กว่า 60 ปี ที่ Toyota Corolla รับบทบาทเป็นซีดานคอมแพ็คยอดนิยมที่ได้รับการตอบรับอย่างดีทั้งไทยและเทศซึ่งผ่านร้อนผ่านหนาวมาแล้ว 12 เจน

ถึงแม้เจนที่ 12 ไม่ค่อยประสบความสำเร็จทั้งตลาดเมืองไทยและต่างประเทศ และเข้าสู่ปลายอายุของโมเดลนี้ Toyota จึงพัฒนา Toyota Corolla เจนที่ 13 แต่ก่อนที่จะพบตัวจริง ทางดีไซน์เนอร์นักออกแบบโนเนม Theottle สร้างภาพเรนเดอร์ว่าทีเจน 13 ออกมา

โดยการออกแบบนั้นได้รับอิทธิพลของ Toyota Crown เจนใหม่ มาทั้งด้านหน้าและด้านท้ายอย่างสง่างามด้วยชุดไฟ LED ทั้งหน้าและหลังที่พาดยาวทับฝากระโปรง ไฟหน้าที่ลงตัวกับชุดกระจังหนัา และตราสามห่วงบนฝากระโปรงหน้า แต่ในความจริงงานวิศวกรรมยังคงใช้บริการแพลต์ฟอร์ม TNGA เช่นเดิม

ขุมพลังมีแนวโน้มจะเป็น Dynamic Force M20A-FKS 2.0 ลิตร 170 แรงม้า แรงบิด 202 นิวตันเมตร พร้อมฉีดจ่ายน้ำมันโดยตรง D-4S direct injection และควบคุมการเปิด-ปิด วาลว์ไอดี VVT-iE คู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT แบบ Direct Shift 10 สปีด พร้อม paddle shift ขับเคลื่อนล้อหน้า

และเบนซินใหม่ Dynamic Force Hybrid 2.0 ลิตร คู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้า กำลัง 109 แรงม้า แรงบิด 202 นิวตันเมตรและ มอเตอร์ไฟฟ้าด้านหลังให้กำลังมากถึง 41 แรงม้า ในรุ่น E-Four พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน โดยทำงานร่วมกันให้พลังมากสุด 196 แรงม้า กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ตอบโจทย์ความแรงและประหยัด แต่ยังมีขุมพลังไฮบริด ดั้งเดิมคลาสสิกกับ 2ZR-FXE 1.8 ลิตร ได้แรงม้ารวม 140 แรงม้า

สำหรับการเผยตัวจริงนั้นช่วงสิ้นปี 2024 หรือต้นปี 2025 ได้พบกันสำหรับ เจนที่ 13 Toyota Corolla หรือ Toyota Corolla Altis ส่วนเมืองไทยปี 2025 อาจพบกัน

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่