อาจจะจริงอยู่ว่าในช่วงขวบปีที่ผ่านมา เราจะเห็นว่าทาง Tesla ทยอยปรับราคารถยนต์ของพวกเขาลง จนทำให้เหล่าลูกค้าที่ซื้อรถไปก่อน มีอาการหลังหักเป็นว่าเล่น แต่ดูเหมือนว่าพวกเขายังคงมีก็อกใหญ่ก็อกสำคัญ ที่ทำให้ราคารถยนต์ไฟฟ้าของพวกเขามีราคาลดลงได้อีก

โดยแม้ก่อนหน้านี้ Elon Musk จะได้มีการระบุว่าโปรเจ็กท์รถยนต์ไฟฟ้าราคาจับต้องได้ง่ายของบริษัท ซึ่งถูกลือกันว่าจะใช้ชื่อ Tesla Model 2 ได้ถูกพับโปรเจ็กท์ไปแล้ว แต่จากรายงานล่าสุดโดยสื่อใหญ่อย่าง Reuters กลับระบุว่าทางค่ายรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติอเมริกันเจ้านี้ ยังมีแผนที่จะทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าราคาย่อมเยาให้กับชาวโลกอยู่

แต่แทนที่ตัวรถยนต์ไฟฟ้าราคาย่อมเยารุ่นใหม่ของแบรนด์ จะเป็นรถที่ถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่หมดจด เพื่อสร้างความแปลกใหม่ให้กับลูกค้า ทว่าทาง Reuters กลับระบุว่ามันอาจเป็นรถ Tesla Model 3 และ Tesla Model Y ที่ถูกนำมาปรับเปลี่ยนรายละเอียดใหม่ โดยเน้นการตัดออพชันต่างๆที่ไม่จำเป็นออกไป เพื่อให้ราคาวางจำหน่ายถูกลง

“เรามองว่ามันมีความเป็นได้ที่ Tesla จะทำรถยนต์รุ่นตัดสเป็คของ Model 3 และ Model Y ในฐานะรุ่นย่อยราคาถูก, แต่ถึงอย่างนั้น, เราก็ไม่รู้อยู่ดีว่า Tesla จะสามารภหั่นต้นทุนรถลงได้เพียงไหน” Toni Sacconaghi นักวิเคราะห์จาก Bernstien องค์กรด้านงานวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูลด้านธุรกิจระดับโลก กล่าว

ทั้งนี้ การกระทำในลักษณะดังกล่าว อันที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องแปลก หรือเรื่องใหม่เท่าไหร่นัก ในโลกอุตสาหกรรมยานยนต์ ณ เวลาปัจจุบัน เพราะมันคือกลยุทธที่หลายผู้ผลิตต่างนำมาใช้กันเนิ่นนานแล้วไม่น้อยกว่าทศวรรษหนึ่ง

“มันคือกลยุทธแบบดั้งเดิมของผู้ผลิตอยู่แล้ว” Sandeep Rao นักวิเคราะห์ระดับอาวุโสของ Leverage Shares บริษัทวิเคราะห์หุ้นยักษ์ใหญ่ของยุโรป กล่าวเสริมแนวคิดของ Toni Sacconaghi “คุณสามารถเลือกแล้วซื้อ Volkswagen Golf Highline ได้เลย เพราะมันคือตัวรถรุ่นเริ่มต้น (ซึ่งมีราคาถูกมาก) และในขณะเดียวกัน คุณก็สามารถซื้อ Golf GTI (ซึ่งเป็น Golf ตัวแรง) ได้, แม้มันจะมีราคาที่แพงกว่าถึงราว 25% ก็ตาม ”

โดยในความเป็นจริงแล้ว ทาง Tesla เอง ก็เคยยอมรับเช่นกันว่า หากพวกเขาใช้วิธีการสร้างรถยนต์รุ่นใหม่ จากพื้นฐานแพลตฟอร์มรถยนต์ที่พวกเขามีอยู่ในปัจจุบัน นั่นก็จะช่วยให้ตัวรถสามารถพัฒนาและส่งวางจำหน่ายในตลาดได้เร็วยิ่งขึ้น แต่ท้ายที่สุดพวกเขาก็ยังไม่บอกอยู่ดีว่ามันจะทำให้ตัวรถมีราคาถูกลงแค่ไหน อย่างน้อยจนกว่าจะถึงกำหนดวางขายจริงซึ่งเคยถูกระบุไว้ว่าจะเกิดขึ้นในช่วงปี 2025

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่