปัจจุบันค่ายดังกล่าว ยังครองใจลูกค้า จนติดลมบนไปเป็นที่เรียบร้อย

กระบะโตโยต้า อาจขายได้ และทำตลาดได้ แต่ก็เริ่มถูกกินพื้นที่เรื่อยๆ ในฐานะเจ้าตลาดกระบะรายสำคัญ ขณะที่ในก๊วนกระบะจากญี่ปุ่น ผลัดกันรุกกันไล่บ้างเป็นไปตามกลไกตลาด และช่วงอายุผลิตภัณฑ์ การมีคนนอกเข้ามาแย่งส่วนแบ่งที้เคยทำได้ กลายเป็นปฏิปักษ์ที่เขย่าตลาดกระบะญี่ปุ่น

และเมื่อมอง ถึงคำว่า รถกระบะ ที่ห่างจากจุดเดิม ที่เคยเป็นในอดีต กระบะตอนเดี่ยวหัวเดียว ภายใต้คำว่า รถใช้งาน ของคนทำงาน โตโยต้า ก็พูดเองว่า ถึงเวลา ที่รถกระบะควรมีรถที่กลับสู่รากเหง้าของกระบะอย่างแท้จริง

นั่นคือมุมของโตโยต้า…

ในอีกด้าน หากมองกว้างๆ มันก็เหมือนการล้างไพ่ ตลาดกระบะ สร้างการรบกวนความต้องการ ลูกค้า โดยเฉพาะ กลุ่มคนที่มองหารถมาทำงาน ทำธุรกิจ ดึงยอดกลับมาที่โตโยต้า ด้วยเหตุผลต่างๆไม่ว่า

  • ปัจจัยทางด้านราคา
  • ความสามารถในการใช้งาน
  • ความคุ้มค่า
  • การเข้าถึงที่ค่อนข้างง่าย

นอกจากนี้ เมื่อมองตามเทรนด์ กระบะขนาดกลาง ที่กำลังมุ่งไปตามความคาดหวังของลูกค้า เช่น การเป็นกระบะไฟฟ้า หรือ การเป็นกระบะไฮบริด ที่มีข่าวออกมาอย่างต่อเนื่อง

เทคโนโลยีใหม่เหล่านี้จะยิ่งทำให้ ตัวรถมีราคาสูงขึ้นไปอีกในอนาคต การออก Toyota Hilux Champ อาจเป็นสัญญาณ ว่า ในอนาคตกระบะขนาดกลาง อาจะมีราคาสูงขึ้น

มันเหมือนการขีดเส้นแบ่งประตู ว่า สายพาณิชย์ทางนี้ สายไลฟ์สไตล์ทางโน้น

แม้ว่า ในความเป็นรถที่นำมาทำได้หลายอย่าง อาจจะมีสายไลฟ์สไตล์บางคน อาจจะอยากได้รถแบบนี้มาต่อเสริมเติมฝันบ้าง อย่าง รถบ้าน หรือ รถกิจกรรมวันว่าง สำหรับ กลุ่มคนโสดยังไม่มีลูก

แต่การขีดเส้นครั้งนี้ ก็ชัดเจน ว่า โตโยต้าต้องการแบ่งลูกค้าให้ชัดเจนขึ้น ในระหว่างความเป็นสาพาณิชย์ และสายใช้งานส่วนบุคคล

ยิ่งต่อจากข่าวว่า โตโยต้า เองก็สนใจในการพัฒนา กระบะจาก Toyota Corolla หรือ บางคนแซวว่า มันคือ กระเบ๋ง

การสร้าง IMV0 ไม่เพียงแยกลูกค้าชัดเจน ยังจะล้างความต้องการของลูกค้า ให้มองความต้องการตนเองอย่างตรงไปตรงมา ว่าอะไรเหมาะกับเขา อย่ามองกระบะ ซื้อแล้วคุ้มใช้มันได้ทุกอย่าง

ใครจะรู้ บางที รถกระบะขับสอง ตัวเตี้ย ในอนาคต อาจถูกแทนที่ในตลาดกระบะจากเก๋ง ซึ่งไม่ได้เน้นใช้งานหนัก รับน้ำหนักบรรทุกไม่ต้องเยอะ ใช้งานคล่องตัวในเมือง ในราคาที่ถูกกว่า กระบะขับสอง สี่ประตูตัวเตี้ยในวันนี้ เนื่องจากโครงสร้าง ไม่ซับซ้อนมาก

ในขณะที่กระบะ Mid Size เดิม อย่าง Hilux จะถูกยกระดับขึ้นไปอีกขั้น เน้นไปทางงานลุย ขายแต่ตัวขับสองยกสูงเป็นต้นไป ซึ่งหลายค่ายก็เริ่มทำแบบนี้

เมื่อเป็นแบบนั้น โตโยต้า ก็จะอัดลูกเล่น เติมเต็มความต้องการได้มากขึ้น อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นความพร้อมในการลุย การใส่ระบบไฮบริด ที่ไม่ต้องมาโยนไว้ตรงกลาง ทำรถออกมากลางๆ ตอบทุกความต้องการ

แต่ทำรถที่มีความเฉพาะเจาะจงยิ่งขึ้น ให้ถูกกับความต้องการ ของลูกค้าในแต่ละกลุ่ม แบบที่ Hilux Champ ทำ

การสร้าง IMV0 จึงเหมือน การให้คำตอบ ถึงอนาคตกระบะประเทศไทย อย่างชัดเจน เดิมทีกระบะบ้านเราก็ขับเคลื่อน โดยโตโยต้ามาช้านาน

เมื่อเจ้าตลาดขยับ ปรับตัวมาแบบนี้ อนาคตกระบะ ก็ดูยากจะคาดเดา กว่าที่หลายคนจะจินตนาการ

ทั้งยังสกัด ดาวรุ่งแบรนด์มะกันที่เข้ามายืนในใจ รวมถึงค่ายจีน ที่จ้องเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย อีกหลายแบรนด์

หมากเกม รถกระบะเล็กคันนี้ เรียกว่า ไม่ธรรมดา …

กลายเป็นตัวเล็กหมัดเด็ดทุบโต๊ะ ตลาดกระบะ ให้เข้าทางโตโยต้ามากขึ้น

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่
Tags: