หลังจากที่มีข่าวคราวมาเป็นพักๆ และในขณะเดียวกันก็เงียบหายไปอีกบ่อยๆ แต่ล่าสุด Elon Musk ก็ได้ออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยตนเองแล้ว สำหรับ Tesla Roadster เจเนอเรชันที่ 2 ที่ใครหลายๆคนรอคอย
ย้อนไปก่อนที่ทุกคนจะได้รู้จักกับ 4 รถรุ่นดังของ Tesla อันได้แก่ Model S, 3, X, Y ความเป็นจริงแล้ว แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าเจ้าใหญ่รายนี้ ได้รุกตลาดรถยนต์อย่างจริงจัง ด้วยการผลิตรถยนต์รุ่นแรกของแบรนด์จริงๆ แบบสปอร์ต 2 ที่นั่ง ขนาดเล็กอย่าง Tesla Roadster ก่อนต่างหาก
และหลังจากที่ตัวรถเจเนอเรชันแรก ได้ถูกยุติการผลิตไป เพื่อเปิดทางให้กับ Tesla Model S เมื่อปี 2012 ตัวรถเจเนอเรชันที่ 2 ของมัน ก็ได้ถูกโดยซีอีโอของค่ายอย่าง Elon Musk เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2014 และเปิดตัวร่างต้นแบบของตัวรถอีกทีในปี 2017 พร้อมเคลมสมรรถนะว่ามันจะสามารถเรียกอัตราเร่ง จาก 0-96 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ใน 1.9 วินาที, วิ่งเข้าเส้นชัยในระยะ 402 เมตร ด้วยเวลาเพียง 8.8 วินาที และมีความเร็วสูงสุดที่ 402 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ที่สำคัญคือ ในการเผยร่างคอนเซ็ปท์รถครั้งนั้น ทาง Tesla ยังเปิดรับจองตัวรถ ด้วยการวางเงินมัดจำ 50,000 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราวๆ 1.7 ล้านบาท ในช่วงเวลาดังกล่าว พร้อมเสริมข้อมูลว่าร่างขายจริงของมันจะปรากฏตัวอีกครั้งในปี 2020 อีกด้วย
แต่อย่างที่หลายคนทราบกันดี ว่าแม้ตอนนี้จะเข้าสู่กลางปี 2023 แล้ว ทว่า Tesla Roadster เจเนอเรชันที่ 2 ก็ยังไม่ปรากฏร่างขายจริงออกมาอยู่ดี จนเราเองก็ไม่แน่ใจแล้วว่าเหล่าลูกค้าที่จับจองรถไปเป็นกลุ่มแรกๆเมื่อปี 2017 จะยังหลงเหลือกันอยู่สักกี่คน
อย่างไรก็ดี ในงานประชุมผู้ลงทุนครั้งล่าสุด Elon Musk ได้มีการกล่าวถึงความเคลื่อนไหวของ Tesla Roadster รุ่นใหม่ ให้ผู้เข้าร่วมงานได้รับทราบกันด้วยว่า เจ้ารถสปอร์ตไฟฟ้า 100% ที่ใครหลายคนกำลังรอคอยกันอยู่นี้ ‘คาดว่า’จะถูกพัฒนาในเชิงวิศวกรรมและงานออกแบบจนแล้วเสร็จภายในปีนี้ และนั่นจึงมีผลต่อเนื่องให้มันอาจพร้อมเข้าสู่ไลน์ผลิตตัวรถร่างขายจริง ภายในปีหน้า
“เราหวังไว้ว่าจะจบการพัฒนาเชิงวิศวกรรมและงานออกแบบของ Tesla Roadster เจเนอเรชันใหม่ ภายในปีนี้, และเราหวัง, หวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าจะได้เริ่มการผลิตมัน, นี่ไม่ใช่คำสัญญา, แต่เราหวังจริงๆว่าจะได้ผลิตมันในปีหน้า” Elon Musk กล่าว
“Roadster ไม่ใช่แค่เกล็ดน้ำตาลไอซ์ซิ่งบนหน้าเค้กเท่านั้น (เปรียบเปรยเหมือนกับว่าเป็นเพียงของตกแต่งหน้าเค้กธรรมดาๆ) แต่มันคือเชอร์รี่บนเกล็ดน้ำตาลไอซ์ซิ่งที่อยู่บนหน้าเค้กอีกที, ดังนั้นมันจึงไม่ใช่ตัวดูดเงินหลักสำหรับบริษัทแน่นอน, มันจะเป็นสิ่งที่ดึงกำไรให้เราน้อยที่สุด, แต่มันจะเด็ดสุดๆแน่นอน (เป็นตัวเด่นที่แพงที่สุดบนหน้าเค้กเหมือนลูกเชอร์รี่)”
