ในช่วงระยะหลัง ถ้าส่องไปตามเว็บไซต์ข่าว ที่ติดตามในวงสังคมออนไลน์ตลอดเวลา เราจะเห็นว่าประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมากันบ่อยครั้งมากขึ้น บางกรณีหวิดเป็นการทำร้ายร่างกาย และทรัพย์สิน ดูจะไม่มีพ้นเรื่องราวสังคมถนน รถสาธารณะ ระหว่างแท็กซี่และรถรับโดยสารตามความประสงค์ หรือบริการ  “อูเบอร์” จนวันนี้ สังคมตั้งคำถามว่า ถึงเวลาที่รัฐควรไฟเขียว “อูเบอร์” แล้วหรือยัง หรือไม่อย่างน้อยๆ ก็ทำให้แท็กซี่ดีขึ้น กว่าที่เป็นอยู่

 

“อูเบอร์” บริการที่ดีกว่า  มาตรฐานระดับโลก

หลายคนที่เห็นข่าวมานานอาจจจะยังไม่เคยทราบมาก่อนว่า  “อูเบอร์” คือบริการอะไร

อูเบอร์เป็นบริการที่มีลักษณะคล้ายการเรียกรถลีมูซีน หรือคนขับส่วนตัวมารับ-ส่ง ตามสถานที่ต่างๆ โดยระบบจะใช้การเรียกผ่านบริการแอพพลิเคชั่น   Uber   ที่มีบริการในหลายประเทศทั่วโลก โดยผู้ต้องการประสงค์จะโดยสารใช้แอพพลิเคชั่นดังกล่าวในการเชื่อมต่อ ในการเรียกรถ โดยใช้สัญญาณ  GPS   ในการกำหนดตำแหน่งที่เราอยู่ หรือเรียกบริการ โดยเมื่อเราส่งข้อมูลการเดินทางไปแล้ว ทางอูเบอร์จะจัดการเรียรถที่อยู่ใกล้ที่สุด ซึ่งในรายละเอียดในการมารับจะมีชื่อทะเบียน รูปแบบรถที่มารับเสร็จสรรพ ไม่มีการปฏิเสธหรือต่อรองลูกค้า

ที่สำคัญส่วนใหญ่เป็นรถยนต์คันใหญ่นั่งสบาย เนื่องจากเป็นบริการในรูปแบบลีมูซีน หรือคนขับส่วนตัว ตลอดจนการชำระเงินในการโดยสารก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินสด เหมือนแท็กซี่ ลูกค้าสามารถใช้วิธีการตัดบัตรเครดิต , บัตรเดบิต ได้ตามต้องการ  หรือจะเลือกจ่ายเงินสดก็ได้ เช่นกัน

บริการอูเบอร์เข้ามาในไทยได้สักระยะหนึ่งแล้ว มันเป็นที่นิยมมากของคนชนชั้นกลาง ที่ตอ้งการเดินทางอย่างรวดเร็วไม่เสียอารณ์ ยอมจ่ายแพงเพื่อได้รับบริการดีกว่ารถแท็กซี่สาธารณะในประเทศไทย

จุดเด่นของอูเบอร์ นอกจากรถที่ดีกว่า สะอาดกว่า และไม่มีการติดเวลาส่งมอบรถเติมก๊าซ แล้ว อูเบอร์ส่วนใหญ่ยังเป็นรถของผู้ขับเอง จึงนั่งสบายกว่า สะอาดกว่า ดูมีความปลอดภัยในการโดยสารมากกว่า  รถสาธารณะทั่วไป ที่เหมือนจับฉลากตาดีได้ตาร้ายเสีย

และท้ายสุดไม่เป็นปัญหาสังคมจราจร ที่มาจอดรอเข้าวินตามป้ายรถเมล์หรือสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ “อูเบอร์” จะทวีความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะในวันนี้มือถือเป็นอุปกรณ์การสื่อสารที่ทุกคนมีใช้ จึงทำให้บริการแบบนี้เป็นที่ต้องการ

และแนวคิดอูเบอร์ไม่ได้เจาะคนทั่วไป แต่ต้องการเจาะกลุ่มลูกค้าชนชั้นกลางถึงระดับบน ซึ่งต้องการสิ่งที่ดีกว่าในชีวิต จึงมีบริการรถมากมาย ตั้งแต่รถธรรมดา ไปจนถึงเฮลิคปเตอร์ส่วนตัวที่เพิ่งเปิดตัวในต่างประเทศ (ไม่รู้ไทยจะมีไหม)

