จากเคส น้องแมว ปีนแท่งปูน เมื่อช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา จุดหนึ่งที่เราเห็นเกี่ยวกับความเข้าใจในการซื้อรถยนต์ใหม่ และการใช้รถ จนสมควรจะต้องนำมาพูดกัน คงไม่พ้นเรื่องของ ประกันรถยนต์ ด้วย ความเข้าใจผิด หรืออาจไม่เข้าใจ ในสาระสำคัญ ของ ประกันภัย และ ประกันคุณภาพ

วันนี้ เราจึงอยากจะมาช่วยเติมความเข้าใจให้ชัดเจน ว่า ประกันภัย และ ประกันคุณภาพ คืออะไร

ประกันภัย

ประกันภัย คือ การซื้อความเสี่ยง ให้บริษัทประกันภัย ช่วย ร่วม และมีส่วน หรือ อาจจะครอบคลุมทุกอย่าง ทางด้านความเสี่ยงในการใช้งานตัวรถของผู้ใช้บนถนนสาธารณะ ทั้งต่อทรัพย์สิน และ ตัวผู้ขับขี่ -ผู้โดยสาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของอุบัติเหตุ

accident-thai (3)

หรืออาจจะกล่าวว่า มันคือ ประกันอุบัติเหตุ ก็ถูกต้อง ครับ

ประกันภัย ที่แถมมากับรถยนต์ใหม่ ส่วนใหญ่ จะเป็น ประเภท ชั้น 1 ครอบคลุม ทุกการซ่อมตัวรถ ตั้งแต่ภายนอกยันระบบขับเคลื่อน ในกรณี เกิดความเสียหาย จากการใช้งานของเรา หรือเกิดอุบัติเหตุ

ในกรณี ประกันชั้น 1 จะซ่อม ทั้งเรา และ คู่กรณี หรือ เราไม่ต้องจ่ายอะไรเลย ในแต่ละเหตุ หากมีคู่กรณี ที่ชัดเจน ว่าใครเกิดอุบัติเหตุร่วมกับเรา ก็สามารถเคลมได้

เรื่องประกันภัย คิดง่ายๆ ว่า ซื้อความเสี่ยง ป้องกันเหตุไม่คาดฝัน จากการใช้งาน ของเราบนถนน นั่นเอง ครับ

โดยประกันภัย ตัวนี้ เป็น ประกันภัยภาคสมัครใจ โดยผู้ใช้รถ จะต่อในปี ถัดไป หรือไม่ก็ได้ และจะมีการต่ออายุทุกๆครบรอบปี

ประกันคุณภาพ

ปัจจุบัน รถยนต์ใหม่ทุกรุึ่น จะมีประกัน ตัวที่ 2 ที่เรียกว่า ประกันคุณภาพตัวรถ

ประกันคุณภาพตัวรถ คือ การรับประกัน ความสามารถในการใช้งาน ของตัวรถที่เราซื้อใหม่ป้ายแดง ว่ามีคุณภาพ สามารถใช้งานได้ อย่างไม่มีปัญหา ตลอดระยะเวลาที่มีการรับประกัน

การประกันคุณภาพ เป็นประกันความเสีย่ง ที่ผู้ผลิตรถยนต์ ทำไว้กับรถยนต์ที่ผลิตทุกคน เป้นการประกันทางอุตสาหกรรม เผื่อในกรณี เกิดเหตความผิดพลาดทางการผลิต หรือ Industrail Defect ซึ่งเมื่อเกิด กรณีดังกล่าง ทั้งที่ผู้ผลิต ตรวจสอบได้เอง และ ในกรณี ที่เราใช้รถยนต์เราไปแล้ว ปรากฏว่า ชิ้นส่วนใด ชิ้นส่วนหนึ่ง เกิดความเสียหาย ในระหว่างการรับประกัน

ในจุดนั้น เราจะมีสิทธิ์ในการขอเคลมชิ้นส่วนใหม่ ฟรี ตลอดระยะเวลารับประกันคุณภาพ โดยทั้งหมด อยู่ในการพิจารณา ของศูนย์บริการ และ บริษัทผู้ผลิตรถยนต์

แต่ ประกันตัวนี้ ไม่ได้ครอบคลุม ถึงความเสียหาย จากการใช้งาน อันเนื่องจาก อุบัติเหตุ หรือ ผู้ขับขี่ ทำให้เกิดความเสียหาย กับตัวชิ้นส่วน ด้วยวิธีใด วิธีหนึ่ง เช่น การใช้งานผิดวัตถุประสงค์ หรือ มีการปรับแต่ง สมรรถนะ ของตัวรถเพิ่มเติม จะทำให้ประกันดังกล่าว หลุด ไปตามชิ้นส่วนแต่ละอย่างไม่ใช่ทั้งหมด

ความเสียหายใด ที่เกิดจากการใช้งาน ไม่ได้เกี่ยว เนื่องกับ การรับประกันคุณภาพตัวรถ

ปัจจุบัน ประกันคุณภาพรถ ได้เพิ่ม 3 ปี 100,000 ก.ม.​เป็น มาตรฐานใหม่ 5 ปี 150,000 ก.ม. และ ปัจจุบัน รถยนต์ ประเภท ที่สามารถขับด้วยไฟฟ้าล้วนได้ เช่น รถยนต์ไอบริดและ รถยนต์ไฟฟ้า จะมีการประกันคุณภาพ แบตเตอร์รี่ เพิ่มเติม ซึ่งแยกจาก การรับประกัน ตัวรถ ปกติ สามารถศึกษา ได้จากผู้จัดจำหน่าย

ประกันคุณภาพ โดยมาก จะมีเงื่อนไขสำคัญ คือ ลูกค้า ต้องเข้าตรวจเช็คระยะตามกำหนด อย่างสม่ำเสมอ

การประกันชนิดนี้ จะสิ้นสุดลง ตามเงื่อนไข จากทางผู้ผลิต และไม่สามารถซื้อเพิ่มได้ เมื่อสิ้นสุดเงื่อนไข ระยะเวลา

ปัจจุบัน คำว่า “ประกัน” ถูกใช้ เรียกอย่างหลวมๆ เพื่อความเข้าใจง่ายของลูกค้า แต่กลายเป็นว่า ทำให้ลูกค้า ผู้ใช้ต่างเข้าใจผิดในสาระสำคัญ ด้วยความเข้าใจว่า มันเหมือนกัน

ทั้งที่มีความต่างกัน หนึ่ง เพือจัดการความเสี่ยง อุบัติเหตุบนถนน ,อีกตัว ใช้เพื่อให้ความมั่นใจในความสามารถในการใช้งานของตัวรถ

เราควร เข้าใจ และแยกแยะให้ถูก ต้อง ว่ าอะไร เป็นอะไรครับ

อย่าง เคส น้องแมว ที่เป็นข่าว , เหตุที่เกิดขึ้น ต้องเคลม กับ บริษัทประกันภัย ซึ่งดุล พินิจ ทั้งหมดเป็นของ บริษัทประกันภัย และ ไม่ได้ เกี่ยวเนื่อง กับ ประกันคุณภาพตัวรถ เนื่องจาก เหตุดังกล่าว เกิดเหตุภายใต้การขับขี่ของผู้ใช้ ไม่ใช่ เสียหาย

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่