TVS Apache RTR 310 สปอร์ต-เนคเก็ทไบค์น้องใหม่ จากแบรนด์อินเดีย ถูกเผยโฉมอย่างเป็นทางการครั้งแรกในโลกที่ไทย พร้อมสเป็คและออพชันสุดอลังการ ที่แม้แต่ตัวพันบางคันยังอาย
TVS Apache RTR 310 แท้จริงแล้ว มันอาจเหมือนเป็นคู่แฝดกับ BMW G310R ที่ทางค่ายใบพัดสีฟ้าจ้าง TVS ผลิตให้มาตั้งแต่หลายปีก่อน ด้วยการใช้พื้นฐานโครงสร้างเดียวกัน โดยเฉพาะในส่วนของเมนเฟรม และเครื่องยนต์ แต่เนื่องจากในคราวนี้ มันคือรถที่จะถูกวางจำหน่ายในฐานะรถมอเตอร์ไซค์เรือธงหลักของแบรนด์ ทางค่ายอินเดียจึงใส่ความเป็นตัวเองเข้าไปอย่างเต็มขั้น
ตั้งแต่งานออกแบบที่ถูกใส่ความโฉบเฉี่ยวเข้าไปอย่างเต็มที่ ตั้งแต่หัวจรดท้าย ยันอกล่าง และทำให้ตัวรถดูล้ำสมัยกว่าใครในคลาสเดียวกัน และยังมาพร้อมกับ ชุดไฟหน้า LED ไดนามิก ที่สามารถปรับความสว่างได้ 3 ระดับ แปรผันตามความเร็ว เสริมด้วยไฟเบรกแบบไดนามิก ที่จะมีการกระพริบเป็นจังหวะ เมื่อรถพบการเบรกแบบฉุกเฉินใส่มาให้ด้วย
ด้านชิ้นส่วนโครงสร้างหลัก มาพร้อมกับชุดเมนเฟรมโครงเหล็กถักแบบเดียวกันกับ BMW G310R แต่มีการเปลี่ยนซับเฟรมใหม่ เป็นแบบโครงอลูมิเนียมหล่อขึ้นรูป เพื่อน้ำหนักที่เบากว่า เสริมด้วยแฮนด์บาร์แบบสปอร์ตที่สามารถปรับตำแหน่งได้ 4 ระดับ เพื่อความเข้ากันกับตัวผู้ขี่ให้มากที่สุด โดยที่ตัวเบาะนั่งมีความสูงเพียง 800 มิลลิเมตร เท่านั้น
ฝั่งระบบช่วงล่างเอง ก็มีการจับมือกับ KYB ในการสร้างชุดโช้กอัพตะเกียบคู่หัวกลับทางด้านหน้า และโช้กเดี่ยวพร้อมสวิงอาร์มอลูมิเนียมหล่อขึ้นรูปทางด้านหลัง
และระบบเบรกเอง ก็ถูกทำโดย Bybre (By Brembo) ด้วยคาลิปเปอร์เบรกหน้าแบบเรเดียลเมาท์ 4 พอร์ท ทำงานร่วมกับจานเบรกเดี่ยวขนาด 300 มิลลิเมตร และด้านหลังโฟลทติ้งเมาท์ 1 พอร์ท ทำงานร่วมกับจานเบรกเดี่ยวขนาด 240 มิลลิเมตร พร้อมระบบ ABS แบบ Dual Chanel
ส่วนชุดล้อที่ให้มา ก็เป็นล้ออัลลอยด์ขนาด 17 นิ้ว รัดด้วยยางขนาด 110/70-17 ทางด้านหน้า และ 150/60-17 ทางด้านหลัง ซึ่งยางที่ว่านั้น ก็จัดเต็มด้วยยาง Michelin Road 5 ที่ไม่ได้มีดีแค่ความเป็นยางเรเดียลเท่านั้น แต่ยังเป็นยางแบบหลายคอมปาวน์ที่ไม่เคยถูกใส่ติดรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใดในคลาสนี้มาก่อนทั้งสิ้น
ด้านเครื่องยนต์ของตัวรถ เป็นแบบเครื่องยนต์สูบเดียว DOHC 4 วาล์ว ขนาด 312.2cc พร้อมจัดองศาเสื้อสูบแบบเอียงย้อนหลัง เพื่อจัดสมดุลเครื่องยนต์ให้อยู่กลางลำตัวรถให้มากที่สุด และเครื่องยนต์ลูกนี้ จะสามารถให้กำลังสูงสุด 35.6 แรงม้าที่ 9,700 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 28.7 นิวตันเมตรที่ 6,650 รอบต่อนาที