บริการคอปเตอร์ส่วนตัวของ   Uber

“แทกซี่” มาตรฐานรถสาธารณะที่ไม่ปรับปรุงตัว

ตลอดหลายปีตั้งแต่สังคมออนไลน์เข้ามามีบทบาทในการสื่อสาร เรื่องราวของรถแท็กซี่สาธารณะเป็นประเด็นที่คนในสังคมต่างพูดถึงอย่างหนาหู แต่ภาครัฐที่วุ่นกับการเมืองการปกครองไม่เคยเหลียวแล จนบางครั้งกลายเป็นมาเฟียประจำถนน ประจำถิ่นที่ ประชาชนต้องจำยอมใช้บริการ

การเรียกไม่ไป แต่งตัว วาจาไม่สุภาพ ไปจนถึงสภาพรถที่ไม่พร้อมรับส่งผู้โดยสาร ปัญหา 3-4 ข้อเบื้องต้น เป็นประเด็นที่ทำให้คนไทยต่างเริ่มเมินเฉยต่อการเรียกแท็กซี่สาธารณะ ที่เหมือนจับฉลากเสี่ยงดวงเอาว่า  จะโชคดีเจอแท็กซี่มืออาชีพนิสัยดีหรือไม่ 

พฤติกรรมต่างๆ ของแท็กซี่บนถนน ที่ไม่ต่องเปิดไปตามหน้าข่าว แต่สามารถเห็นได้ในยามเดินทางทันที สร้างความเหนื่อยหน่ายกับคนใช้รถ ไม่ว่าจะปาดกันแย่งลูกค้า พฤติกรรมจอดรถรอจนรถติดยาวเป็นหางว่าว สร้างความเดือดร้อนต่อพี่น้องประชาขน ทั้งหมดคือข้อเท็จจริงที่พบเห็นได้

“แท็กซี่เช่า” ต้นตอปัญหาแท็กซี่

ยิ่งกว่านั้น รถแท็กซี่ส่วนใหญ่ เจ้าของรถไม่ได้เป็นคนขับเอง แม้ว่าจะเป็นรถแท็กซี่ส่วนบุคคลสีเขียวเหลืองก็ตาม ธุรกิจแท็กซี่ส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 90 เป็นแท็กซี่แบบให้เช่าช่วง

จากที่สอบถามจากบรรดาแท็กซี่ส่วนใหญ่ ที่มีโอกาสนั่งโดยสาร การเช่ารถจะเช่าเป็นครั้งละ 12 ชั่วโมง คือ ช่วงตี4 ของวันจนถึง 4 โมงเย็นเรียกว่า “กะกลางวัน”  ส่วนตั้งแต่เวลา 4โมงเย็นถึงตี 4 ของวัน จะเรียกว่า “กะกลางคืน”

ก่อนทำการส่งมอบรถให้กะต่อไปผู้เช่าช่วง จะต้องทำการล้างทำความสะอาดรถและเติมแก๊สจนเต็มถังให้เรียบร้อยก่อนคืนรถ ซึ่งโดยมากจะใช้เวลา 1 ชั่วโมง ยิ่งรถคันไหนใช้แก๊ส CNG  อาจจะต้องใช้เวลานานกว่านั้น เนื่องจากคิวเติมแก๊สค่อนข้างนานมาก ทำให้เราผู้โดยสารจึงถูกปฏิเสธการรับโดยสาร  หากผู้ขับแท็กซี่คิดว่าเราไม่ได้ไปทางเดียวกันกับเขา 

นอกจากประเด็นเรื่องการรับและส่งรถแล้ว การเป็น “แท็กซี่เช่า” ยังทำให้คุณภาพคนขับรถแท็กซี่ด้อยลง ถึงแม้ว่าก่อนขับจะต้องมีการตรวจสอบใบอนุญาตขับรถสาธารณะ ,ประวัติอาชญากรรมและอื่นๆ อีกมาก  รวมถึงเอกสารค้ำประกัน ที่ต้องจัดเตรียมให้ทางเจ้าของอู่แท็กซี่ และหรือเงินค้ำประกัน 3,000- 5,000 บาท ซึ่งไม่ได้มีค่ามากในปัจจุบัน

ส่งผลให้คุณภาพผู้ขับขี่ที่เข้ามาขับแท็กซี่โดยสารให้เรานั่ง อาจไม่ได้คำนึงถึงอะไรมากกว่ากำไรที่ได้จากการขับในแต่ละกะ พวกเขาพยายามรับส่งเราให้เร็ว หาลูกค้ารายต่อไป เพื่อทำกำไรสูงสุด มากกว่าจะเน้นขับสบายนั่งมั่นใจเหมือนกับบริการใหมู่เบอร์

