ครั้งแรกของค่ายรถตรานางฟ้าอย่าง Rolls-Royce เปิดตัวอัลตร้าลักชัวรีอิเล็กทริค ซูเปอร์คูเป้ รุ่นแรกกับ Rolls-Royce Spectre อย่างเป็นทางการในไทย

Rolls-Royce Spectre รถคูเป้Full Size ที่ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบนำรูปลักษณ์อันโดดเด่นและประณีตในทุกรายละเอียดกระจังหน้าทรง Pantheon grille มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยติดตั้งซี่กระจังผลิตจากสเตนเลสปัดเงาพร้อมผิวสัมผัสนุ่มเรียบซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากเสาของวิหารแพนธีออน อลังการด้วยไฟ LED 22 ดวง ที่ส่องแสงกระทบกับพื้นหลังเสาที่ผ่านการพ่นทราย เกิดเป็นมุมมองที่งดงามแบบ 3 มิติยามค่ำคืนเอกลักษณ์เด่นกับสัญลักษณ์นางฟ้าบริเวณหน้ารถ (Spirit of Ecstacy) ถูกรังสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษไฟหน้าแบบแยกส่วนลงตัวกับเส้นสายตัวถังอันเฉียบคม ขณะที่เส้นตัวถังบริเวณข้างประตู (waft line) ให้ความรู้สึกเหมือนเรือที่ลอยเหนือผิวน้ำ สะท้อนถึงความนุ่มสบายของการขับเคลื่อนแบบ ‘magic carpet ride’ อันเลื่องชื่อ ไฟท้ายแบบออกแบบให้ปราศจากสีสันโดยสิ้นเชิง เพื่อให้สามารถเข้ากับสีของตัวถังที่มีให้เลือกไม่จำกัด ปิดท้ายด้วยล้อขนาดอลังการ 23 นิ้ว ซึ่งติดตั้งเป็นครั้งแรก และประตูรถยาว 1.5 เมตร แบบไร้เสากลา เชื่อมด้วยเลเซอร์ ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์เพื่ออำนวยความสะดวกในการเปิด-ปิด พร้อมฟังก์ชันพิเศษที่เมื่อผู้ขับเหยียบเบรก ประตูจะปิด โดยอัตโนมัติ

ภายในพรั่งพร้อมด้วยเทคโนโลยีและหลากหลายฟีเจอร์พิเศษอาทิ ประตูดาว (Starlight Doors) ซึ่งติดตั้งเป็นครั้งแรกในการการผลิต ส่องแสงอ่อนๆ เป็นประกายระยิบระยับ ผ่าน 4,796 ดวงดาว หรือหากลูกค้าต้องการ ก็สามาเลือกติดตั้งแผงไม้ คานาเดล (Canadel panelling) ที่ผลิตขึ้นด้วยมือจากไม้ชั้นเลิศงดงามกับแดชบอร์ดเรืองแสง (Illuminated Fascia) บริเวณฝั่งผู้โดยสาร ผ่านการฉลุเป็นชื่อ ‘SPECTRE’ ล้อมรอบด้วยประกายดาวมากกว่า 5,000 ดวง ส่วนเบาะคู่หน้าก็สามารถเลือกสีบริเวณปีกเบาะ ให้เข้ากันกับบริเวณรองนั่ง หรือเลือกสีตัดกันได้ตามชอบในสไตล์เทเลอร์เมดตามแบบชาวอังกฤษ รวมไปถึงส่วนอื่นๆ ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้ากำหนดรายละเอียดแบบ Bespoke ได้ตามจินตนาการไร้ขีดจำกัด

ขับเคลื่อนเป็นไปอย่างรวดเร็วด้วยขุมพลังไฟฟ้าแบบมอเตอร์คู่แบบ Separately Excited Synchronous Motor (SSM) ขับเคลื่อนสี่ล้อด้วยแบตเตอรี่ลิเธียม-ไออนที่มีความจุขนาดใหญ่ 102 kWh มอเตอร์ไฟฟ้าคู่หน้าให้กำลัง 258 แรงม้า แรงบิด 365 นิวตันเมตร มอเตอร์ไฟฟ้าคู่หลัง 490 แรงม้า แรงบิด 710 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังรวมสูงสุด 584 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 900 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้งมากว่า 530 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP สามารถทำความเร็ว 0–100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 4.5 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 249 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ชาร์จมีสองรูปแบบทั้งชาร์จกระแสตรง DC 10-80% รองรับการชาร์จสูงสุด 195 kW ภายในเวลา 34 นาที หรือชาร์จ DC 10-80% รองรับการชาร์จสูงสุด 50 kW  ภายในเวลา 95 นาที และชาร์จกระแสสลับ AC 0-100% รองรับการชาร์จสูงสุด 22 kW ในเวลา 5.30 ชั่วโมง มาพร้อมระบบกักเก็บพลังงานจากการเบรก (Braking recuperation) โดยระบบจะทำงานเมื่อผู้ขับกดปุ่มที่มีสัญลักษณ์ ‘B’ บริเวณก้านควบคุม ซึ่งการใช้งานใน ‘Brake Mode’ รถยนต์จะมีการหน่วงอัตโนมัติเมื่อผู้ขับยกคันเร่ง จากการกักเก็บพลังงานที่มากขึ้น ส่งผลให้สามารถขับได้ โดยแทบไม่ต้องแตะเบรก (Single-pedal driving) แต่หากผู้ขับเลือกใช้โหมด ‘low recuperation’ อาการหน่วงเมื่อยกคันเร่งจะมีไม่มากนัก ให้ความรู้สึกคล้ายการขับ Rolls-Royce ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปมากกว่า

พร้อมช่วงล่าง Planar ด้วยการตรวจจับด้วยเซนเซอร์ 18 ตัวและตัวกําหนดการทํางานของระบบการบังคับเลี้ยว การหยุดรถ ระบบส่งกําลังถูกปรับไปตามสถานการณ์ ระบบช่วงล่างสามารถตัดการเชื่อมต่อของเหล็กกันโคลง ช่วยให้แต่ละล้อสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระขณะที่เมื่อเข้าโค้ง ระบบจะเพิ่มความหนืดโช้กอัพ เตรียมพร้อมสำหรับการเลี้ยว 4 ล้อ เพื่อให้สามารถเข้าและออกโค้งได้อย่างราบรื่น เพื่อความสมบูรณ์แบบของประสิทธิภาพการทรงตัวและเกาะถนนโดยจำหน่ายเริ่มต้น 31,800,000 บาท และจะเริ่มส่งมอบให้กับลูกค้ารายแรกในไตรมาสที่ 4 ของปี 2024 ส่วนคนที่จองล็อตหลังนั้นจะได้รถอีกทีในปี 2025

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่