พร้อมส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ 6 สปีด พร้อมระบบสลิปเปอร์คลัทช์ และมีระบบควิกชิฟท์เตอร์แบบ 2 ทางขึ้นลง ที่สามารถทำงานได้ตั้งแต่ช่วงรอบเครื่องยนต์ 2,300 รอบ/นาทีขึ้นไป ช่วยให้รถสามารถเร่งความเร็วจาก 0-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลาเพียง 2.81 วินาที
นอกจากนี้ ตัวรถยังมีโหมดการขับขี่ให้เลือกปรับถึง 5 โหมดด้วยกัน ได้แก่ Urban, Rain, Sports, Track และ Supermoto ซึ่งโหมดสุดท้ายจะทำการปิดการทำงานของระบบ ABS ล้อหลัง เพื่อการออกแอคชันต่างๆของผู้ขี่ที่ง่ายดายยิ่งขึ้น
แต่สิ่งที่น่าสนใจที่แท้จริงของตัวรถ Apache RTR 310 ก็คือ การมีตัวเลือกออพชันที่จัดเต็มมากๆ เพราะหากลูกค้าเลือกซื้อรถด้วยออพชันเสริมเต็มพิกัด Dynamic Pro ลูกค้าก็จะได้ลูกเล่นต่างๆเข้ามามากมาย ทั้ง ชุดหน้าจอมาตรวัดแบบ Full Digital TFT ขนาด 5 นิ้ว พร้อมฟังก์ชันการปรับแต่งและเก็บข้อมูลต่างๆมากมาย แม้กระทั่งระบบเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือผ่านสัญญาณบลูทูธ ระบบสั่งการด้วยเสียง ระบบควบคุมกล้อง GoPro ระบบนำทางด้วย GPS แบบ Turn-By-Turn ก็ยังมีมาให้
เท่านั้นยังไม่พอ ตัวรถยังจะได้รับการติดตั้งชุดเซนเซอร์วัดแรงเฉื่อย หรือ IMU แบบ 6 แกนเข้ามา จึงทำให้มันได้รับการติดตั้งระบบเสริมอีกเพียบ เช่น ระบบ Cornering-ABS, Cornering-Cruise Control, ระบบป้องกันล้อหน้าลอยตัวขณะเปิดคันเร่ง, ระบบป้องกันล้อหลังลอยตัวขณะเบรก, ระบบรักษาสเถียรภาพตัวรถ, ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน
ส่วนการปรับปรุงในเรื่องกลไกล ก็ยังมีการติดตั้งชุดโช้กอัพที่สามารถปรับเซ็ทได้ทุกค่าเข้าไปอีกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง และยังมีการเสริมระบบตรวจวัดแรงดันลมยางให้อีก เพื่อความอุ่นใจของผู้ใช้ ปิดท้ายด้วยระบบเบาะนั่งปรับอุณหภูมิที่สามารถเลือกได้ว่าจะให้มันอุ่น ขณะขี่รถในช่วงหน้าหนาว หรือให้ตัวเบาะเย็น เพื่อความสบายขณะเดินทางท่ามกลางอากาศร้อนก็ได้
โดยแม้ TVS Apache RTR 310 จะถูกนำมาเปิดตัวเป็นครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย แต่จากการพูดคุยกับทีมงาน TVS ในเบื้องต้น ณ ตอนนี้ทางค่ายยังไม่สามารถระบุได้เลยว่าพวกเขาจะพร้อมขายรถมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้ในบ้านเราเมื่อไหร่ เนื่องจากบริษัท TVS Thailand ยังไม่มีการก่อตั้งขึ้นเลยด้วยซ้ำ
แต่หากบริษัทมีแผนจะรุกตลาดประเทศไทยจริง เช่นเดียวกับแบรนด์อินเดียเจ้าอื่นๆที่เริ่มให้ความสนใจในประเทศไทยมากขึ้นเรื่อยๆ เจ้าสปอร์ต-เนคเก็ทไบค์คันนี้ก็ถือว่าน่าสนใจพอสมควร เพราะมันถูกตั้งราคาวางจำหน่ายในประเทศอินเดีย ด้วยตัวเลขเริ่มต้นเพียง 242,990 รูปีย์ หรือราวๆ 104,000 บาท เท่านั้น และหากเป็นรุ่นแพงสุดแบบใส่ออพชันเสริมเต็มขั้นก็บวกเงินเพิ่มอีกไม่กี่หมื่นบาทเท่านั้น