ค่าเช่าแท็กซี่ โหด ..เรื่องที่ทำให้แท็กซี่ บริการไร้คุณภาพในวันนี้

การเป็นแท็กซี่ให้เช่าช่วง เป็นธุรกิจที่ทำกำไรได้งามให้กับเจ้าของอู่ แต่สำหรับคนขับแท็กซี่แล้ว มันเป็นวิบากกรรมในการทำมาหาเลี้ยงชีพของพวกเขา

การเช่าแท็กซี่เป็นเรื่องที่ไม่สามารถเลี่ยงได้ สำหรับคนที่ไม่ได้งบประมาณมาก หรือคนที่ไม่ได้ทำงานขับแท็กซี่ประจำ การเช่ารถวันละ 700-1200 บาทต่อวัน แล้วแต่อู่และสภาพรถที่ได้รับ หรือบางอู่อาจจะคิดเป็นต่อกะ กะละ 620-800 บาท  ทำให้คนขับรถอยู่ในสภาพที่บีบคั้นในการสร้างรายได้ให้ตัวเอง

ลองกลับใจมาเป็นคนขับแท็กซี่ดู การขับรถแท็กซี่ไปตามจุดหมายให้ได้  700 บาท ต่อวันเพื่อมีค่าเช่าช่วงรถ ถือว่าเป็นภารกิจที่เอาเรื่องเช่นกัน นี่ยังไม่นับค่าล้างรถ,ค่าแก๊ส ที่ต้องเติมคืนให้ทางอู่ ไหนจะรายได้ของตัวเองที่ต้องอยู่รอดเลี้ยงชีพได้ ปัจจุบันอย่างน้อยสมควรจะต้องมีวันละ 300 บาท ถ้ามาคำนวณแบบคร่าวๆ พี่แท็กซี่ส่วนใหญ่ สมควรจะต้องวิรถให้ได้ วันละ 1500 บาท ต่อกะ 12 ชั่วโมง จึงจะคุ้มต่อการขับรถ

นั่นจึงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ แท็กซี่ขับรถเร็ว ปาดรถรับผู้โดยสาร หรือไม่แคร์ลูกค้ามากขึ้น ถ้าไม่เห็นว่าคุ้มต่อการขับขี่ มันกลายเป็นพฤติกรรมที่ลูกค้าไม่ชอบและวันนี้ กรมการขนส่งไม่เหลียวแลเท่าที่ควร แม้ว่าจะมีบริการสายด่วนแจ้งรถสาธารณะ 1584 ก็ตาม

 

อูเบอร์ ผิดอะไร แท็กซี่ ดีตรงไหน  …. ทำไมไม่ให้ทางเลือกประชาชน

ในวันนี้ สำหรับผู้ขับรถสาธารณะ “แท็กซี่” บริการรถโดยสารส่วนตัวอย่า ง”อูเบอร์” กลายเป็นจำเลยของการทำให้พวกเขารายได้หด โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามหัวเมืองท่องเที่ยว ซึ่งบรรดารถแท็กซี่เหล่านี้เน้นรับชาวต่างชาติ และฟันรายได้เป็นกอบเป็นกำกลับบ้าน จากความไม่รู้

ข่าวที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่า ความรุนแรงของแท็กซี่กับอูเบอร์ที่มีความวิกฤต จนเกิดการล้อมรถ ขับรถไล่ตามอย่างกับในหนังแอคชั่น ส่วนใหญ่เกิดในพื้นที่เขตเมืองท่องเที่ยว เช่นเชียงใหม่ , ภูเก็ต กระทั่งพัทยา ด้วยวิธีการหากินของแท็กซี่ตามหัวเมืองเหล่านี้แตกต่างจากในเมืองกรุงบ้านเรา

ในแง่ผู้บริโภค คนใช้บริการอูเบอร์ เพราะต้องการบริการที่ดีกว่า การขึ้นรถแล้ววางใจได้ จนแทบจะสามารถหลับโดยสารได้เลย น้อยครั้งมากที่จะเกิดเรื่องไม่ดีในการใช้บริการอูเบอร์ , ของหายได้คืน ,คนขับขับดี ,รถคันใหญ่ มันทำให้ประสบการณ์รับบริการดีกว่าแท็กซี่
กลับกัน  แท็กซี่เองกลับไม่มีพัฒนาการที่ดีขึ้นเลย ไม่ว่าจะในทางใด ถ้าไม่นับตั้งแต่ยุคก่อนที่เป็นแท็กซี่เหมาเส้นทาง มาสุ่แท็กซี่มิเตอร์ ,ผู้ให้บริการรถแท็กซี่ก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไร แถมพฤติกรรมผู้ขับขี่ก็แย่ลงตามลำดับ น้อยมากที่จะได้รับหรือได้เห็นแท็กซี่คนดีของสังคม เนื่องจากผู้ขับขี่ในลักษณะรถเช่ามีเยอะกว่า ผู้ขับขี่ที่ขับให้บริการด้วยรถตัวเอง ประกอบกับค่าใช้จ่ายในการเช่ารถต่างๆ ค่อนข้างสูงมาก ทำให้ผู้ขับขี่รถแท็กซี่อาจมีความกดดันให้การทำมาหาเลี้ยงชีพมากขึ้น โดยภาครัฐไม่เคยควบคุมการให้เช่าแท็กซี่ ว่า อู่ควรจะมีการทำธุรกิจอย่างไร เพื่อลดแรงกดดันของคนขับ ซึ่งย่อมจะทำให้บริการรถแท็กซี่ดีขึ้นบ้างไม่มาก็น้อย

