เรียกว่า เป็นมหากาพย์ มายาวนาน สำหรับ กรณี นำเข้ารถยนต์ไฮบริด Toyota Prius เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย ของ บริษัทรถยนต์รายใหญ่ โตโยต้า โดยทางบริษัท คาดว่า ได้ใช้สิทธิ อนุสัญญาระหว่างสองประเทศ ที่เรียกว่าความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย – ญี่ปุ่น (JTEPA) เพื่อลดอัตราอากรขาเข้าในการนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์พรีอุส

ล่าสุด วานนี้ ( 15 กันยายน 2565) ศาฏีกา ได้มีคำตัดสิน เมื่อเวลา 11.00 น. โดยชี้ว่า ชิ้นส่วนรถยนต์ที่โจทก์นำเข้าเมื่อประกอบเข้าด้วยกันแล้วมีลักษณะอันเป็นสาระสำคัญขอรถยนต์โตโยต้า รุ่นพรีอุส และสามารถนำไปประกอบเป็นรถยนต์โตโยต้ารุ่นพรีอุส ได้ทันที จึงต้องจำแนกเข้าประเภทพิกัดของชิ้นส่วนที่สมบูรณ์หรือสำเร็จแล้วที่นำเข้ามาโดยถอดแยกออกจากกันหรือยังไม่ได้ประกอบเข้าด้วยกันในฐานะที่เป็นชิ้นส่วนครบชุดสมบูรณ์ ประเภทพิกัด 8703.23.81 หรือ 8703.23.51 (ตามช่วงเวลาที่นำเข้า)

Toyota-Prius-History017

ตามหลักเกณฑ์การตีความพิกัดอัตราศุลกากร ข้อ 1 ข้อ 2 (ก) และข้อ 6 ในภาค 1 ท้ายพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 จึงไม่ได้รับยกเว้นอากรและลดอัตราอากรตามประกาศกระทรวงการคลังที่ออกมาเพื่อให้เป็นไปตามความตกลง JTEPA

คำพิพากษา ของศาล

โตโยต้า น้อมรับผล การตัดสิน

ทางด้าน โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์ อย่างเป็นทางการ ภายหลัง จากรับสำเนา คำตัดสิน ของ ศาล โดยมีการชี้แจงว่า

วันนี้ศาลฎีกาได้อ่านคำพิพากษาคดีพรีอุส ซึ่งเป็นคดีเกี่ยวกับการตีความอัตราอากรขาเข้าสำหรับชิ้นส่วนรถยนต์พรีอุส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จึงใคร่ขอแถลงการณ์เกี่ยวกับคำพิพากษาของศาลฎีกาดังกล่าวดังต่อไปนี้

Toyota Prius 2010
Toyota Prius

“บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด (“บริษัทฯ“) ขอแสดงความเคารพต่อคำพิพากษาของศาลฎีกาในวันนี้ ทั้งนี้ คดีดังกล่าวนี้มีประเด็นเกี่ยวกับการตีความข้อกฎหมายซึ่งยังไม่เคยมีการวินิจฉัยมาก่อน และเป็นประเด็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์และข้อตกลงทางการค้าระหว่างประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น กล่าวคือ บริษัทฯ ได้ใช้สิทธิประโยชน์ตามอนุสัญญาระหว่างสองประเทศ ที่เรียกว่าความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย – ญี่ปุ่น (JTEPA) เพื่อลดอัตราอากรขาเข้าในการนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์พรีอุส ซึ่งในปี 2553 หน่วยงานราชการของไทยที่เกี่ยวข้องได้อนุมัติการใช้สิทธิประโยชน์ดังกล่าวแล้ว บริษัทฯ จึงมีความเชื่อมั่นมาโดยตลอดว่า บริษัทฯ ได้ดำเนินการตามข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าสินค้าดังกล่าวอย่างถูกต้องมาโดยตลอด

อย่างไรก็ตาม เมื่อปี 2555 กรมศุลกากรได้ตีความกฎการนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์พรีอุสในแนวทางซึ่งแตกต่างไปจากเดิม ซึ่งทำให้บริษัทฯ มีภาระภาษีและอากรขาเข้าเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก คำพิพากษาของศาลฎีกาในวันนี้ได้ตีความในแนวทางเดียวกันกับการตีความของกรมศุลกากร ดังนั้น เมื่อบริษัทฯ ได้รับสำเนาคำพิพากษาของศาลฎีกาแล้ว บริษัทฯ จะศึกษารายละเอียดของคำพิพากษา และปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ต่อไป

บริษัทฯ ขอยืนยันว่า บริษัทฯ ยึดมั่นที่จะประกอบธุรกิจของบริษัทฯ ให้เป็นไปตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องทุกประการ โดยบริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนอุตสาหกรรมรถยนต์ในไทยและพัฒนาสินค้าและบริการเพื่อให้ลูกค้าในประเทศไทยได้รับความพึงพอใจสูงสุด และเพื่อส่งเสริมพันธกิจขององค์กรในการขับเคลื่อนความสุขสู่สังคมไทย”

ทั้งนี้ รถยนต์ Toyota Prius เป็นรถยนต์นั่งเครื่องยนต์ไฮบริด ที่เคยนำเข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทย โดยภายหลังจากมีข้อพิพาท ทางบริษัท จึงยุติการขายรถรุ่นดังกล่าว และไม่มีรถไฮบริดเข้ามาขายอีก จนกระทั่ง การมาของ Toyota C-HR และภายหลัง ได้ขยายไลนือัพสินค้า Toyota Corolla Hybrid เพื่อกลับมาตอบโจทย์ รถในรูปแบบ เดียวกับพรีอุส

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่