แม้ในตอนแรก หลายคนอาจมองว่า Tesla Cybertruck ไม่น่ามีโอกาสที่จะถูกนำมาวางจำหน่ายในไทย แต่ล่าสุดกลับมีความเคลื่อนไหวที่ระบุว่ามันอาจกลายเป็นกระบะไฟฟ้าขนาดยักษ์คันแรกของบ้านเราให้เห็นกันแล้ว

จากความเคลื่อนไหวในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา มีหลายข้อมูลที่บ่งชี้ว่าทาง Tesla อาจกำลังเตรียมแผนที่จะเปิดตัว Cybertruck ในบ้านเราเป็นครั้งแรก ไม่ว่าจะจากการที่มีคนพบเห็น “รถตัวอย่าง” กำลังถูกเคลื่อนย้ายลงมาจากเครื่องบินขนส่ง รวมถึงทาง Tesla Thailand เอง ก็มีการส่งข้อความเชิญชวนให้กับเหล่าลูกค้าในช่องทาง Line ของทางค่ายว่าให้เตรียมต้อนรับการมาของเจ้ากระบะไฟฟ้าระดับยักษ์ หรือ Full-Size Truck น้องใหม่รุ่นนี้กันด้วย

โดยจุดเด่นสำคัญของเจ้ากระบะไฟฟ้ารุ่นนี้ หลักๆแล้วก็จะเริ่มจากงานออกแบบภายนอกที่ดูแปลกตา ด้วยแรงบันดาลใจจากการผสมผสานไอเดียล้ำๆของภาพยนต์เรื่อง Blade Runner เข้ากับรถสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก “Wet Nellie” ในภาพยนต์เรื่อง James Bond : The Spy Who Love Me ที่ถูกดัดแปลงมาจากรถ Lotus Esprit S1 รุ่นปี 1976 ตามความชอบของ Elon Musk

จนทำให้มันกลายเป็นรถกระบะที่มาพร้องกับรูปทรงตัวถังแบบปริซึมบริเวณช่วงครึ่งบน ส่วนครึ่งล่างของตัวรถก็เน้นความเหลี่ยมสันแต่เรียบง่าย แถมยังทำขึ้นจากแสตนเลสไม่เคลือบสี และยังทนทานต่อกระสุน .45 ACP และยังมาพร้อมกับขนาดตัวที่ใหญ่โตถึง 2,413.3 มิลลิเมตร ในด้านกว้าง, 5,682.9 มิลลิเมตร ในด้านยาว และ 1,790.8 ในด้านสูง ซึ่งเท่ากับว่ามันมีขนาดตัวรถที่ใหญ่พอๆกับรถ Full-Size Truck ซึ่งใหญ่กว่ารถกระบะ Pick-Up Truck ที่นิยมใช้กันในบ้านเราไปอีกหนึ่งขั้น

ด้านไฮไลท์ในส่วนขุมกำลังและระบบขับเคลื่อน ณ เวลานี้ ตัวรถจะมีการวางจำหน่ายอยู่ 2 ทางเลือกด้วยกัน โดยมีรุ่น Cyberbeast ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนแบบ Tri Motor หรือ ระบบสามมอเตอร์ ขับเคลื่อน 4 ล้อ เป็นตัวท็อป และขุมกำลังที่ว่านี้ก็ให้กำลังรวมกันสูงสุด 857 PS พร้อมทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายใน 2.7 วินาที และมีการจำกัดความเร็วสูงสุดเอาไว้ที่ 210 กิโลเมตร/ชั่วโมง

พร้อมรองรับระยะทางในการใช้งานสูงสุด 515 กิโลเมตร/ชาร์จ หรือเพิ่มขึ้นเป็น 705+ กิโลเมตร/ชาร์จ เมื่อมีการติดตั้งแบตเตอรี่เสริมไว้ที่กระบะท้าย มีขีดความสามารถในการชาร์จไฟด้วยความแรงสูงสุด 250 กิโลวัตต์ และสามารถชาร์จไฟสำหรับระยะทางในการใช้งาน 235 กิโลเมตร ใน 15 นาที

ขณะที่ขีดความสามารถในการบรรทุก ทางค่ายระบุว่าตัวรถ จะสามารถรับน้ำหนักบรรทุกได้มากสุด 1,134 กิโลกรัม และสามารถรองรับน้ำหนักในการลากจูง ได้สูงสุด 4,990 กิโลกรัม ซึ่งดูๆแล้วก็อยู่ในจุดที่ไม่ได้หนีไปจากกระบะตัวแรงหลายๆรุ่นในบ้านเราเท่าไหร่นัก

ด้านราคาสำหรับการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ในตอนนี้มีเพียงการประกาศราคาสำหรับลูกค้าในประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น ด้วยตัวเลขเริ่มต้น 60,990 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราวๆ 2,140,000 บาท ในรุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง ซึ่งกว่าจะพร้อมส่งมอบและคอนเฟิร์มสเป็คที่แน่นอนให้กับลูกค้าได้ คือภายในปี 2025

ส่วนรุ่นกลาง Dual-Motor ก็จะสนนราคาที่ 79,990 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราวๆ 2,807,000 บาท ขณะที่รุ่นท็อป Cyberbeast จะสนนราคาที่ 99,990 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราวๆ 3,510,000 บาท

ขณะที่ราคาสำหรับการวางจำหน่ายในประเทศไทย (หากทางค่ายตั้งใจจะนำมันมาขายจริงๆ ไม่ใช่แค่เอามาโชว์ตัว) เราก็ต้องมาดูกันต่อว่า ตัวรถที่ถูกส่งมาขายในบ้านเรา เป็นตัวรถที่นำเข้ามาจากประเทศสหรัฐอเมริกาโดยตรง หรือเป็นรถที่ถูกขึ้นไลน์ผลิตในประเทศจีน เพราะมันจะมีผลต่อการตั้งราคาที่แตกต่างกันแน่นอน แต่เมื่อดูจากตัวเลขตั้งต้นแล้ว ยังไงก็คงไม่มีทางต่ำกว่า 2.5 ล้านบาทให้เห็นแน่ๆ เว้นแต่ Tesla จะมีเซอร์ไพรส์ให้คนไทยได้ตื่นเต้นกัน

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่