พึ่งจะเปิดตัวเวอร์ชัน HEV ไปเมื่อเดือนที่แล้วสำหรับ Toyota Crown Sport คราวนี้มาถึงคิวเวอร์ชันปลั๊กอินไฮบริดเปิดขายญี่ปุ่น
หล่อมีเอกลักษณ์ด้วยตรามงกฎที่ขอบฝากระโปรงหน้าพร้อมออปชันเด่นทั้งไฟหน้าเป็นแบบ LED 3 ดวงและ Bi-Beam LED ดวงเดียวแบบ Characteristic daylight กระจังหน้ากริตเตอร์ขอบใหญ่ขอบสีเดียวกับตัวรถพร้อมช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ในชุดกันชนหน้าทรงสปอร์ตคิ้วชายล่างกันชนหน้าสีดำ คิ้วขอบล้อสีดำลงตัวด้วยล้ออัลลอยขนาดใหญ่สุด 21 นิ้ว สีดำด้าน ด้านท้ายติดตั้งไฟท้าย LED เส้นเดียวแนวยาวรับกันชนหลังสีเดียวกับตัวรถเสริมลิ้นกันชนหลังขนาดใหญ่สีดำ พร้อมตรา PHEV ท้ายรถ และช่องเสียบ AC DC ด้านหลังฝั่งขวาของตัวรถ
ภายในหรูหราตั้งแต่จอทัชสกรีนคู่ 12.3 นิ้ว ที่มีทั้งมาตรวัดดิจิตอลและจอสัมผัสควบคุมระบบบันเทิงและการเชื่อมต่อในชุดจอเดียวกัน เชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlayไร้สาย Android Auto พร้อมลำโพงมากถึง 11 จุด จาก JBL เครื่องปรับอากาศแยกส่วน 3 จุดทั้งด้านหน้าซ้ายขวา และด้านหลังหนึ่งจุด มีช่องปลั๊กเสียบแรงดันไฟฟ้าสูงสุด AC100V รองรับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีกำลังไฟสูงสุด 1,500W จ่ายไฟภายนอกได้สะดวก ภายในโทนดำแดง เบาะนั่งทรงสปอร์ตหนังแท้ดำเดินด้ายแดง หัวเกียร์หุ้มหนังดำล้วน เข็มขัดนิรภัยเส้นสีแดงเติมความร้อนแรงขึ้นอีกขั้นและพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านตกแต่งฐานสีแดงติดตราโลโก้ตรามงกุฎ
ขุมพลัง Plug In Hybrid มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน Dynamic Force PHEV ขนาด 2.5 ลิตร ให้กำลังถึง 177 แรงม้าแรงบิด 219 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว แบบ Permanent Magnet Synchronous Motor รหัส 5NM ให้กำลังมากถึง 182 แรงม้า แรงบิด 270 นิวตันเมตร สำหรับล้อหน้า และล้อหลังให้กำลัง 54 แรงม้า แรงบิด 121 นิวตันเมตร พร้อมความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 14.85 kWh
เมื่อทำงานร่วมกันให้แรงม้ารวม 306 แรงม้า คู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ ECVT พร้อม Sequential Shift พร้อมโหมดการขับขี่ถึงสี่โหมดได้แก่ EV,EV/HEV,HEV และชาร์จแบตเตอรี่ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ e-Four วิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้า EV ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง 90 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTC ชาร์จมีสองรูปแบบทั้งกระแสสลับ AC แบบ Type 1 รองรับกำลังการชาร์จสูงสุด 6.6 kW ใช้เวลาเพียง 2.30 ชั่วโมง และกระแสตรง DC CHAdeMO 20-80% ภายในเวลา 38 นาที วิ่งไกลสุดในโหมดไฮบริดมากกว่า 1,200 กิโลเมตรต่อการชาร์จและการเติมน้ำมันหนึ่งครั้ง พร้อมระบบ V2H Vehicle-to-Home พลังงานแสงอาทิตย์มาเก็บไว้ในแบตเตอรี่ของรถยนต์เพื่อเป็นแหล่งพลังงานให้กับที่อยู่อาศัย
พร้อมช่วงล่างปรับแปรผันแบบ AVS และดิสก์เบรกสี่ล้อเริ่มที่จานดิสก์เบรกหน้าขนาด 20 นิ้ว พร้อมคาลิปเปอร์อะลูมิเนียม 6 ลูกสูบ เพื่อเพิ่มระยะการเบรกดีขึ้น และคาลิปเปอร์เบรกทั้งหน้าและหลังทาสีแดงเพื่อเพิ่มภาพลักษณ์แบบสปอร์ตและ Toyota Safety Sense 3.0 โดยจำหน่ายที่ญี่ปุ่นด้วยรุ่น PHEV Sport RS ในราคา 7,650,000 Yen หรือราว 1,859,000 บาท