 

Car sharing   ของจริงทีกำลังมา เมื่อคนอาจไม่ใช้รถสาธารณะอีกต่อไป

ประเด็นเรื่อง “อูเบอร์” กับแท็กซี่เชื่อว่าจะยังคงมีต่อไป เนื่องจากในภาพของแท็กซี่ อูเบอร์คือบริการที่ผิดกฎหมายและสมควรปราบให้สิ้น แต่ในระหว่างทางที่ชิงว่าใครเป็นเจ้ารถยนต์สาธารณะกันแน่ ก็มีบริการใหม่กำลังจะเกิดขึ้น และมีให้บริการแล้วในไทยกับ  “บริการรถเช่าช่วงใช้” หรือฝรั่งเรียก   Car Sharing

บริการ  Car Sharing   กำลังได้รับความนิยมมากในต่างประเทศ เนื่องจากผู้ใช้บริการไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของรถเอง แต่สามารถคว้ารถไปขับได้เมื่อต้องการ โดยจ่ายค่าบริการเป็นรายชั่วโมงและระยะทางที่ผู้เช่าขับขี่ สร้างความสะดวกสบายในการเดินทาง ไม่ต้องไปรอเวลารถมารับ หรือเรียกรถแล้วไม่มาเสียที

บริการ Car Sharing   ในต่างประเทศ คุณสามารถขับรถจากจุดเริ่มต้นแล้วไปจอดยังปลายทางได้ โดยไม่จำเป็นต้องขับกลับมาจอดที่เดิม ปัจจุบันในบ้านเรามีบริการที่ชื่อว่า  “Haup Car” เริ่มให้บริการแล้ว แต่แย่หน่อยที่ยังไม่สามารถขับไปจอดต่างจุดได้ เนื่องจากยังไม่รองรับการใช้งานเปลี่ยนสถานที่จุดจอดรถ

บริการรูปแบบนี้ทำให้คนไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของรถเอง เหมือนปัจจุบัน ซึ่งเราใช้รถเพียงเดินทางในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน หรือยามเร่งรีบเท่านั้น แต่เมื่อถึงที่ทำงานรถก็จอดตายไม่ได้ใช้งาน ซึ่งทำให้บริษัททางด้านการขนส่งคิดบริการแบบนี้ขึ้นมา และเชื่อว่าจะได้รับความนิยมอย่างมากในอนาคต ซึ่งคนรุ่นใหม่อาจต้องการความสะดวกสบายมากกว่าการครอบครองรถ ที่มีค่าใช้จ่ายในการดูแลสูงมาก

ปัจจุบัน  Haupcar  มีให้บริการแล้วในหลายที อาทิ ม.ธรรมศาสตร์วิทยาเขต รังสิต ,ม.รังสิต, ม.เกษตร , และสถานที่ต่างๆ ตามแนวรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานคร และมันน่าจะเป็นคำตอบของการเดินทางในอนาคต ซึ่งผู้ใช้สามารถเข้าถึงได้ง่าย รวมถึงลดภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตได้เป็นอย่างดี

 

 

 

กรณีรถสาธารณะในวันนี้เราอาจจะต้องยอมรับว่ามันจะยังมีอยู่ต่อไป ตราบใดที่รัฐบาลไม่แก้ไข และกฎหมายยังไม่เอื้อ บริการ “อูเบอร์” ก็จะยังตรงถูกตราว่าผิดกฎหมายต่อไป ทั้งที่มันสะดวกสบายบริการดี และถูกใช้ประชาชน มากกว่ารถแท็กซีเสียอีก

ชอบกดไลค์ใช่กดแชร์ ขอบคุณทุกกำลังใจสำหรับพวกเรา   ridebuster.com 



แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่