Toyota Mirai ก้าวเข้าสู่เจเนอเรชันที่ 2 มาตั้งแต่ปี 2021 และตอนนี้ในปี 2023 ก็ได้เวลาแล้วที่มันจะได้รับการรอัพเดทความสดใหม่อีกครั้ง ด้วยการเพิ่มออพชันความบันเทิงใหม่เข้าไป เพื่อให้มันทันสมัยยิ่งขึ้น
Toyota Mirai 2023 เปิดตัวร่างปรับสเป็คใหม่เป็นครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา โดยแม้ในคราวนี้ มันจะยังคงมาพร้อมกับภาพลักษณ์ภายนอกที่คล้ายเดิม แต่ภายในของมันก็ได้รับการปรับปรุงใหม่ โดยมีการขยายขนาดหน้าจอระบบอินโฟเทนเมนท์ใหม่ ให้ใหญ่ขึ้นเป็นขนาด 12.3 นิ้ว
ซึ่งมันก็จะมาพร้อมกับระบบ Intelligent Assistant หรือระบบช่วยเหลือผู้ใช้อัจฉริยะ ที่จะประกอบไปด้วยฟังก์ชันย่อยมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ระบบเสียงตอบรับตอนสตาร์ทระบบรถ ซึ่งสามารถเปลี่ยนให้เป็นเสียงบรรยายสถาพอากาศประจำวันในภายหลังได้ หรือจะใช้สั่งการระบบวิทยุ หรือระบบนำทางด้วยเสียง ก็ยังได้ ซึ่งระบบมัลติมีเดีย หรือระบบบความบันเทิง และระบบนำทางทั้งหมด ก็จะเป็นระบบที่พัฒนาโดยทาง Google ทั้งสิ้น
แน่นอน เพื่อให้ระบความบันเทิงมีความตรงยุค มันจึงมาพร้อมกับการรองรับ ระบบ Apple CarPlay, Andriod Auto ที่ชาวไทยคุ้นเคยกันดี และยังมีระบบสตรีมมิงเพลงอย่าง Apple Music กับ Amazon Music ใส่มาให้ด้วย ซึ่งการอัพเดทซอฟท์แวร์ทั้งหมด สามารถทำได้ผ่านระบบ OTA
ในส่วนออพชันอื่นๆเพิ่มเติมที่น่าสนใจ ก็จะมีทั้งการที่มันได้ใช้ชุดหน้าจอแสดงผลมาตรวัดต่างๆ แบบ Full-Digital ขนาด 8 นิ้ว, ระบบบไวร์เลสชาร์จ, ลำโพง JBL 14 จุด, เบาะคู่หน้าพร้อมระบบทำความร้อนและการปรับไฟฟ้า ที่ให้มาทั้งหมดตั้งแต่รุ่นพื้นฐาน ราคา 49,500 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราวๆ 1.69 ล้านบาท
ส่วนรุ่นบนสุด ก็จะได้ออพชันที่หรูหรามากขึ้น ทั้งเบาะนั่งพร้อมระบบทำความร้อนและทำความเย็นทุกตำแหน่ง, ระบบแอร์แบบ 3 โซน, ไฟแวดล้อม 8 เฉด, หลังคากระจกแก้ว, กระจกมองหลังแบบดิจิตอล พร้อมระบบ HomeLink ในราคา 66,000 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราวๆ 2.25 ล้านบาท
หากแค่นั้นยังไม่พอ ลูกค้าที่ซื้อตัวรถรุ่นบนสุด ก็ยังสามารถเพิ่มเงินอีก 5,170 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราวๆ 176,000 บาท เพื่อเพิ่มเติมในส่วนของระบบ ADAS ที่มีฟังก์ชันย่อยเป็นระบบขับกึ่งอัตโนมัติ ด้วยเซนเซอร์จากกล้องและระบบ LiDAR ที่ช่วยลดความเมื่อยล้าของผู้ขับบนทางด่วนได้ ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีระบบช่วยจอด ที่สามารถทำงานได้ทั้งการเข้าซองข้างถนน หรือถอยหลังเข้าซองจอดได้เองอีกด้วย
ทั้งนี้ ในส่วนรายละเอียดทางเทคนิคอื่นๆของตัวรถ Toyota Mirai 2023 ก็ยังคงไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมเท่าไหร่นัก เพราะมันยังคงใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าลูกเดียว กำลังสูงสุด 182 แรงม้า PS พร้อมความสามารถในการเรียกอัตราเร่งจาก 0-96 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ใน 9.2 วินาที กับระยะทางในการวิ่งสูงสุด 647 กิโลเมตร ต่อการเติมก๊าซไฮโดรเจนเต็มถังหนึ่งถัง
ส่วนการวางจำหน่ายในประเทศไทย ยังคงต้องรอการอัพเดทข้อมูลกันต่อไป เพราะแม้ทาง Toyota จะมีการนำตัวรถ Mirai มาวิ่งทดสอบเก็บข้อมูลอย่างจริงจังตั้งแต่ปีก่อนแล้ว ทว่าระบบโครงข่ายสถานีก๊าซไฮโดรเจนที่น้อยเกินไปในปัจจุบัน ยังเป็นปัญหาสำคัญที่ทำให้รถรุ่นนี้ยังไม่สามารถวางขายให้กับบุคคลทั่วไปได้นั่นเอง
