ขณะที่ Toyota Yaris รุ่นปี 2023 ในประเทศไทย มีความแตกต่างจากโฉมก่อนเพียงไม่กี่จุด โดยเฉพาะเรื่องของงานออกแบบภายในและภายนอกที่เห็นด้วยตา ทว่าสำหรับตัวรถสเป็คยุโรปกลับต่างออกไป เพราะมันมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ และขุมกำลังไฮบริดใหม่ที่แรงขึ้น

Toyota Yaris 2023 สเป็คทวีปยุโรป ยังคงมาพร้อมกับหน้าตาเดิม เหมือนกับที่เคยขายมาตั้งแต่ปี 2020 ซึ่งเป็นตัวรถคนละพื้นฐานกับ Yaris ที่ขายในบ้านเรา แต่จุดที่เปลี่ยนไปจริงๆของมัน ในครั้งนี้หลักๆแล้ว ก็จะอยู่ที่การเพิ่มออพชันต่างๆเข้าไปเพื่อให้ตัวรถมีความครบครันในการใช้งานมากยิ่งขึ้น

เริ่มจากออพชันขุมกำลังระบบไฮบริด ที่แต่เดิม จะมีเฉพาะรุ่น Hybrid 115 คราวนี้ก็มีการเพิ่มรุ่นย่อยใหม่ที่แรงกว่าเดิม เป็น Hybrid 130 ซึ่งหมายถึงตัวรถที่นพเอาเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียง 1.5 ลิตร มาจับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าลูกใหม่ทีแรงกว่าเดิม จนส่งผลให้มันมีพละกำลังสุทธิทีี่มากขึ้นเป็น 130 PS และแรงบิดสูงสุดก็เพิ่มขึ้นอีก เป็น 185 นิวตันเมตร

และด้วยพละกำลังที่มากขึ้นกว่าเดิมถึงราวๆ 30% ทาง Toyota Europe ระบุว่ามันจะช่วยในเรื่องจังหวะเร่งแซงเป็นอย่างมาก เพราะในคราวนี้ตัวรถสามารถเร่งความเร็วจาก 80-120 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายในเวลา 7.5 วินาที ส่วนอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง เอง ก็ลดลงถึง 0.5 วินาที เหลือ 9.2 วินาที เท่านั้น

ด้านระบบอินโฟเทนเมนท์ หรือลูกเล่นภายในห้องโดยสาร ก็ถูกอัพเดทใหม่ให้มีความทันสมัยขึ้นเช่นกัน ทั้งหน้าจอมาตรวัดใหม่แบบฟูลดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้ว หนือ 7 นิ้ว แล้วแต่รุ่นย่อย ที่ผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลได้ จาก 4 จังเลือกที่มี

ส่วนจอระบบอินโฟเทนเมนท์ตรงกลาง ก็มี 2 ขนาด คือ 9 นิ้ว หรือ 10.5 นิ้ว แล้วแต่รุ่นย่อยเช่นกัน ซึ่งแม้ขนาดของมันอาจจะไม่ใหญ่มาก แต่ก็มาพร้อมกับฟังก์ชันระบบ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย แถมทาง Toyota ยังปรับปรุงระบบสั่งการด้วยเสียงใหม่ ให้มีความฉลาดและรับคำสั่งได้อย่างรวดเร็ว ว่องไว ครอบคลุมมากขึ้นด้วย

ไม่เพียงเท่านั้น ในคราวนี้ ตัวรถจะมาพร้อมกับฟังก์ชันระบบ Digital Smart Key ที่ผู้ใช้สามารถทำให้โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นแบบ iOS หรือ Android ให้กลายเป็นกุญแจอัจฉริยะได้ ทั้งในส่วนของการสั่งปลดล็อค หรือล็อครถระยะไกล, ควบคุมระบบปรับอากาศ หรือเปิด/ปิดระบบไฟฉุกเฉิน

ทว่าออพชันนี้ จะเป็นออพชันที่ลูกค้าต้องเสียเงินซื้อแยกเป็นรายปี แต่หากซื้อตัวรถรุ่นบนสุด ลูกค้าก็จะได้ใช้ฟังก์ชันนี้ฟรีไปเลย 1 ปี

สิ่งสุดท้ายที่ถือเป็นไฮไลท์ของ Yaris 2023 สเป็คยุโรป ก็คือการอัพเกรดระบบความปลอดภัย กับแพ็คเกจใหม่ ที่มีชื่อเล่นว่า “T-Mate” ซึ่งจะประกอบไปด้วย ระบบตรวจจับการชน ที่สามารถตรวจจับรถมอเตอร์ไซค์ได้แล้ว จากเดิมที่สามารถจับได้เพียง รถยนต์ คนเดินถนน และคนปั่นจักรยาน

อีกระบบที่ถูกใส่เพิ่มเข้าไป ก็คือระบบ Acceleration Suppression At Low Speed หรือ ระบบที่จะคอยตัดกำลังเครื่องยนต์ลง หากระบบพบว่าผู้ขับเร่งรถแรงเกินไปจนจะชนรถคันข้างหน้า คล้ายๆระบบป้องกันการเติมคันเร่งผิดวิธีที่จะตัดการใช้คันเร่งทิ้งเมื่อระบบพบว่ารถกำลังเคลื่อนที่เข้าหากำแพง กระทันหันจากหยุดนิ่ง

ตามด้วยระบบ Emergency Driving Stop System ซึ่งจะต้องทำงานร่วมกับระบบ Lane Trace Assist ที่หากระบบพบว่าผู้ขับไม่ได้อยู่ในสภาวะตื่นรู้ (ไม่สามารถขับรถต่อได้) ระบบจะค่อยๆนำรถออกจากเลนไปจอดที่ไหล่ทาง พร้อมเปิดไปฉุกเฉิน และปลดล็อคประตูไว้ เพื่อให้หน่วยกู้ภัยสามารถช่วยเหลือได้สะดวก

อีกระบบช่วยเหลือที่น่าสนใจ คือระบบ Proactive Driving Assist ที่จะช่วยชลอความเร็วรถลง หากผู้ใช้พยายามเติมคันเร่งในจังหวะเข้าโค้ง แล้วรถพบว่ามันเร็วเกินไป จนอาจเกิดความเสี่ยงที่จะหลุดโค้งได้ง่ายๆ ซึ่งหากแค่การลดความเร็วยังไม่พอ ระบบก็จะทำการเสริมแรงดึงพวงมาลัยหักเข้าโค้งให้ด้วย แต่จะให้ระบบดึงหนักขนาดไหน ผู้ขับก็สามารถปรับเองได้เช่นกัน เพื่อลดความกวนใจขณะใช้งาน

ด้านราคาสำหรับการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ณ ขณะนี้ Toyota EU ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลในจุดนี้ออกมาใดๆทั้งสิ้น ส่วนใครที่รอคอย อยากได้เจ้า Toyota Yaris 2023 รุ่นนี้ที่ขายในยุโรป ก็ขอบอกว่าหมดหวังไปได้เลย เพราะอย่างที่เราเกริ่นไปแต่แรกว่า Toyota ประเทศไทย เลือกที่จะขาย Yaris คนละเวอร์ชันกับตลาดยุโรป เว้นเสียแต่ว่าคนที่อยากได้จริงๆจะเลือกนำเข้ามันมาด้วยตนเอง ผ่านผู้นำเข้าอิสระ

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่