เปิดตัวที่ญี่ปุ่นได้ไม่นานคราวนี้้มาถึงเวอร์ชันตลาดโลกกันบ้างสำหรับ Suzuki Swift เจนที่ 4 ขายุโรปที่แรกและคาดว่าไทยจะใช้หน้านี้ตอบโจทย์แฟนๆ

หน้าตามีคความต่างจากเวอร์ชันญี่ปุ่นเล็กน้อยตั้งแต่กระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมสีดำบางและไม่มีขอบตัวยูโครเมียมต่างจากเวอร์ชันญี่ปุ่นที่ใช้ขอบกระจังหน้าแบบหนาตัดชุดไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED ในชุดกันชนหน้า กันชนหลังไม่มีลิ้นสปอยเลอร์หลังสีดำเพิ่มไฟตัดหมอกหลังมาแทน ไม่มีสเกิร์ตข้าง ชุดไฟหน้า LED ทรงห้าเหลี่ยมโดยไส้ในมีชุดไฟส่องสว่าง DRL แบบ LED รูปตัว L ล้ออัลลอยลายทูโทนขนาด 16 นิ้ว กับขนาด 15 นิ้ว ทั้งแบบล้ออัลลอยและกระทะล้อครอบที่เปิดประตูแบบก้านโยกสี่จุดเป็นครั้งแรกที่ก้านเปิดประตูคู่หลังออกแบบให้อยู่ในตำแหน่งแบบเดียวกับรถทั่วไป ด้านท้ายเด่นด้วยไฟท้าย LED รูปตัว C ฝาท้ายดีไซน์ลงตัว มาในชื่อรหัส YED ยังใช้แพลตฟอร์ม Heartect เช่นเคย

ภายในเหมือนญี่ปุ่นด้วยคอนโซลหน้าโทนสีขาวดำ มาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอแสดงข้อมูล MID จอสัมผัสขนาดใหญ่แบบลอยตัวขนาด 9 นิ้ว เชื่อมต่อ Android Auto รูปแบบใหม่ Apple CarPlay พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านทรงคุ้นตาแบบท้ายตัด เบาะนั่งสปอร์ต 5 ที่นั่งออกแบบใหม่ให้นั่งสบายมากขึ้นพร้อมเบาะนั่งหลังพับได้แบบ 60/40 หุ้มด้วยผ้าสีดำเข้มเดินด้านสวยงาม สบายขึ้นด้วยเบรกมือไฟฟ้า Electric parking brake (EPB) พร้อม Auto Hold แทนแบบเดิมที่เป็นคันโยก

ขุมพลังใหม่หมดด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร ในรหัสใหม่ Z12E ให้กำลังสูงสุด 83 แรงม้า แรงบิด 112 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที นอกจากเวอร์ชันเบนซินล้วนยังมีเวอร์ชัน Mild Hybrid พ่วงด้วยแบตเตอรี่ก้อนเล็กสุด Lithium lon 6Ah 12V จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็ก Integrated Starter Generator (ISG) ช่วยเสริมกำลังเครื่องยนต์ทั้งแรงและเร้าใจขึ้นแบบ SVHS (Suzuki Hybrid Vehicle  System) กำลังสูง 3.1 แรงม้า แรงบิด 60 นิวตันเมตรคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ลูกใหม่ และเกียร์ธรรมดา 5 สปีด เลือกได้ทั้งขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อนสี่ล้อ Full-Time 4WD และความปลอดภัยเต็มคัน Suzuki Safety Support เตรียมขายยุโรปช่วงต้นปีหน้ามีทั้งแบบสีโมโนโทนและสีทูโทนหลังคาดำ ส่วนเมืองไทยมาแน่นอนแต่จะมาปีหน้าหรือไม่ทางเราจะนำมาเสนอในครั้งต่อไป

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่
Tags: